2ล้อปั่นวางยุทธศาสตร์ จัดศึกนานาชาติ ตั้งเป้าเก็บแต้มสะสมไปอลป.

“สองล้อ” วางแผนยุทธศาสตร์จัดการแข่งขันขันรายการนานาชาติเพื่อเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประเดิมด้วยศึกจักรยานถนนทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” วันที่ 1-10 เม.ย.66 เส้นทางจากภาคตะวันตกสู่ภาคตะวันออก ต่อด้วยจักรยานถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 วันที่ 7-13 มิ.ย..65 ที่อ่างเก็บน้ำดอกกราย จ.ระยอง ซึ่งนักปั่นที่ได้แชมป์และรองแชมป์รายการโรดเรซ รุ่นประชาชนชาย-หญิง จะได้ตั๋วไป “ปารีสเกมส์” โดยอัตโนมัติ และศึกสองล้อลู่นานาชาติ “แทร็ก เอเชีย คัพ 2023” วันที่ 27-31 ก.ค.65 ที่ จ.สุพรรณบุรี ด้านการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย มีการลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ให้เป็นรายการระดับนานาชาติ ในประเภทเสือภูเขา ระดับ C1 จำนวน 2 สนาม, ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ระดับ C1 จำนวน 3 สนาม ระดับ CN อีก 1 สนาม และประเภทถนน ระดับ CN จำนวน 1 สนาม

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า แผนงานในปี 2566 ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้กำหนดยุทธศาสตร์เอาไว้ นอกเหนือจากการจัดแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยประเภทต่าง ๆ รวม 28 สนามแล้ว สมาคมฯ ยังวางแผนจัดการแข่งขันรายการระดับนานาชาติหลายรายการ เพื่อเป้าหมายให้นักปั่นไทยได้มีโอกาสเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึงการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ที่สมาคมฯ ได้ลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ให้เป็นการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ ทั้งประเภทเสือภูเขา บีเอ็มเอ็กซ์ และถนน โดยแต่ละรายการจะมีนักปั่นจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมแข่งขันด้วย เนื่องจากมีคะแนนสะสมโอลิมปิกเช่นกัน

พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันระดับนานาชาติรายการแรกคือการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2565 เส้นทางจากภาคตะวันตกสู่ภาคตะวันออก ซึ่งสมาคมฯ ได้ลงทะเบียนกับ ยูซีไอ ในระดับ 2.1 โดยประเภททีมชายแข่งขันระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน 2566 เริ่มจากจังหวัดกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี-อ่างทอง-พระนครศรีอยุธยา-ลพบุรี-สระบุรี-นครราชสีมา-ปราจีนบุรี-สระแก้ว-จันทบุรี และสิ้นสุดที่จังหวัดระยอง ระยะทางรวม 1,035.50 กม. ส่วนประเภททีมหญิงแข่งขันระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2566 เส้นทางภายในจังหวัดระยอง ระยะทางรวม 213.20 กม. รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,248.70 กม.

การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023 ได้รับความสนใจจากทีมต่าง ๆ ทั่วโลก ล่าสุด มีทีมระดับอาชีพแสดงความจำนงเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 20 ทีมแล้ว ทั้งจากทวีปยุโรป อเมริกา และเอเชีย แต่ทั้งนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะเน้นเชิญทีมจากทวีปเอเชียเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้นหลังวิกฤติการณ์โรคไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงไป อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน, มาเลเซีย, ไต้หวัน, ฮ่องกง เป็นต้น โดยประเภทชายมีทีมจากประเทศไทยเป็นทีมยืนอยู่แล้ว 4 ทีม ประกอบด้วย ทีมอาชีพ 3 ทีม คือ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม, ทีมรู้ใจดอทคอม, ทีมแกรนท์ ธอร์นตัน และทีมชาติไทยอีก 1 ทีม ส่วนประเภทหญิงมีทีมอาชีพ 1 ทีม คือ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม และทีมชาติไทยอีก 1 ทีม” พลเอกเดชา กล่าว

“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ยังได้รับการคัดเลือกจากสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ระหว่างวันที่ 7-13 มิถุนายน 2566 โดยใช้เส้นทางรอบอ่างเก็บน้ำดอกกราย จังหวัดระยอง เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน คาดว่าบรรดาชาติสมาชิกของ เอซีซี ทั้งหมด 42 ชาติ จะส่งนักปั่นมาร่วมแข่งขันไม่ต่ำกว่า 300 คน เพราะเป็นรายการสำคัญที่นอกจากนักปั่นเอเชียจะได้สะสมคะแนนเพื่อคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์แล้ว นักกีฬาที่ได้อันดับ 1 และ 2 ในการแข่งขันรายการโรดเรซ รุ่นประชาชนชาย และประชาชนหญิง จะได้รับสิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้นักปั่นที่ได้อันดับอื่น ๆ ก็จะได้คะแนนสะสมลดหลั่นกันลงไป รวมทั้งจะได้คะแนนสะสมของประเทศอีกด้วย

นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายาที่สื่อกีฬาตั้งให้ล่าสุดว่า “หมึกติดเทอร์โบ” กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ กำหนดจัดการแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ รายการ “แทร็ก เอเชีย คัพ 2023” และรายการฉลองครบรอบ 64 ปี สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระหว่างวันที่ 27-31 กรกฎาคม ที่เวโลโดรม สนามกีฬาแห่งที่ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้ลงทะเบียนอยู่ในฏิทินของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ในระดับคลาส 2 ซึ่งปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากชาติต่าง ๆ ส่งนักกีฬามาร่วมการแข่งขันจำนวนมาก อาทิ มาเลเซีย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, คาซัคสถาน, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ เป็นต้น นอกจากจะเป็นการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 แล้ว ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจภายในจังหวัดให้มีความคึกคัก และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรีได้อีกทางหนึ่งด้วย

พลเอกเดชา เปิดเผยอีกว่า ส่วนการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ลงทะเบียนกับ ยูซีไอ ให้เป็นรายการระดับนานาชาติ ประเดิมด้วยการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” ประจำปี 2566 สนามที่ 1 วันที่ 27-29 มกราคม 2566 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งสมาคมฯ ลงทะเบียนกับ ยูซีไอ ให้การแข่งขันรายการไทม์ไทรอัล และรายการโรดเรซ เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ CN โดยนักกีฬาที่ชนะเลิศการแข่งขันในรุ่นประชาชนชาย-หญิง จะได้สิทธิ์สวมเสื้อสีขาวที่มีลายธงชาติไทย ตามระเบียบของ ยูซีไอ ไปแข่งขันรายการต่าง ๆ ในฤดูกาล 2024 ที่ ยูซีไอ รับรองได้ทั่วโลก

“สำหรับการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2566 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ลงทะเบียนกับ ยูซีไอ รายการครอสคันทรี่ ให้เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ C1 จำนวน 2 สนาม ประกอบด้วย สนามที่ 3 วันที่ 2 มีนาคม 2566 ที่อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร และสนามที่ 5 วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งการแข่งขันระดับ C1 จะมีคะแนนสะสมโอลิมปิก 2024 ที่สูงกว่าระดับ CN โดยจะมีนักกีฬาจากต่างประเทศเดินทางมาร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก จะช่วยทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีความคึกคัก” นายกสองล้อไทย กล่าว

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันการแข่งขันจักรยานประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2566 ได้ลงทะเบียนกับยูซีไอ ให้เป็นการแข่งขันระดับ C1 จำนวน 3 สนาม ประกอบด้วย สนามที่ 1 วันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2566, สนามที่ 2 วันที่ 18-19 มีนาคม 2566, สนามที่ 4 วันที่ 8-9 กรกฎาคม 2566 และยังได้ลงทะเบียนในระดับ CN อีก 1 สนาม คือสนามที่ 3 วันที่ 1-2 กรกฎาคม 256 โดยทุกสนามจะทำการแข่งขันที่สวนกีฬากมล ถนนสุวินทวงศ์ เขตหนองจอก กทม. ของเอฟบีที

“จะเห็นได้ว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ ทำงานกันตลอดทั้งปีโดยไม่เคยหยุดนิ่ง แม้กระทั่งเทศกาลปีใหม่ก็ไม่เคยหยุดพัก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้นักปั่นไทยเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ให้ได้มากที่สุด อีกทั้งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาจักรยานของไทยให้มีความก้าวหน้ายืนหนึ่งหัวแถวของทวีปเอเชีย นอกจากนี้ในส่วนของนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ทั้งประเภทถนน ประเภทเสือภูเขา และประเภทลู่ ก็เข้าแค้มป์เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน โดยไม่มีการหยุดพักช่วงปีใหม่ ก็ขอฝากถึงพี่น้องชาวไทยทุกท่านช่วยติดตามผลงานของสมาคมกีฬาจักรยานฯ และส่งกำลังใจให้นักกีฬาทีมชาติไทยด้วย พวกเราทุ่มเททำงานเพื่อสร้างผลงานให้แก่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาสมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่เคยทำให้พี่น้องชาวไทยผิดหวัง” พลเอกเดชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทนนิสโลก'วางใจประเทศไทย ไฟเขียวจัดแข่งหวดนานาชาติอีก

นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ สมาคมฯ ได้จัดการแข่งขันเทนนิสผ่านไปแล้วเกือบ 30 รายการ เพื่อให้นักกีฬาทุกระดับได้มีเวทีในการแข่งขัน โดยเฉพาะระดับอาชีพ ซึ่งมีทั้งรายการนานาชาติ และภายในประเทศ ล่าสุด สมาพันธ์นักเทนนิสชาย หรือ เอทีพี ยังได้ไว้วางใจมอบให้สมาคมฯ จัดการแข่งขันเทนนิสอาชีพชาย เอทีพี ชาลเลนเจอร์ ระดับ 100 รายการ Bangkok Challenger (บางกอก ชาลเลนเจอร์) ชิงเงินรางวัลรวม 133,250 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,863,625 บาท ณ ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ระหว่างวันที่ 22-29 ก.ย. 2567

คว้าตั๋วโอลิมปิก5ใบ จักรยานไทยผลงานกระหึ่ม 'จาย'ได้โควตาล่าสุด

“สองล้อ” สร้างผลงานกระหึ่ม คว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 เพิ่มเป็น 5 ที่นั่ง จาก “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” นักปั่นประเภทลู่ระยะสั้น หลังเก็บคะแนนสะสมรั้งอันดับที่ 13 ของโลก นับเป็นการคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ด้าน “มร.ไทรอน โจนส์” ผู้ฝึกสอนของศูนย์ฝึกจักรยานโลก ส่งหนังสือร่วมแสดงความยินดีที่นักปั่นไทยซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ฝึกฯ คว้าตั๋ว “ปารีสเกมส์” ถึง 2 คน ทั้ง “จาย” และ “โกเมธ สุขประเสริฐ” นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง ซึ่งได้โควตาไปก่อนหน้านี้ โดย “โกเมธ” ยังคงปักหลักฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นภายใต้การกำกับดูแลของ “มร.ฮาร์วี่ เครป” ผู้ฝึกสอนชาวสวิส เพื่อเตรียมสู้ศึกบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ระหว่างวันที่ 29-31 พ.ค.67 ที่สวนกีฬากมล กทม.

จักรยานเดินหน้าลุยต่อ ส่งไปแข่งรายการนานาชาติ เตรียมพร้อมโอลิมปิก-ซีเกมส์

“สองล้อ” ทำงานต่อไม่รอช้า เตรียมส่งนักปั่นทั้งประเภทลู่-เสือภูเขา-ถนน ไปแข่งขันรายการนานาชาติตามแผนยุทธศาสตร์ด้านพัฒนานักกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศ อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 และเตรียมทีมสู้ศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2568 รวมทั้งจัดจักรยานหนูน้อยขาไถ ชิงแชมป์ประเทศไทยฯ เพื่อวางรากฐานการปั่นจักรยานให้แก่หนูน้อยอายุ 1.6 ปี ถึงอายุ 10 ปี ประเดิมสนามแรกรอบชิงแชมป์ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 21 เม.ย.67 โดยหนูน้อยจากทั่วประเทศสามารถสมัครร่วมแข่งขันได้

'จุฑาธิป'อันดับโลกขึ้น55อันดับ ส่วนอันดับประเทศจาก36พุ่งไปที่26 หลังคว้าแชมป์ทางไกล

“จุฑาธิป มณีพันธุ์” อันดับโลกพุ่งพรวดจากที่ 135 ไปอยู่ที่ 80 ของโลก ขยับสูงขึ้นถึง 55 อันดับ หลังทำผลงานได้สุดยอดคว้าแชมป์ศึกสองล้อทางไกล “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” พร้อมทำคะแนนให้ประเทศไทยขยับอันดับเวิลด์ แรงกิ้ง ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) จากที่ 36 ไปอยู่ที่ 26 ของโลก ขณะที่ “หลุยส์ โจนส์” หัวหน้าผู้ตัดสินชื่นชมประเทศไทยจัดการแข่งขัน “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ได้อย่างยอดเยี่ยม มีการแกไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีจนการแข่งขันเรียบร้อยทุกสเตจ โดยเฉพาะการวางเส้นทางที่ผ่านอุทยานประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก อีกทั้งวางแผนรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ดีเยี่ยม

จักรยานกีฬาซีเกมส์ที่ไทย มีชิงทองครบ4ประเภท เน้นรายการที่แข่งโอลิมปิก

“พลเอกเดชา” เผยมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ.2568 จะมีการบรรจุการชิงเหรียญทองกีฬาจักรยานครบทั้ง 4 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทถนน, ลู่, เสือภูเขา และบีเอ็มเอ็กซ์ โดยจะยึดหลักรายการที่บรรจุในโอลิมปิกเกมส์และรายการชิงแชมป์โลกเป็นหลัก ขณะที่การคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติไทยจะพิจารณาจากผลงานการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ประเภทต่าง ๆ ทั้ง 5 สนาม

2ล้อไม่หยุดปีใหม่ เดินหน้าล่าตั๋วโอลิมปิกต่อ 'จาย'แข่งศึกใหญ่4รายการ

“สองล้อ” ไม่หยุดพักช่วงเทศกาลปีใหม่ เดินหน้าล่าแต้มเพื่อคว้าตั๋ว “โอลิมปิกเกมส์ 2024” เพิ่มเติมจาก “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” นักปั่นทีมชาติไทยประเภทลู่ที่มีคิวลงแข่งขัน 4 รายการใหญ่ในศึก ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ จำนวน 3 สนาม และจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่อินเดีย โดย “จาย” จะปักหลักฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ต่อเนื่องยาวข้ามปี เพื่อลุ้นตั๋วใบที่ 5 ให้แก่ทัพจักรยานไทย