'เสธ.หิ' ซัดพวกบ่อนทำลายชาติ รับเงินนายทุนแก้ ม.112 ปลุกคนไทยอย่าปล่อยให้ประเทศพังทลาย

8 ส.ค.2566 - จากกรณีพรรคการเมืองเร่งแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เนื่องจากมีนายทุนคนไทยในยุโรปให้เงินสนับสนุน จนเกิดกระแสโซเชียลติดแฮชแท็ก #ตั๋วปารีส สืบเนื่องจากทวิตเตอร์ Headache Stencil ของนายสมรนนท์ แย้มอุทัย หรือ “แป้ง” ศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดัง แนวร่วมม็อบราษฎร ทวีตข้อความแฉว่ามีนายทุนคนไทย ผู้ต้องหาคดี ม.112 ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ให้ความช่วยเหลือการเงินแก่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองในการแก้ไขมาตรา 112

นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า การที่เอ็นจีโอได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเป็นการใช้เพื่อช่วยเหลือทางด้านสังคม ทางด้านเศรษฐกิจ หรือ การพัฒนาการเมือง แต่หากนำมาใช้เป็นทุนเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และล้มล้างระบอบการปกครองของประเทศนั้น ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และถือเป็นบ่อนทำลายชาติ

นายหิมาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหลายประเทศที่ถูกต่างชาติแทรกแซงทางการเมืองจนนำไปสู่ความล่มสลาย ประเทศย่อยยับ ประชาชนต้องลี้ภัยหนีจากบ้านเกิดเมืองนอน เพราะฉะนั้น จึงอยากจะตั้งคำถามกับพี่น้องคนไทยว่า เราจะยอมรับให้องค์กรต่างประเทศสนับสนุนการเงิน เพื่อมาเคลื่อนไหวทางการเมือง แล้วทำให้ประเทศเราพังทลายเช่นนั้นหรือ

“ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีคนเคยถามผมหลายครั้งว่า ถ้าพรรคที่อยู่ฝั่งตรงข้ามขึ้นมาเป็นรัฐบาล จะรู้สึกอย่างไร ผมบอกว่าไม่ได้รู้สึกเสียใจใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นวิถีทางประชาธิปไตย ถึงอย่างไร ไทยก็ปกครองไทยด้วยกันเอง แต่หากเป็นพรรคการเมืองที่มีทุนต่างชาติหนุนหลัง และพยายามจะแทรกแซงการปกครองของไทย อันนี้ ผมจะไม่ยอมรับอย่างแน่นอน และเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็จะไม่มีวันยอมเช่นเดียวกัน”

นายหิมาลัย ยังฝากถึงพรรคการเมืองและประชาชนที่พยายามจะยกเลิกมาตรา 112 ว่า อยากให้ทุกคนศึกษาประวัติศาสตร์ให้ถ่องแท้และเป็นธรรม ในอดีตที่ผ่านมา สถาบันกษัตริย์ได้ต่อสู้กู้ประเทศชาติบ้านเมือง มีคุณูปการเป็นอเนกอนันต์ ด้วยความเสียสละ และวิริยะอุตสาหะอย่างมาก จนทำให้เรายืนหยัดเป็นชาติที่ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของชาตินักล่าอาณานิคม ทั้งจากเงินถุงแดง ที่รัชกาลที่ 3 ท่านทรงเก็บไว้ดูแลบ้านเมือง และได้นำไปไถ่ประเทศเมื่อครั้งเกิดวิกฤต ร.ศ.112 หรือแม้แต่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างสัมพันธไมตรีกับชาติมหาอำนาจ ก็เพื่อรักษาประเทศชาติให้คงเอกราชไว้ให้ลูกหลาน

“ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำให้กับชาติบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน จึงไม่แปลกที่จะมีคนรู้สึกรักและผูกพันกับสถาบันฯ และไม่ไว้วางใจพรรคการเมืองที่มีแนวคิดที่จะล้มสถาบันให้ขึ้นมาบริหารบ้านเมือง เพราะฉะนั้น อย่าได้ดูถูกและด้อยค่าความจงรักภักดีที่คนส่วนใหญ่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” นายหิมาลัย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยธวัช' อ้างนิรโทษกรรมคดีม.112 จะธำรงรักษาให้พระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ

นายธชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรื่อง นิรโทษกรรม 112 มีเนื้อหาดังนี้

'เทพไท' หนุนออกพรบ.นิรโทษกรรมทุกกลุ่มการเมืองรวมคดี 112 เพื่อไม่ให้เหลื่อมล้ำ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า พรบ.นิรโทษกรรม ใครได้ใครเสีย??? ถ้าถามว่า ทำไมพรรคเพื่อไทย ไม่เอาร่าง พรบ.นิรโทษกรรม ของพรรคก้าวไกล นั้น ก็น่าจะมาจากเหตุผล 3 ประการนี้ คือ

'พุทธะอิสระ' ชี้เปรี้ยงก้าวไกลหยุดลิ่วล้อด้อมส้มหมิ่นสถาบันไม่ได้ กม.นิรโทษล้างคดี 112 ก็แค่เพ้อฝัน

พุทธะอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กว่า หลังจากหัวหน้าพรรคก้าวไกลมาเจรจาความเมืองกับพุทธะอิสระ แล้วก็พูดในเชิงว่า ถ้าการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ใช้คำว่า ยกเข่งก็น่าจะถูกต้อง ยกเว้นคดีทุจริตและความผิดทางชีวิต

'ดร.หิมาลัย' ประธานโครงการอุปสมบทหมู่ตามรอยพระบรมศาสดา สู่ดินแดนพุทธภูมิ

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน/ประธานที่ปรึกษา "มูลนิธิพระราหู" ประธานจัดโครงการอุปสมบทหมู่ และประธานพระนวกะโพธิ รุ่นที่ 1 ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธี

เปิดบทสนทนาลับ! 'แกนนำก้าวไกล' บุกเจรจา 'พุทธะอิสระ' ขอช่วยหนุนร่างพรบ.นิรโทษ

นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “พุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม อดีตแนวร่วมกปปส. เปิดเผยว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมผู้ติตตามส่วนหนึ่ง ได้เดินทางมาพบและพูดคุยกับตนเองที่วัดอ้อน้อย

'ธนกร' แนะตำรวจ ใช้โอกาสถอนรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากเล้าก์ก่าย เมียนมา

“ธนกร” แนะ ตำรวจควรใช้โอกาสนี้ ถอนรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หาตัวการรายใหญ่ หลังรวบเครือข่ายรายย่อยออกจากเล้าก์ก่าย เมียนมา ชี้ ใช้วิกฤต เป็นโอกาสแก้ปัญหา