
นักกีฬาทีมชาติรัสเซียและเบลารุสสมควรจะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติอีกครั้งหรือไม่? กลายเป็นคำถามของความแตกแยกในวงการกีฬา คณะกรรมการโอลิมปิกสากลจำเป็นต้องออกโรงชี้แนะ
เมื่อปีที่แล้วยังคงมีข้อตกลงภายในแวดวงกีฬา หลังจากที่รัสเซียเริ่มบุกโจมตียูเครนด้วยความช่วยเหลือของเบลารุส นักกีฬาของรัสเซียและเบลารุสมักถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศจากการโจมตีของรัสเซีย
แต่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกซึ่งจะมีขึ้นที่ปารีสปี 2024 (26 กรกฎาคม-11 สิงหาคม) กำลังใกล้เข้ามา เริ่มมีการแข่งขันรอบคัดเลือก และมีเสียงวิพากษ์มากขึ้นเรื่อยๆ ว่าควรมีการพิจารณากีดกันชาติรัสเซียและเบลารุสออกจากการแข่งขัน โธมัส บาค-กรรมการและประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เพิ่งเน้นย้ำทัศนคติของเขาว่า กีฬาไม่ควรถูกนำมาใช้เป็น “อาวุธทางการเมือง” แต่ควรเป็น “พลังรวมเป็นหนึ่งเดียว” มากกว่า
หลังจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสารกระตุ้นของรัสเซียเมื่อปลายปี 2014 โธมัส บาคเกือบจะวางตัวเป็นกลางและผลักความรับผิดชอบในการตัดสินใจทั้งหมดเกี่ยวกับใบอนุญาตเริ่มต้นสำหรับนักกีฬารัสเซียให้กับสมาคมกีฬาชั้นนำระดับนานาชาติ ครั้งนั้นเขาถูกวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องนี้ มาตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเจตนารมณ์ของเขาเปลี่ยนไป และพยายามแสดงจุดยืนที่ชัดเจนมากขึ้น
ในการประชุม 3 วันของคณะกรรมการบริหาร IOC เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาที่เมืองโลซานน์ ได้ข้อสรุปตามข้อเสนอแนะของสมาคมกลาง โดยจะอนุญาตให้นักกีฬาทีมชาติรัสเซียและเบลารุสเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติอีกครั้ง นั่นรวมถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่ปารีสด้วย
แต่โธมัส ไวแคร์ต-กรรมการและประธานสมาพันธ์กีฬาโอลิมปิกเยอรมนี (DOSB) กลับมีความเห็นตรงข้าม เขาไม่ปรารถนาจะให้รัสเซียและเบลารุสเข้าร่วมในโอลิมปิก แม้ใครจะอ้างว่ากีฬาไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เขายืนยันว่ากีฬามักถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัสเซีย ระบบการใช้สารกระตุ้นโดยความเห็นชอบของรัฐแสดงให้เห็นว่า ผู้นำทางการเมืองมุ่งหวังความสำเร็จด้านกีฬามากน้อยเพียงใด ดังนั้นเขาจึงเกรงว่าการเข้าร่วมของนักกีฬาทีมชาติรัสเซียในปารีสจะถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ในการโฆษณาชวนเชื่อ
ข้อเสนอของสมาพันธ์กีฬาโอลิมปิกเยอรมนีคือ ควรกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดมากขึ้น นั่นหมายถึงนักกีฬาต้องแสดงจุดยืนในความเป็นกลางอย่างชัดเจน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพรัสเซีย ไม่ให้การสนับสนุนสงคราม ไม่มีสีหรือสัญลักษณ์ประจำชาติ รวมทั้งไม่มีเพลงประจำชาติ
ฤดูร้อนปีที่แล้ว 35 ชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในตะวันตก ออกมาสนับสนุนการคว่ำบาตรนักกีฬาทีมชาติรัสเซีย อย่างไรก็ตาม IOC มีคณะกรรมการโอลิมปิกจากทั้งหมด 206 ชาติ ซึ่งมีกรอบความคิดที่แตกต่างกันและตีความในเรื่องกฎระเบียบที่แตกต่างกัน อีกอย่าง IOC มีนโยบายชัดเจนที่จะไม่เลือกปฏิบัติ และมีหน้าที่ต้องปกป้องสิทธิมนุษยชนของนักกีฬา ซึ่งรวมถึงยูเครนด้วย
ในขณะที่ยูเครนกำลังขู่ว่าจะคว่ำบาตรกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ที่ปารีส.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไซปรัส-มอลตา' ถอน 'พาสปอร์ตทอง' ของชาวรัสเซีย
‘พาสปอร์ตทอง’ หรือสัญชาติที่พลเมืองนอกสหภาพยุโรปสามารถได้รับเพื่อแลกกับการลงทุนและเป็นที่ถกเถียงกันอยู่นั้น ขณะนี้ไซปรัสและมอลตาได้เพิกถอนจากชาวรัสเซียหลายสิ
แก้วสรร : คำตอบจากรัสเซีย
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "คำตอบจากรัสเซีย" มีเนื้อหาดังนี้
'บริตนีย์ ไกรเนอร์' นักบาสฯ แลกเปลี่ยนกับพ่อค้าอาวุธรัสเซีย
บริตนีย์ ไกรเนอร์ ถูกคุมขังในคุกรัสเซียเป็นเวลาเก้าเดือน ก่อนที่จะถูกแลกเปลี่ยนกับพ่อค้าอาวุธชื่อกระฉ่อน และนำมาซึ่งการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกา
'ลิสบอน' ปลายทางร่วมของยูเครนและรัสเซีย
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ลิสบอนเคยเป็นสถานที่หลบภัยและเมืองแห่งความหวังของผู้ลี้ภัย ปัจจุบันชาวยูเครนและรัสเซียยังคงนั่งอยู่ร่วมกัน เพียงแต่วันนี้พวกเขาไม่คิดอยากเดินทางไปต่อที่สหรัฐอเมริกาแ
'เซเลนสกี' ครวญ โลกจะไม่สงบสุขถ้ารัสเซียไม่ปลดปล่อยไครเมีย
คาบสมุทรไครเมียจะต้องได้รับการปลดปล่อยจากการยึดครองของรัสเซีย นั่นคือประโยคเน้นย้ำของประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ทหารมุสลิม