ไบเดนเผยมีแผนจะคุยกับสีจิ้นผิง เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯเล็งหาโอกาสเหมาะเพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน ในประเด็นที่สหรัฐฯพิจารณาจะยกเลิกภาษีศุลกากรให้กับสินค้าบางรายการของจีน เพื่อบรรเทาภาวะเงินเฟ้อในประเทศ

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ พูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในระหว่างการประชุมสุดยอดผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากห้องรูสเวลต์ของทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 (Photo by MANDEL NGAN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 22 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการโทรหาประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีนในเร็วๆนี้

การพูดคุยครั้งสุดท้ายระหว่างผู้นำทั้งสองมีขึ้นล่าสุดในวันที่ 18 มีนาคม ประเด็นหลักในครั้งนั้นคือไบเดนต้องการเตือนสีจิ้นผิง ไม่ให้ช่วยเหลือรัสเซียในการรุกรานยูเครน

ส่วนประเด็นล่าสุดที่ไบเดนวางแผนจะต่อสายคุยกับสีจิ้นผิง คือเรื่องกำแพงภาษีศุลกากรที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่สมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยอัตราภาษีกำหนดไว้ที่ 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทุกประเภทซึ่งรวมแล้วมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กำแพงภาษีนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นบทลงโทษต่อจีน โดยสหรัฐฯในขณะนั้น มองว่าจีนดำเนินการทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรมด้วยสินค้าราคาถูกที่หวังจะเข้ามาทุ่มตลาดและโจมตีราคาสินค้าบนแผ่นดินสหรัฐฯ จึงตั้งกำแพงภาษีนำเข้าในอัตราสูงเพื่อปกป้องผู้ผลิตในประเทศ

การตั้งกำแพงภาษีใส่จีนได้รับความนิยมทางการเมือง แต่ด้วยอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่แต่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้ไบเดนต้องดิ้นรนหาวิธีบรรเทาแรงกดดันด้านราคาสินค้า และอาจพิจารณายกเลิกภาษีศุลกากรให้กับสินค้านำเข้าบางรายการของจีน จึงเป็นที่มาของแผนต่อสายหาสีจิ้นผิงในเร็วๆนี้

กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งหน่วยงานที่สนับสนุนความคิดดังกล่าวเพราะเล็งเห็นว่าการผ่อนปรนด้านภาษีสามารถช่วยบรรเทาภาวะเงินเฟ้อได้

การพูดคุยของสองผู้นำมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน เนื่องจากอัตราภาษีของทรัมป์กำลังจะสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคม เว้นแต่จะมีการขยายเวลาออกไปอีก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง