ช่วงนี้สถานการณ์เรื่องความรุนแรงในอิสราเอลยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกับพี่น้องชาวไทยที่ไปทำงานอยู่ที่นั่น ทางรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการกลับประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดย บรู๊ค ดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า

ช่วงนี้ราคาพลังงานลดลงจากนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะลดราคาค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย และล่าสุดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบลดราคาน้ำมันเบนซินลง 2.50 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยใช้แนวทางเดียวกับการลดราคาดีเซล

แม้ไม่มีตำแหน่งแห่งหน ไม่ได้เป็นทั้งรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นทั้ง สส. แต่ ‘เสี่ยโอ๋’ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังก้มหน้าก้มตาทำงานให้พรรคต้นสังกัด และ ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอยู่

เส้นทางการเมืองของ “กวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล นักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรงจากเมือง “ดอกลำดวน” สู่เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ของ “สิงห์หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

เข้าวินนั่งเก้าอี้ฝ่ายสื่อสารงานของรัฐบาลอีกคน สำหรับทีมหัวกะทิจากค่ายรวมไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. อย่าง “ลอรี่” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ล่าสุดได้รับแต่งตั้งอีกหนึ่งตำแหน่ง คือ “โฆษกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน” ป้ายแดง เพื่อทำหน้าที่สื่อสาร ประชาสัมพันธ์

ตอนนี้ก็เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ที่มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย โดยเหล่าสส. ที่ได้ทำงานนั้นต่างก็ชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรีคนใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะสส. ที่มาจากพรรคเพื่อไทย

จับตาการเมืองไทยรอบปลายสัปดาห์เดือนตุลาคมนี้ มีอยู่ 2-3 ประเด็นที่น่าสนใจ

ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ตอนนี้ได้ครบ 4 คน เรียบร้อยแล้ว หลังเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้ง ‘หนูผึ้ง’ น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ อดีตผู้สมัคร สส.สระบุรี เป็นรองโฆษกรัฐบาลคนสุดท้าย ในโควตาพรรคพลังประชารัฐ

ห่างหายหน้าทางการเมืองไปนาน สำหรับ “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย หลังถูกตัดสิทธิ์รับตำแหน่งทางการเมือง เพราะถูกศาลตัดสินจำคุกในคดีหมิ่นประมาทเป็นเวลา1 ปี ตั้งแต่กลางปี 2559 และในปี 2569 จะพ้นการตัดสิทธิ์ เพราะรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ผู้ที่พ้นโทษจำคุกมาแล้ว 10 ปีในคดีที่เกี่ยวกับเรื่องหมิ่นประมาท สามารถเป็น ส.ส. และรัฐมนตรีได้

กลายเป็นว่าทุกวันพุธและวันพฤหัสบดีที่เป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร “ที่จอดรถรัฐสภา” อัตคัดถึงขั้นวิกฤต แต่คนที่ไม่เดือดร้อนเรื่องนี้เลย คือ สส. ผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกของประชาชน

ช่วงนี้เข้าสู่ช่วงเทศการกินเจ ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมาผู้คนที่กินเจต่างพบกับปัญหาคือราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหารแพง และไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่ในปีนี้ “สหายอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ภายหลังได้รับตำแหน่งก็เริ่มภารกิจทันที

เป็นอีกหนึ่งหญิงแกร่ง สำหรับ “รมต.ปุ้ย” พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม จากค่ายรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ตอนนี้ลุยงานหนักกลับบ้านดึกเกือบทุกวัน ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้เร่งแก้สถานการณ์สินค้าด้อยคุณภาพที่มีราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยและความปลอดภัยของประชาชน

ก่อนหน้านี้อาจจะเซอร์ไพรส์เมื่อชื่อ “คารม พลพรกลาง” มาเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคสีน้ำเงิน เพราะอดีตเคยเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล ก่อนย้ายมาลงสมัคร ส.ส.เขตร้อยเอ็ดพรรคภูมิใจไทย แต่สอบตก

เสียงคัดค้านนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อื้ออึง และดังมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าอาจได้ไม่คุ้มเสีย

ภายหลังสภาผู้แทนราษฎร เซ็ตคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ได้เกือบหมด จากนี้ก็ถือว่ารันงานนับหนึ่งทันที ในส่วนของ “ประชาธิปัตย์” ได้โควต้าเก้าอี้ประธานคณะกมธ. 2 ชุด ประกอบด้วย คณะกมธ.ตำรวจ และคณะกมธ.พาณิชย์

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเหล่านักเศรษฐศาสตร์ร่วมกันลงชื่อคัดค้านเงินดิจิทัลวอลเล็ต ด้วยเหตุที่ว่าได้ไม่คุ้มเสีย โดยเหล่าสส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาร่วมกันชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดีย 1 ในนั้นมี “อิ่ม” ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย

ต้อนรับกับอีกบทบาทใหม่ของสาว เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ป้ายแดง และรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ตอนนี้สวมหมวกสองใบ ทำหน้าที่โทรโข่งฝ่ายสื่อสาร ชี้แจงข้อมูลใน 2 สถานะ ทั้งรองโฆษกพรรค และในนามรัฐบาล ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็พร้อมลุยงานในบทบาทใหม่แล้ว

หลายคนบ่นเสียดาย เสี่ยไก่ สุรชาติ ศรีบุศกร อดีต สส.พิจิตร แชมป์เก่าในเขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอบางมูลนาก อำเภอโพทะเล อำเภอบึงนาราง และอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ที่รอบนี้อดเข้าสภา

เข้าทางถนัดของ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) กับการปั้นหน่วยงานในการดูแล ให้กลายเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ

ธรรมชาติของมนุษย์ที่แต่ละคนจะมีสุขทุกข์แตกต่างกัน สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ภาคเหนือ ภาคกลางก็กำลังกังวลว่าน้ำจะเข้าท่วมขยายกว่าเดิมตามบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรของประชาชนหรือไม่ ซึ่ง นายกฯก็ได้ลงไปติดตามสถานการณ์น้ำด้วยตัวเองแล้ว จึงพออุ่นใจได้บ้างว่าอยู่สายตาของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐแล้ว