'ปลอดประสพ' งัดหลักฐานการปักหมุดในเขตแดนไทย เขมรไม่เคยทักท้วง ถือเป็นกฎหมายปิดปาก

6 มิ.ย. 2568 - นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ อาณาเขตไทยด้านเขมร ผมมีหลักฐานทางกฎหมายนะ มีเนื้อหาดังนี้

ไทยกับเขมรมีอาณาเขตทางบกติดต่อกันประมาณ 800 กม. ตามแนวเทือกเขาพนมดงรักนับจากสระแก้ว ปราจีนบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษมาจบที่อุบลราชธานี ส่วนทางทะเลอีกเกือบ 200 กม. โดยนับจากเกาะกูด ตราดและจันทบุรี ภายหลังเขมรได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสเมื่อปี2496 ก็ได้เริ่มมีการเจรจาปักปันพรมแดนถาวรกับไทยภายใต้ MOU 43 ทางทะเลและ 44 ทางบก ที่ผ่านมาก็ทำมาเรื่อยๆไม่มีการเร่งรีบอะไร ในวันที่ 14 มิย.ที่จะถึงนี้ก็จะมีการประชุมกันอีก แต่ดูเหมือนฝ่ายเขมรจะพยายามจำกัดหัวข้อเจรจาลง

ผมเป็นข้าราชการคนหนึ่งที่รู้เรื่องเขตแดนแถบนี้ดี เพราะเมื่อเป็นอธิบดีกรมประมงก็ดูเรื่องเกาะกูดและพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล และเมื่อมาอยู่กรมป่าไม้ก็มาดูแลบนบก ซึ่งล้วนเป็นเขตป่าทั้งสิ้น กรมป่าไม้ได้ใช้กฎหมายที่เรียกว่า“ พระราชกฤษฎีกา(พรก)” ประกาศพื้นที่อนุรักษ์ 7 แห่งคือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า(ขสป) พนมดงรักษ์(2521) อุทยานแห่งชาติ(อช)ภูจองนายอง ปี 2530 ขสป. ห้วยศาลา (2533) ขสป. ยอดโดม(2535) ขสป. ห้วยทับทัน(2538) อช. ตาพระยา(2539) และอช. เขาพระวิหาร (2541ในสมัยผม ) พระราชกฤษฎีกาเหล่านี้เป็นกฎหมายที่มีแผนที่และพิกัดแนบท้ายทุกแห่ง มีหมุดถาวรแสดงอาณาเขตที่ชัดเจน โดยทุกหมุดอยู่บนแนวเส้นพรมแดนทั้งสิ้น และในขณะที่ปักหมุดเหล่านี้ก็ไม่เห็นฝ่ายเขมรเคยทักท้วงอะไร จึงถือว่า เป็นกฎหมายปิดปากไปแล้ว ผมจึงขอถามฝ่ายเขมรว่า ที่พวกท่านอ้างโน่นอ้างนี่นั้นท่านมีหลักฐานทางกฎหมายหรือแผนที่อะไรรองรับ พวกท่านเคยทราบไหมว่าประเทศไทยได้ประกาศ พรบ. คุ้มครองและสงวนป่าตามแนวชายแดนไทยเขมรมาตั้งแต่ปี 2481 คือก่อนประเทศเขมรจุติมาด้วยซ้ำ กล่าวคือ แม้แต่ผู้นำของพวกท่านก็ยังไม่เกิดเลย หลังจากที่กรมป่าไม้ได้ประกาศอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไปแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปปลูกป่ามาตลอดเวลานับสิบปี เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ได้ลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน 800 กม. และได้ปะทะกับผู้ลักลอบตัดไม้กฤษณาหลายครั้ง บาดเจ็บล้มตายกันไปทั้งสองฝ่ายจำนวนมาก ผมก็ไม่เห็นฝ่ายเจ้าหน้าที่เขมรได้เข้ามาเกี่ยวข้องอะไรเลย เรื่องนี้จึงเป็นการย้ำอธิปไตยของประเทศไทยเหนือพื้นที่เหล่านี้

สำหรับบรรดาปราสาทต่างๆ เช่น ปราสาทตาเมือนธม รวมถึงปราสาทตาควาย กรมศิลปากรก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานมาตั้งแต่ปี 2478 ซึ่งประเทศเขมรยังไม่เกิดเลย รัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมจนเรียบร้อยเกือบเหมือนเดิม และเจ้านายของไทยก็เคยเสด็จไปตรวจและศึกษามาเนิ่นนานแล้ว แล้วผู้นำของท่านเคยไปเหลียวแลไหม

ในฐานะที่ผ่านโรงเรียนทหารมาแล้ว 3 โรงเรียน ก็ขอเดาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์“ ปลุกปั่นเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางการเมืองภายใน” โดยใช้“ ยุทธวิธีมือบอน” เช่น การขุดสนามเพลาะเล็กๆ ขุดคูเลตให้สันปันน้ำ มันเปลี่ยนไป หรือการลาดตระเวนแบบสุ่มสี่สุ่มห้าจนเกิดการปะทะกัน และยังใช้ยุทธวิธีฟ้องร้องแบบเด็กเรื่อยเปื่อย ทำนองเป็นประเทศเล็กแล้วถูกรังแก ส่วนที่มาชวนขึ้นศาลนั้น ก็คงไม่มีใครเอาด้วย เพราะประเทศไทยไม่มีอะไรจะให้ตัดสิน

ผมคิดว่า เราต้องเล่นบทผู้ใหญ่ที่มีความหนักแน่น ประชาชนก็ต้องแสดงความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว นักการเมืองก็ต้องหยุดทะเลาะเบาะแว้ง ส่วนทหารก็ต้องพร้อมรบ แสดงพละกำลังและแสนยานุภาพให้ประจักษ์ ถ้าเหมาะสมก็ซ้อมรบไปเลย และหากจะใช้กระสุนจริงบ้างก็อย่าไปเสียดายงบประมาณ

สุดท้าย ผมกำลังคุยกับเพื่อนป่าไม้ว่าจะไปเยี่ยมศาลาตรีมุขอีกสักครั้ง เพราะเมื่อก่อนก็เคยไปกันมาแล้ว จุดนี้คือพรมแดนของสามประเทศคือไทย ลาว และเขมร มาจบกัน เป็นศาลาแห่งมิตรภาพ แต่เห็นว่า มีไฟป่าแถวๆนั้นไหม้ลามมาศาลาก็เลยวอดไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แม่ทัพกุ้ง' เผยความภูมิใจที่สุดในชีวิตรับราชการ คือการได้แผ่นดินไทยคืน ขอบคุณกัมพูชายิงก่อน

“แม่ทัพกุ้ง” เสวนา “เกียรติภูมิของทหารไทย” ให้ความรู้ นศท. ลั่นกัมพูชาโชคดีที่เจอกัน ชี้เป็นคู่ปรับสมน้ำสมเนื้อ พร้อมเล่าไทม์ไลน์ สมรภูมิ ปลุกความความรักชาติ ภูมิใจได้แผ่นดินคืน ยัน “ปราสาทตาควาย” เป็นของไทย ชี้ทหารไทยทุกเหล่าพร้อมรบ แต่ไม่สู้รบดีที่สุด

'แก้วสรร' แพร่บทความ หนุนใช้ MOU 43 ปักปันเขตแดน 'ไทย-กัมพูชา'

แก้วสรร อติโพธิ นักกฎหมาย นักวิชาการ เผยแพร่บทความเรื่อง "งานปักปันเขตแดน..เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดน ไทย-กัมพูชา" มีเนื้อหาดังนี้

'ปิยรัฐ' เผย กมธ.ศึกษาเอ็มโอยู 2543 จบแล้วคาดต้น ธ.ค.สรุปได้ทั้ง 2 ฉบับ

'โฆษก กมธ.MOU43-44' เผย ศึกษา MOU43 เสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปยกเลิกหรือไม่ ชี้ไม่มีระบุข้อมูลแผนที่ 1:200,000 มองยกเลิกได้ยาก คาดต้นเดือน ธ.ค.ได้ข้อสรุป

หายดีแล้ว 'ส.อ.อภิวัฒน์' โดนระเบิดเขมร เจ็บสาหัส นอนรพ.นานกว่า 2 เดือน ลั่นกลับไปทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย

สิบเอก อภิวัฒน์ ชาญประโคน ทหารที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสุรินทร์ ได้กลับบ้านแล้ว เนื่องจากร่างกายหายและกลับมาแข็งแรง จาการบาดเจ็บโดนสะเก็ดระเบิดที่ปราสาทตาเมือนธม เมื่อวันที่ (24ก.ค.68) ทางคณะแพทย์ได้ดูแลรักษากว่า2เดือน เจ้าตัวกล่าวทั้งความภาคภูมใจ “หลังจากนี้จะขอกลับไปทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยเหมือนเดิม”

ขำไม่ออก! มาริษบอกรัฐบาลฉีก MOU43-44 ได้ ด้วยมติ ครม.

'มาริษ' ชี้รัฐบาลฉีก MOU43 และ 44 เองได้ ด้วยมติ ครม.ไม่ต้องผลักภาระโยนให้ ปชช.ออกเสียงประชามติ - ชี้! ต้องรับผิดชอบผลเสียที่จะตามมา หลังกองทัพ-กต.ใช้ประโยชน์จาก MOU เป็นกรอบเจรจา

'ปานเทพ' ย้ำ ครม.ยกเลิก 'MOU 43' ได้ไม่ต้องทำประชามติ

'ปานเทพ' ยันต้องยกเลิก 'MOU 43' เพื่อปกป้องอธิปไตย ชี้ ครม.สามารถทำเองได้ โดยไม่ต้องประชามติ มั่นใจไม่มีข้อตกลงนี้ กัมพูชาก็ลากไทยขึ้นศาลโลกไม่ได้ แนะควรปิดด่านบีบเข้ากรอบเจรจาใหม่