05 มิ.ย.2568 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “อุ๊งอิ๊ง ขาดวุฒิภาวะทุกด้าน” ระบุว่า ช่วงนี้มีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับวุฒิภาวะของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากปรากฏข่าวในวันเดียวกันทั้ง 2 กรณี คือ
1.กระแสข่าวจากห้องประชุมครม.ว่า นางสาวแพทองธาร พูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง และสีหน้าที่จริงจังอย่างที่ไม่เคยเห็นในที่ประชุม ครม.มาก่อน ในทำนองว่า ในสถานการณ์นี้คนไทยต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะเป็นปัญหาของประเทศของชาติ ไม่ใช่ปัญหาของพรรคการเมือง ไม่ใช่ปัญหาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องการเมืองต้องมาทีหลังบ้านเมือง เรื่องการเมืองกับเรื่องบ้านเมืองต้องแยกกัน การให้ข่าวในลักษณะที่เป็นการทิ่มแทงกันเอง การปล่อยเฟกนิวส์ออกมาเท่ากับเป็นการทำลายชาติ เป็นการทำลายประเทศ
และ 2.กรณีการปะทะคารมกับนักข่าว หลังโดนจี้เรื่องกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทย ได้ย้อนถามนักข่าวว่าได้ไปดูหน้างานหรือยัง? พร้อมชี้นิ้วสวนกลับ'ใช่ค่ะ' ก่อนเหน็บนักข่าวว่า'วันนี้ดุจังเลย' ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ของนางสาวแพทองธารได้อย่างชัดเจนมาก
ผมคนหนึ่งที่เคยแสดงความเห็นเรื่องวุฒิภาวะการเป็นนายกรัฐมนตรี ของนางสาวแพทองธารมาตั้งแต่วันเริ่มรับตำแหน่งว่า นางสาวแพทองธาร ไม่มีวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำ จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเลย กลับมีวุฒิภาวะที่แย่ลงกว่าเดิมในทุกๆด้าน เช่น
1.วุฒิภาวะทางอารมณ์ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เมื่อไม่พอใจก็ชักสีหน้า และเฟียสใส่นักข่าวทันที หรืออาการเหวี่ยงอยู่บ่อยๆ เห็นได้จากแววตา สีหน้าและท่าทาง ซึ่งเป็นนิสัยดั้งเดิม เกิดจากชีวิตการเป็นคุณหนูของครอบครัวชินวัตร
2.วุฒิภาวะทางปัญญา ขาดความรู้รอบตัว และความรู้พื้นฐานในทุกด้าน เมื่อเจอคำถามจากผู้สื่อข่าว ก็จะตอบไม่ได้ บางครั้งต้องผลัดวันประกันพรุ่ง หรือเดินหนีนักข่าว บางประเด็นที่ตอบก็ฟังไม่เข้าใจ ทำให้เสียภาพการเป็นผู้นำของประเทศมาก
3.วุฒิภาวะทางการเมือง ไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง และมีความรู้ทางการเมืองน้อยมาก ไม่สามารถสั่งการรัฐมนตรีในประเด็นการเมืองได้ และการแสดงความเห็นทางการเมือง มีข้อผิดพลาดอยู่เสมอ จนขาดความมั่นใจในตอบคำถามประเด็นการเมือง ต้องรอการติวจากทีมงาน และต้องขอคำปรึกษาหรือขอความเห็นจากนายทักษิณผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะมาพูดกับสังคม
เมื่อเรามีผู้นำประเทศที่มีวุฒิภาวะแบบนี้ เราจะคาดหวังกับอนาคตของประเทศได้อย่างไร นอกจากตัวนางสาวแพทองธารจะเสียโอกาสในการเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังทำให้ประชาชนและประเทศชาติ เสียโอกาสไปมากกว่าอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวมชุดนายกองใหญ่ ลงพื้นที่อีสานใต้ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย สวมชุดนายกองใหญ่ ออกเดินทางไปยัง 3 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
'เทพไท' วิเคราะห์เทคนิคการจัดลำดับ 'ปาร์ตี้ลิสต์' 5 พรรคใหญ่ สู้ศึกเลือกตั้ง
การจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ในพรรคต่างๆ ซึ่งแต่ละพรรคมีสไตล์การจัดลำดับแตกต่างกันไป แต่ที่เห็นคล้ายคลึงกันคือ ในบัญชีลำดับท้ายของปาร์ตี้ลิสต์จะเห็นคนที่มีบทบาทและคนที่มีชื่อเสียงหลายคน
'อนุทิน' เปิดเพจหาเสียง ประเดิมแจง 3 เหตุไม่ขึ้นเวทีดีเบต
'อนุทิน' เปิดเพจหาเสียง ประเดิมแจงเหตุไม่ร่วมเวทีดีเบต ร่ายยาว 3 ข้อจำกัด เลือกใช้ช่องทางนี้สื่อสารประชาชนแทน
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า
เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'ภูมิใจไทย' มีแคนดิเดตนายกฯแค่ 2 คน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไม ภูมิใจไทย มีแคนดิเดตเพียง 2 คน" โดยระบุว่า

