8 ก.ค.2566 - นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวพาดพิงบิดเบือนก่อให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนยุติธรรม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า สิ่งที่นายธาริต ออกมากล่าวหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพนั้น ได้มีการพิสูจน์ความจริงจนสิ้นกระแสความแล้วจากกระบวนการยุติธรรม จากคณะกรรมการ ป.ป.ช. การพิสูจน์ความจริงผ่านกระบวนการยุติธรรมนั้น เนื่องจากมีการยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ต่อศาลอาญา ในข้อหาเจตนาฆ่าผู้ชุมนุม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยต่างๆ สลายการชุมชุม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ซึ่งเป็นข้อหาที่ร้ายแรง แต่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง เพราะไม่มีเขตอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ โดยศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา มีคำพิพากษายกฟ้องเช่นกัน อำนาจการพิจารณาคดีจึงตกไปอยู่กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่มีอำนาจโดยตรง โดยผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับฟังเป็นที่ยุติว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุผล
“อยู่ในช่วงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาของศาลว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช. มิใช่การชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ และมีบุคคลที่มีอาวุธปืนปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. จึงมีเหตุจำเป็นที่ ศอฉ. ต้องใช้มาตรการขอพื้นที่คืน เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง โดยมีคำสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่นำอาวุธติดตัว หากมีความจำเป็นสามารถนำมาใช้เพื่อระงับยับยั้งได้ไปตามสถานการณ์ หรือเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือป้องกันตนเองได้ อันเป็นไปตามหลักสากล ตามนัยคำพิพากษาศาลแพ่ง ในคดีหมายเลขดำที่ 1433/2553 อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้ในคดีเลขที่ 1699/2560 ว่าการกระทำของ นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่สอดคล้องต้องกัน ยุติด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะได้ผ่านการค้นหาความจริงด้วยกระบวนการยุติธรรม" นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวต่อว่า นายธาริตถูกฟ้องกลับในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สืบเนื่องมาจากการดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก ขณะนี้รอฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งนายธาริตเลื่อนฟังคำพิพากษามาหลายครั้ง ทำไมไม่เอาสิ่งที่แถลงเข้าสู่สำนวนคดีที่นายธาริตถูกฟ้อง แล้วต่อมาทำไมถึงต้องให้การรับสารภาพ แสดงว่านายธาริตยอมรับว่าได้ดำเนินกระบวนการดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์และนานสุเทพโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะถ้ายืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้องตามกฎหมายแล้วจะรับสารภาพทำไม กลับมากล่าวหาบุคคลอื่น แล้วที่ให้การรับสารภาพต่อศาลคือคำให้การเท็จใช่หรือไม่
นายราเมศ กล่าวอีกว่า ทั้งนายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ไม่เคยปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ไม่เคยเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมให้กับตนเอง ต่อสู้คดีจากข้อกล่าวหา จนผ่านกระบวนการตรวจสอบการพิสูจน์ด้วยกระบวนการยุติธรรมว่าไม่ได้ทำผิดตามที่กล่าวหา นายธาริต ออกมาแถลง คำแถลงเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม บิดเบือนให้สังคมสับสน เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมาไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี นายธาริตอย่าพยายามยกเรื่องนี้มาลบล้างการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ชอบในการดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ คนจริงเขาไปสู้ในศาล ไม่ใช่มาพูดนอกศาลให้ตนเองดูดี ควรเคารพกระบวนการ ยืนกรานต่อสู้ตามหลักกฎหมาย และอย่าอายต่อความจริง ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะไม่มีข้อยุติและจะนำเหตุการณ์นี้มาบิดเบือนเพื่อทำลายผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา
นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นมีใครเรียกไปสั่งว่าอย่าดำเนินคดี99ศพ นายทหารคนนั้นเป็นใครก็ควรเปิดเผยออกมา เพราะความจริงนายธาริตก็ดำเนินคดีกับทุกคน อย่าพูดให้ตัวเองดูดี คิดอย่างอื่นบ้างก็ได้ อย่าเอาดีใส่ตัวจนเกินจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘โฆษก ปชป.’ ชี้ไทยจำเป็นใช้ไม้แข็งจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เจนจิรา “โฆษก ปชป.” ชี้ไทยจำเป็นใช้มาตรการเด็ดขาดกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวัง ปท.เพื่อนบ้านช่วยอำนวยความสะดวก จี้หน่วยงานรัฐต้องกดดันต่อเนื่อง
'แก้วสรร' ออกบทความ 'อำนาจศาลในคดีชั้น 14 : ปัญหากฎหมายที่รอวินิจฉัย'
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "อำนาจศาลในคดีชั้น ๑๔ : ปัญหากฎหมายที่รอวินิจฉัย" มีเนื้อหาดังนี้
จับตาคดีชั้น14 เดินหน้าต่อ ที่ประชุมศาลฎีการ่วมรักษาหลักนิติรัฐ-นิติธรรม
อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กให้จับตาคดีชั้น14 เดินหน้าต่อ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ร่วมรักษาหลักนิติรัฐนิติธรรม
‘โฆษกปชป.’ วอนตรุษจีนลดเผากระดาษ -ใช้ธูปไร้ควัน ช่วยลดฝุ่นพิษ PM 2.5
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่อาจรุนแรงขึ้นในช่วง เทศกาลตรุษจีน เนื่องจากประเพณี จุดธูป เผากระดาษเงินกระดาษทอง และจุดประทัด
อดีตสส.ชื่อดัง พบช่องยื่นศาลฎีกาฯครั้งที่ 3 ลาก 'ทักษิณ' กลับไปขังคุก!
ยื่นคำร้องเป็นครั้งที่ 3 ขอให้ศาลไต่สวน และออกหมายจับ นักโทษเทวดากลับไปขังคุก เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดยได้ยื่นคำร้องเป็น 2 ฉบับ ประกอบด้วย
'เด็กชวน' สวนกลับ 'ทักษิณ' อยากสารพัด แต่ผวาอยู่ 2 เรื่อง
'ราเมศ' ยัน 'ชวน' ต่อสู้สิ่งไม่ถูกต้อง ยึดหลักสุจริตมาโดยตลอด ปัดแค้นส่วนตัวกับ 'ทักษิณ' สวนกลับคงไม่อยากหนีไปต่างประเทศซ้ำอีก