เที่ยวเชียงใหม่...เบิกบานในม่านฝน

ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ชวนไปเติมพลังความสุข สดชื่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศเย็นสบาย ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี รายล้อมด้วยขุนเขา สัมผัสวิถีชีวิตมุมใหม่สไตล์กรีนๆ พร้อมร่วมกิจกรรมหลากหลายเติมชีวิตธรรมดาให้มีสีสันในช่วงฤดูฝน

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูฝน หรือกรีนซีซั่น (Green Season)  จังหวัดเชียงใหม่นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบาย  แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีความเขียวขจี ชุ่มฉ่ำ งดงาม ทำให้รู้สึกสดชื่น เหมาะสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อน โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางสายใต้ อำเภอแม่แจ่ม เส้นทางสายเหนือ อำเภอแม่แตง-อำเภอเชียงดาว-อำเภอเวียงแหง และเส้นทางสายตะวันออก ไปทางอำเภอแม่ออน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกไปสัมผัสได้โดยมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจดังนี้

ทุ่งนาเขียวขจี ที่บ้านป่าบงเปียง อ.แม่แจ่ม

เส้นทางสายใต้ อำเภอแม่แจ่ม มีไฮไลต์อยู่ที่ บ้านป่าบงเปียง เป็นชุมชนเล็กๆ ของชาวปกาเกอะญอ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ใกล้กับอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สามารถมองเห็นทุ่งนาขั้นบันไดและทิวเขาสูงสลับซับซ้อนที่โอบล้อมรอบตัว  ทุ่งนาข้าว จะเปลี่ยนสีไปตามช่วงเวลาให้ความงดงามแตกต่างไปคนละแบบ หากไปช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงดำนา จะเห็นวิวต้นกล้าที่เพิ่งยืนต้น และสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกสะท้อนน้ำเป็นสีเหลืองทอง ส่วนเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน จะเริ่มมองเห็นนาขั้นบันไดสีเขียวขจีที่ชุ่มฉ่ำแบบ 360 องศา แต่ถ้าเดินทางมาในช่วงปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว นาข้าวจะเป็นสีเหลืองทองพร้อมเก็บเกี่ยว 

ที่นี่มีที่พักแบบโฮมสเตย์หลายแห่ง เน้นความเรียบง่าย ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำน้ำอุ่น แต่อากาศค่อนข้างสบาย ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป ส่วนสัญญาณโทรศัพท์อาจไม่ค่อยดีนักเพราะเป็นพื้นที่ภูเขา แต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้ที่ต้องการพักกาย พักใจ จากสิ่งรบกวนภายนอก และนอกจากวิวทิวทัศน์ที่ตามปกติจะมองเห็นภูเขาโอบล้อมอย่างสวยงามอลังการแล้ว หากวันใดที่ฝนตกเราก็จะมองเห็นทะเลหมอก แบบที่เรียกว่า “วิวหลักล้าน” อีกด้วย

จุดชมวิวดอยม่อนเงาะ อ.แม่แตง

หากเลือกไปเส้นทางสายเหนือ บนเส้นทางอำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว และอำเภอเวียงแหง ก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้หลายแห่ง เช่น ดอยม่อนเงาะ อยู่ที่อำเภอแม่แตง ห่างจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,425 เมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นยอดดอยสูงลดหลั่นกันไปไกลสุดตา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติและอากาศที่หนาวเย็น ชมความสวยงามของทะเลหมอกที่ทอดยาวตามหุบเขา และในช่วงเย็นสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย

ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยเชียงดาว เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนรักธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว ยอดสูงสุดของดอยเชียงดาว เรียกว่า ดอยหลวงเชียงดาว มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำ สูง 2,195 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นยอดดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศ รองจากดอยอินทนนท์และดอยฟ้าห่มปก จากบนยอดดอยซึ่งเป็นที่ราบแคบๆ  สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน คือ ทะเลหมอกด้านอำเภอเชียงดาว ดอยสามพี่น้อง เทือกดอยเชียงดาว ตลอดจนถึงยอดดอยอินทนนท์อันไกลลิบ อากาศเย็น ลมแรง อุดมสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่าภูเขาที่หาชมได้ยาก รวมทั้งมีนกและผีเสื้อนานาชนิด

บรรยากาศเมืองคอง อ.เชียงดาว

ถัดไปอีกนิด รับประกันถูกใจคนที่ชอบสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน เพราะที่นั่นมี เมืองคอง ชุมชนเล็กๆ  ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว ด้านหลังของดอยหลวงเชียงดาว เป็นชุมชนที่ยังคงเอกลักษณ์พื้นบ้าน อากาศบริสุทธิ์ และเงียบสงบ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นปลา ผักป่า และสมุนไพรนานาชนิด หากเดินทางมาในช่วงฤดูทำนาก็จะได้พบกับความเขียวขจีของนาข้าวตลอดสองข้างทาง กิจกรรมท่องเที่ยวที่เมืองคองมีตั้งแต่พักผ่อนท่ามกลางทะเลหมอก จนถึงล่องแพท่ามกลางขุนเขา โดยมีที่พักและโฮมสเตย์เปิดบริการหลายแห่งให้เลือกได้ตามความต้องการ

กิจกรรมล่องแพที่เมืองคอง

จุดชมวิวดอยดำ เป็น 1 ใน 25 แหล่งท่องเที่ยวสุดอะเมซิ่ง Unseen New Chapters 2023 ของ ททท. ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง มีความสูงถึง 1,835 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศเย็นตลอดปี เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกยามเช้า บนจุดชมวิวดอยดำเรายังสามารถมองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาว และสามารถชมพระอาทิตย์ตกของอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้อีกด้วย

จุดชมวิวดอยคำ อ.เวียงแหง

จุดชมดอยวิวดำ ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 อัญมณีสีดำของอำเภอเวียงแหง ซึ่งประกอบด้วย 1.จุดชมวิวดอยดำ 2.คาเวียร์สีดำ จากแหล่งเลี้ยงปลาเทราต์และปลาสเตอร์เจียน ในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ 3.ท้องฟ้าสีดำ Dark Sky กับทางช้างเผือก ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 4.ผลิตภัณฑ์ถั่วเน่าสีดำหรือถั่วเหลืองหมัก ซึ่งเป็นสินค้าโอทอปของอำเภอเวียงแหง 5.ตามรอยเส้นทางเดินทัพพระองค์ดำ หรือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสได้ ถ้ามีโอกาสมาเยือนอำเภอเวียงแหงก็ควรจะมาตามรอยอัญมณีสีดำเหล่านี้สักครั้ง

แม่กำปอง อ.แม่ออน หมู่บ้านในฝัน

ถัดมาเป็นเส้นทางสายตะวันออก อำเภอแม่ออน แน่นอนว่าพลาดไม่ได้กับบ้านแม่กำปอง หมู่บ้านเก่าแก่ที่ทำการเกษตรแบบดั้งเดิม อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปประมาณ 55 กิโลเมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามบนเขาสูงซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ โดยแบ่งเขตแดนระหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดเชียงใหม่ แวดล้อมด้วยไร่ชา กาแฟ และเป็นหมู่บ้านที่ทำการแปรรูปเมี่ยงมากว่า 100 ปี 

สุดชิลที่บ้านแม่กำปอง

ผู้มาเยือนจะได้ศึกษาและสัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าจากการเยี่ยมชมและทำกิจกรรมสวนเมี่ยง นอกจากนี้ ที่บ้านแม่กำปองยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่สามารถไปท่องเที่ยวได้รอบหมู่บ้าน อาทิ โครงการหลวงตีนตก,  ผาน้ำลอด, บ้านฮิมห้วย ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง โฮมสเตย์ที่มีชื่อเสียง, วัดคันธาพฤกษา, น้ำตกแม่กำปอง ฯลฯ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างคืนที่นี่ก็มีโฮมสเตย์แนวอนุรักษ์เปิดให้บริการเพื่อรองรับอยู่หลายแห่ง

ชีวิต slow life ที่บ้านแม่ลาย อ.แม่ออน

ไม่ไกลจากบ้านแม่กำปอง มี บ้านแม่ลาย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา บรรยากาศโอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ที่นี่ยังคงความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไว้อย่างดี ให้บรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อน โดยมีทั้งบ้านพักริมน้ำและบ้านพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่เปิดให้บริการ

นอกจากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ททท.สำนักงานเชียงใหม่ยังร่วมมือกับพันธมิตรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเติมสีสันให้กับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2566 ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้ดังนี้

งานวิจิตร@เชียงใหม่ สีสันแห่งเส้นเสียง น้ำพุร้อนสันกำแพง

กิจกรรมแรกพลาดไม่ได้กับงาน "วิจิตร@เชียงใหม่ สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง" โครงการตามพระราชดำริ ชมการแสดงเลเซอร์ผ่านม่านน้ำพุร้อนภายใต้คอนเซปต์  "Springs of Life น้ำพุแห่งชีวิต" ที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตจากอดีตสู่ปัจจุบัน ของกิจการน้ำพุร้อนสันกำแพงที่ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ ให้โอกาส ให้คุณภาพชีวิต มอบสุขภาพและความสุขสู่ปวงชนชาวไทย และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2566

มหัศจรรย์ลำธาร งานวิจิตร@เชียงใหม่

อุโมงค์โคมสวยงาม งานวิจิตร@เชียงใหม่

โดยมีการจัดงานตั้งแต่วันที่ 24-30 กรกฎาคม 2566 เวลา 17.00-22.00 น. สถานที่จัดงานอยู่ที่ น้ำพุร้อนสันกำแพง โครงการตามพระราชดำริ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างการจัดงานมีบริการรถรับ-ส่งฟรี โดยบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เริ่มเดินทางจากบิ๊กซี ดอนจั่น ถึงน้ำพุร้อนสันกำแพง โดยรถออกทุก 15 นาที ขาไป (จากบิ๊กซี ดอนจั่น) ตั้งแต่เวลา 16.00-19.30 น. ขากลับ (จากน้ำพุร้อนสันกำแพง) ตั้งแต่เวลา 19.30-21.30 น.

สุดผ่อนคลาย สปาจักรราศี (Zodiac)

กิจกรรมต่อมา เอาใจคนที่ชอบการผ่อนคลายให้สบายตัว โดย ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับสมาคมล้านนาสปา จัดแคมเปญ Amazing Weekday Payless: Relaxing in the Rain  “นวดตามธาตุ ผ่อนคลายตามราศี” ชูจุดขายส่งมอบประสบการณ์การนวดเพื่อรักษาและมากกว่าการทำสปาทั่วไป ด้วยการผสมผสานระหว่างศาสตร์ล้านนากับความทันสมัยของสปาแนวใหม่ จัดทำเมนูผ่อนคลาย บำบัดสุขภาพให้สอดคล้องกับธาตุและราศีของแต่ละคน พร้อมมอบส่วนลด 20% เพียง 1,999 บาท จากราคาปกติ 2,499 บาท พบกับบริการสุดพิเศษนี้ได้ที่ OASIS SPA Chiang Mai (ทุกสาขา), ZIRA SPA, FAH LANNA SPA, LANNA COME SPA, U Spa @U Hotel และ SPA MANTRA ตั้งแต่วันนี้-สิงหาคม 2566

สุดยอดมหกรรมกอล์ฟแห่งปี

ส่วนคนที่โปรดปรานกีฬากอล์ฟ พลาดไม่ได้ กับ Chiang Mai Golf Festival 2023 ที่ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับสมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือ จัดกิจกรรมสุดยอดมหกรรมกอล์ฟแห่งปี (Tournament Championship) ในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 รวมโปรโมชั่นกอล์ฟเชียงใหม่ ที่พัก สปา ราคาพิเศษ จาก 9 สนามดังของเชียงใหม่ ลำพูน พร้อมเติมเต็มวันธรรมดาช่วงกรีนซีซั่นให้เป็นวันพิเศษ กับกิจกรรม Amazing Weekday Payless: Chiang Mai Golf Fest มอบสิทธิประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยว/นักกอล์ฟ โดยลงทะเบียนรับสิทธิ์ ผ่านระบบ QR Code เพื่อรับ e-Cash Voucher มูลค่า 150 บาท สำหรับเป็นสิทธิประโยชน์ในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม จำนวนจำกัดเพียง 900 สิทธิ์เท่านั้น เริ่มวันที่ 16 มิถุนายน-31 สิงหาคม 2566 กับ 7 สนามกอล์ฟชื่อดังเชียงใหม่-ลำพูน  ได้แก่ Gassan Lagacy Golf Club, Gassan Panorama Golf Club, Mae Jo Golf Resort & Spa, Gassan Khuntan Golf & Resort, Chiang Mai Highlands Golf & Spa Resort, North Hill Golf Club, Summit Green Valley Chiang Mai Country Club

นอกจากนี้ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ยังผนึกกำลังกับ ททท. สำนักงานเพชรบุรี, ททท. สำนักงานหาดใหญ่ และ ททท. สำนักงานกระบี่ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงข้ามภูมิภาค โครงการ The Link “Local to Global” พร้อมจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างพื้นที่ 3 เส้นทาง ได้แก่เส้นทางที่ 1 : The Royal Route “ภิรมย์นาวา (เชียงใหม่) สู่พริบพรีภิรมย์ (เพชรบุรี)” นำเสนอการส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวหวนรำลึกถึงอดีตที่เคยถวิลหา สำหรับกลุ่มผู้หญิงและวัยทำงาน โดยทางเชียงใหม่ทำ “ภิรมย์เวียงพิงค์” ชูความโดดเด่นของ Soft Power ผ่านมิติ 2F คือ Fashion ด้วยการชวนนักท่องเที่ยวมาใส่ชุดสมัยเจ้าดารารัศมี สวมผ้าซิ่น นั่งเรือล่องแม่น้ำปิง จิบชายามบ่าย และ Film ชมแหล่งถ่ายทำละครและภาพยนตร์ เช่น วัดต้นเกว๋น เฮือนศรีมันตรา จากละครเรื่องกลิ่นกาสะลอง ส่วนจังหวัด “เพชรบุรี” จะขาย “พริบพรีภิรมย์” เส้นทางในแบบราชวงศ์ 

โครงการ The Link เที่ยวข้ามภาค

เส้นทางที่ 2 : Bleisure Route เส้นทางเชียงใหม่-สงขลา เส้นทางท่องเที่ยว Workcation Paradise & MICE นำเสนอการท่องเที่ยวควบคู่กับการศึกษาดูงาน โดยใช้สถานที่จัดการประชุมหรือการอบรมขนาดใหญ่ หรือสวนพฤกษศาสตร์ หรือแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ เช่น ไนท์ซาฟารี เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มบริษัท องค์กรและกลุ่ม Incentive

เส้นทางที่ 3 : Go Green เส้นทางเชียงใหม่-กระบี่ เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยเชียงใหม่จะนำเสนอความงดงามของป่าหน้าฝน เช่น นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง 
ดอยอินทนนท์ กิจกรรมนั่งรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนในจังหวัดกระบี่เสนอการท่องเที่ยว ทะเลในแบบกรีน ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มครอบครัว

โครงการ The Link Local to Global นี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในพื้นที่เชื่อมโยงเป็นอย่างดี เพราะการเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ทำได้สะดวก เนื่องจากมีการคมนาคมทั้งทางบกโดยรถยนต์ รถไฟ และทางอากาศ ที่มีสายการบินภายในประเทศที่สามารถเดินทางไปยังจังหวัดกระบี่และสงขลา

ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่ากิจกรรมการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวในช่วงกรีนซีซั่นนี้ จะมีความสวยงาม เย็นสบาย ให้ความสดชื่นแก่จิตใจ
ของนักเดินทาง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างจากการเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว หรือฤดูร้อน

นอกจากนี้ ททท.ยังให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเป็นอย่างมาก ด้วยการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ช่วยกันดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และดำเนินธุรกิจแบบคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ควรทำเท่านั้น หากแต่ต้องทำ และถือเป็นเทรนด์ของโลก ประกอบกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่จับตามองของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต้องการเห็นการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับแนวทางการดูแลอนุรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม การมีส่วนช่วยลดมลพิษ ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก ททท. จึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบอย่างจริงจังในทุกกิจกรรมที่ทำได้

ผู้สนใจติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage  ททท. สำนักงานเชียงใหม่ - TAT Chiang Mai  โทร. 0-5324-8604-5 หรือ โทร. 1672 Travel Buddy

สรณะ รายงาน