ทร. ซัดผู้ไม่หวังดีในกองทัพส่งข้อมูลให้เพจดังใช้ดิสเครดิตผู้บังคับบัญชา หวังผลเลื่อนยศช่วงโยกย้ายแคนดิเดต ผบ.ทร. ยัน "บิ๊กโอ๋ พล.ร.อ.ชลทิศ" ใช้งบ ทร.ไปต่างประเทศตามระเบียบกระทรวง ส่วน บริษัท RV Connex แค่ประสานงาน
23 มิ.ย.2566 - พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีเพจ CSI LA นำเสนอข้อมูลที่มีผลกระทบกับกองทัพเรือ ตัวระบุว่ามีบุคลากรของกองทัพเรือ เรียกรับเงินจากบริษัทที่เป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายยุทโธปกรณ์ รวมถึงบังคับให้แก้ไขสัญญา ในอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จเพื่อผลประโยชน์ให้กับบริษัทรับเหมาของพวกพ้อง รายละเอียดตามที่สื่อมวลชนหลายสำนักได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้รับทราบและสั่งการให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยกองทัพเรือยอมรับว่ามีโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ชัยเสรี เม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด คือโครงการจัดหารถหุ้มเกราะล้อยาง (8×8) ชนิดลำเลียงพล จำนวน 7คัน วงเงินรวม 448 ล้านบาท เป็นโครงการเริ่มใหม่ประจำปี งบประมาณ 2566 โดยเป็นโครงการรายการปีเดียว มีระยะเวลาส่งมอบงาน270 วัน
ดำเนินการโดยสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ ได้ดำเนินการจัดหาโดยวิธีคัดเลือกและใช้เกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่น(price performance) เป็นเกณฑ์ตัดสินผู้ชนะการคัดเลือก ทั้งนี้มีบริษัทยื่นข้อเสนอจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย บริษัทชัยเสรี เม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด บริษัท พนัส แอดเซมบรีส์ จำกัด และ บริษัท แอดวานเซอร์วิส จำกัด
ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและขออนุมัติสั่งซื้อจากกระทรวงกลาโหม โดยในส่วนของบริษัทชัยเสรีฯ ที่ถูกพาดพิงได้มีการจัดทำเอกสารชี้แจงกับสื่อมวลชน เพื่อยืนยันความชัดเจนกับสื่อมวลชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้เพจ CSI LA เปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบกันอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็ว รายละเอียดตามหนังสือของทางบริษัท
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า ในขั้นตอนของการจัดหายุทโธปกรณ์ หรือการทำสัญญากับบริษัท ที่เป็นคู่สัญญา กับกองทัพ มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระหว่างกองทัพเรือ หน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการ, ผู้ประกอบการ และคณะผู้สังเกตการณ์ เข้าร่วมตรวจสอบตามขั้นตอน โดยกองทัพเรือ จะคำนึงถึงการใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด โปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้นเรื่องการเรียกค่าหัวคิว 15% จึงไม่เป็นความจริงแต่ประการใด
สำหรับข้อกล่าวหาในประเด็นการให้บริษัท RV Connex ดูแล ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นั้น โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ได้อนุมัติให้ พลเรือเอกชลทิศ นาวานุเคราะห์ (บิ๊กโอ๋) เสนาธิการทหารเรือและคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยม สำนักงานผู้ช่วยทูตทหารเรือไทยประจำกรุงเบอร์ลิน ระหว่างวันที่ 7 - 15 เมษายน 2566 และมีกำหนดเดินทางไปดูงานบริษัท Rohde & Schwarz ผู้ผลิตเครื่องมือสื่อสาร และอุปกรณ์ที่เรือในกองทัพเรือมีใช้งานอยู่จำนวนมาก ที่เมืองมิวนิค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามคำเชิญของทางบริษัท ซึ่งทางบริษัท RV Connex ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ทำหน้าที่คอยประสานงานในการพาเข้าชมซึ่งในส่วนของค่าใช้จ่ายของทางคณะได้เบิกจ่ายตามระเบียบกระทรวงกลาโหมตามที่กองทัพเรือกำหนด
ในประเด็น ข้อกล่าวหาการบีบบังคับแก้ไขสัญญาอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ ในโครงการใหญ่ในกองทัพเรือ ซึ่งเอื้อผลประโชน์บริษัทรับเหมาพวกพ้อง นั้น โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า โครงการตามที่เพจ CSI LA กล่าวถึง คือ อาคารบัญชาการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งตั้งอยู่ภายในกองบัญชาการกองทัพเรือพื้นที่วังนันทอุทยาน กระทรวงกลาโหม ได้อนุมัติให้กรมช่างโยธาทหารเรือ ว่าจ้างกิจการร่วมค้า "TPC-DTG" ก่อสร้างอาคาร บก.ศรชล. ระยะที่ 1 โดยมี กรมช่างโยธาทหารเรือ เป็นหน่วยเจ้าของโครงการ
แต่ปัจจุบันการก่อสร้างมีความล่าช้าจากแผนงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการวางแผนงานก่อสร้างระบบย่อยต่าง ๆ เช่น ระบบสื่อสารและห้องศูนย์ยุทธการ ที่ต้องดำเนินการภายหลังการรับมอบอาคาร กองทัพเรือจึงได้สั่งการให้ ติดตาม กำกับ การดำเนินการก่อสร้างโดยใกล้ชิด การแก้ไขสัญญาในโครงการนี้ เป็นเพียงหนทางหนึ่งในการแก้ปัญหา ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณา โดยต้องต้องไม่ทำให้ทางราชการเสียประโยชน์ ทั้งนี้มีกรมช่างโยธาทหารเรือ เป็นความรับผิดชอบ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรอง ตามลำดับชั้นอย่างรอบคอบ จนถึงปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้มีอำนาจอนุมัติ เรื่องนี้มิได้มีแนวคิด หรือความพยายามในเรื่องทุจริตหรือเอื้อประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องแต่ประการใด
กองทัพเรือ จึงขอชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบและนำเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ให้พี่น้องประชาชนและสังคมได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ การออกมาให้ข่าวโจมตีกองทัพเรือจากเพจ CSI LA ในครั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า การให้ข่าวลักษณะนี้มักจะมาในช่วงฤดูโยกย้าย โดยมีผู้ไม่หวังดีภายในกองทัพเรือส่งข้อมูลให้เพจดังกล่าว เพื่อมีจุดประสงค์ในการดิสเครดิตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ เพื่อหวังผลต่อการพิจารณาการดำรงตำแหน่งชั้นยศนายพลในช่วงตุลาคม 2566
ผู้เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ทางบริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด ได้มีคำเตือนขอให้มีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการแชร์ข่าวต่อ ซึ่งหากมีความเสียหายเกิดขึ้น ทางบริษัทแจ้งว่าจะดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัทต่อไป
สำหรับ พล.ร.อ.ชลทิศ เป็นตัวเต็งชิงเก้าอี้ ผบ.ทร. ร่วมกับ แคนดิแดตอีก 2 คน คือ พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รองโฆษกทร. แจงนำ 'ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก' เข้าพื้นที่บ้านทมอดา ยันอยู่เขตแดนไทย
รองโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีปรากฏภาพยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก ของ ทร. ในพื้นที่บ้านทมอดา
ประณาม 'กัมพูชา' ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโจ่งแจ้ง
ทร.ประณามกัมพูชา ฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าสู่ทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างโจ่งแจ้ง
ทำสำเร็จ! ทหารนาวิกโยธิน ยึดคืนพื้นที่บ้านท่าเส้น-กาสิโนทมอดา จ.ตราด ฝ่ายไทยปลอดภัยไม่สูญเสีย
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้ดำเนินการเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณ บ้านท่าเส้น ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด รวมถึงพื้นที่อาคาร
ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ
โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ
เพจดังเปิดข้อมูลวงในคาสิโน ทำไมชายแดนบ้านผักกาด-บ้านแหลม แทบไม่มีใครพูดถึง
เพจ CSI LA โพสต์ตั้งคำถามถึงพื้นที่ชายแดนบ้านผักกาด–บ้านแหลม จ.จันทบุรี เปิดคำบอกเล่าจากผู้เคยทำงานกับคาสิโนชายแดน ระบุมีทั้งคาสิโนและตึกคอลเซ็นเตอร์สแกมของกลุ่มทุนจีนในสเกลใกล้เคียงปอยเปต–เกาะกง แต่กลับเงียบจากการตรวจสอบของสังคม
'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'
'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย

