27 มีนาคม 2568 - จากกรณีนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเปิดประเด็นปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอของกองทัพ อ้างว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแทรกแซงการเมือง ปล่อยให้ทหารบางกลุ่มใช้กลไกของรัฐไปคุกคามประชาชน ปลุกปั่นสร้างความแตกแยกทำลายระบอบประชาธิปไตย
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "ปราชญ์ สามสี" โพสต์ข้อความว่า คำตอบถึงพฤติกรรมของ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล: ทำไมกองทัพจึงต้องมี IO
มีคนหนึ่งเคยพูดไว้อย่างกล้าหาญว่า “ศัตรูในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องถือปืน แค่ถือโทรศัพท์ก็ล้มชาติได้” และถ้าจะมองหาตัวอย่างของประโยคนี้ที่ชัดเจนที่สุดในชีวิตจริง คนที่ชื่อว่า “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ก็คงเป็นตัวละครที่เดินเข้าเงื่อนไขนั้นทุกประการ
เธอเคยเป็นนักการเมือง และในวันนี้ก็ยังเคลื่อนไหวด้วยวาทกรรมเดิม คือการตั้งคำถามกับทุกอย่างที่เป็นเสาหลักของบ้านเมือง โพสต์ล่าสุดของเธอเต็มไปด้วยถ้อยคำรำพันว่าตนเองเป็นเหยื่อของปฏิบัติการข่าวสาร (IO) จากกองทัพ แต่เธอไม่เคยมองกลับมาว่า เหตุใดทหารจึงต้องจับตามองเธออย่างจริงจังตลอดมา
นี่คือคนที่เคยขึ้นป้ายเรียกร้องให้เยาวชน “วางหนังสือ ถืออาวุธ” ไม่ใช่ในเชิงอุปมาเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยสันติวิธี แต่เป็นการสื่อให้เห็นชัดเจนว่า เธอสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงผ่านแรงกระแทก การยั่วยุให้เกิดความรุนแรง และปฏิเสธระเบียบที่สง่างามของประชาธิปไตย เธอไม่เพียงแค่ไม่ชอบทหาร แต่เธอมองว่าสถาบันกฎหมาย สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ควรถูกท้าทาย ถูกลดทอนความศักดิ์สิทธิ์ลง และนี่คือความคิดที่ไม่ต่างจาก “สงครามไซเบอร์” ในฉบับมนุษย์
เครือข่ายของเธอยังมีความเชื่อมโยงกับองค์กรต่างชาติที่ขึ้นชื่อว่ามีบทบาทในการ “แทรกแซง” มากกว่า “สนับสนุน” ไม่ว่าจะเป็น NED หรือองค์กรในเครือของ USAID ที่ใช้คำว่าประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนเป็นเพียงเครื่องมือบังหน้า ขณะที่ปลายทางคือการเปลี่ยนแปลงอำนาจของรัฐชาติในแบบที่เอื้อต่อผลประโยชน์ภายนอก
และที่น่ากังวลที่สุดคือ พรรรคการเมืองที่เธอให้การสนับสนุน ได้มีการนำเอกสารลับของราชการมาเปิดเผยต่อสาธารณะ พร้อมตั้งข้อกล่าวหารัฐบาลและหน่วยความมั่นคงว่าเพ่งเล็งนักการเมืองของตนเป็นภัยต่อชาติ หากเอกสารนั้นเป็นของจริง นั่นหมายความว่าคนในพรรคการเมืองนั้นยอมรับโดยปริยายว่าตนอยู่ในข่ายที่รัฐสงสัยว่ากำลังบ่อนทำลายชาติ และหากเอกสารนั้นไม่จริง ก็ยิ่งแสดงว่าพฤติกรรมนั้นคือการปลอมเอกสารเพื่อหวังผลทางการเมือง และเป็นภัยอย่างร้ายแรงต่อความไว้วางใจของสาธารณชน
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นเพียงเรื่องเดียวว่า เหตุผลที่กองทัพต้องมี IO ไม่ได้เกิดจากความอาฆาตพยาบาทใครคนหนึ่ง แต่เพราะคนบางคนทำตัวเป็นต้นตอของกระแสปลุกปั่นที่กัดกร่อนเสาหลักของชาติ เธอเองต่างหากที่เป็นคำอธิบายว่าทำไมเราถึงต้องมีการข่าวสาร ต้องตั้งระบบป้องกัน และต้องเตรียมพร้อมรับมือกับภัยในรูปแบบใหม่
เมื่อคนหนึ่งถืออุดมการณ์ที่มุ่งรื้อสร้างด้วยความเกลียดชัง และยืนอยู่บนเวทีสาธารณะโดยได้รับเงินสนับสนุนจากต่างชาติ การที่กองทัพจะไม่ขยับตัวเลยก็คงเป็นความบกพร่องเสียเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สมช.แจงเร่งคลอด 6 นโยบายหลักดับไฟใต้
'โรม' เชิญหน่วยงานถกสถานการณ์ชายแดนใต้ หลังกลุ่มเปราะบางถูกพุ่งเป้า ด้าน 'เลขาฯ สมช.' แจงเร่งคลอดนโยบายพัฒนา 6 แนวทาง เน้นรักษาความปลอดภัย-ลดการทหารเชิงรุก
'รังสิมันต์' สอน 'อุ๊งอิ๊ง' ทำให้ให้สมเป็นนายกฯ หลังแจงปมซื้อขายงูเห่าเหมือนย้ายที่ทำงาน
'โรม' ซัด 'อิ๊งค์ ควรทำตัวให้สมเป็น 'นายกฯ' หลัง ยอมรับพฤติกรรม 'ซื้อขายงูเห่า' ทำการเมืองเสื่อมทั้งระบบ ลั่น 'พท.' ตีแต่หนู สวนกลับไม่รู้ภายใน ปชน. ถามทำไมต้องทำแบบไม่แคร์สัญญา ปชช.
ทั่นโรมอัดรัฐบาลแก้ปัญหาสารพิษแม่น้ำกกอืดอาด
'โรม' ซัด 'รัฐบาล' แก้ปัญหาล่าช้า ปม 'สารพิษแม่น้ำกก' ชี้สร้างเขื่อน-ฝาย ก็ต้องใช้งบดูดตะกอน แนะคุยจีน-ว้า หาทางออก
กอ.รมน.ภาค 4 ยัน ยิงสองสามีภรรยาที่รามันไม่ใช่ฝีมือจนท.รัฐ
กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ออกแถลงเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวบิดเบือน หลังเกิดเหตุยิงสองสามีภรรยาเสียชีวิตที่ยะลา ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมเตือนผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ชมรมพัฒนากฎหมายฯ ยื่นหนังสือชงเปลี่ยนพิจารณาคดีเป็นระบบลูกขุน!
'ประธานชมรมพัฒนากฎหมายฯ' ยื่นหนังสือถึง 'กมธ.การกฎหมาย' ศึกษาเปลี่ยนกระบวนพิจารณาคดี เป็นระบบลูกขุน
เทพไท ชี้โพลสะท้อนชัด ‘พรรคส้ม’ ทำไมไม่ประสบความสำเร็จเลือกตั้งท้องถิ่น
อยากเสนอให้พรรคประชาชน ได้มุ่งเน้นการเมืองระดับชาติเป็นหลัก เมื่อชนะการเมืองระดับชาติ ได้เข้ายึดกุมอำนาจรัฐแบบเบ็ดเสร็จ ได้เป็นรัฐบาลแล้ว ค่อยปรับโครงสร้างของสังคมตามอุดมคติ