ใครกลัว 'ทักษิณ'?

ซึ่งก็หาตัวตนไม่ได้ว่า ใครที่ไม่ต้องการให้ "ทักษิณ"

เท่าที่เห็นมานับสิบปี ไม่มีใครกลัว "ทักษิณ" จะกลับมา

มีแต่คนกวักมือเรียกให้กลับมา

เพราะคุกรออยู่

หากจะลงรายละเอียดเรื่องนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ครับ

"ทักษิณ" พยายามกลับไทย ด้วยการบงการให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกกฎหมายนิรโทษกรรม 

ที่โกงกันไว้กี่คดี ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กลับมาแบบเท่ๆ

กลับแบบนี้ใครยอมครับ

โดยสามัญสำนึก คนที่ถูกศาลพิพากษาว่าคอร์รัปชันหลายคดี ทำให้ประเทศเสียหาย วันดีคืนดีบอกว่า เราเจ๊ากันแล้วนะ ถามว่าใครจะยอม

อยากรู้จริงๆ

คนที่ยอม ต้องเป็นคนประเภทไหนกัน

อาจจะอ้างได้ว่าคดีของ "ทักษิณ" เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙

การเมืองมันเปลี่ยนไปเช่นนั้นจริง มีรัฐประหารจริง

แต่การคอร์รัปชันที่เกิดขึ้น ไม่ได้เปลี่ยนไปด้วย

ถึงไม่มีรัฐประหาร "ทักษิณ" ก็ถูกดำเนินคดีโกงอยู่ดี

ยกตัวอย่างคดีซุกหุ้น เมื่อปี ๒๕๔๔ ก่อนรัฐประหาร  ๕ ปีเต็ม ตุลาการศาลศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ๘ ต่อ ๗ ว่า  "ทักษิณ" ไม่มีความผิด

ครั้งนั้น "ประเสริฐ นาสกุล" ประธานศาลรัฐธรรมนูญ  เขียนคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า "ทักษิณ" มีความผิด พร้อมให้แง่คิดว่า

"...หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร

ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา

เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต

ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้น ผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง (ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด..."

หมายความว่าอะไร?

หมายความว่า มีการเตือน "ทักษิณ" ตั้งแต่ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ๆ ว่า อย่าโกง เพราะพฤติกรรมที่  "ทักษิณ" แสดงออกมาตั้งแต่เริ่มแรกคือ...

"โกง"

"ทักษิณ" ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์จำนวน  ๔๖,๓๗๓ ล้านบาท

มันไม่ใช่จู่ๆ ไปยึด

แม้จะเป็นการยึดหลังการรัฐประหาร แต่จะอ้างว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองแทบไม่ได้เลย เพราะพฤติกรรมมันสะท้อนตัวตนของ "ทักษิณ"

มีปัญหาด้านจริยธรรมทางการเมืองของผู้นำ

คดี ซุกหุ้นภาค ๑ และภาค ๒ ได้เปิดโปงให้เห็นว่า เครือข่ายธุรกิจชินวัตรเป็นโซ่ที่คล้องผูกพันโยงใยไปกว้างขวาง มีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปอำนวยความสะดวก

เช่นกรณี     ออกพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ ฉบับที่ ๔  พ.ศ. ๒๕๔๖

พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ ฉบับที่ ๖๘ พ.ศ. ๒๕๔๖

ปี ๒๕๔๘ มีการออกกฎหมายก่อนการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปให้แก่เทมาเส็ก กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาล สิงคโปร์

ออกกฎหมายพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๘ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการขยายสัดส่วน การถือหุ้นของบุคคลและนิติบุคคลต่างชาติในบริษัทที่ประกอบกิจการโทรคมนาคม รวมทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่จากไม่เกินร้อยละ ๒๕ เป็นไม่เกินร้อยละ  ๕๐

ให้ยกเลิกสัดส่วนกรรมการบริษัทที่ต้อง เป็นบุคคลสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ออกทั้งหมด

ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๒๑ มกราคม  ๒๕๔๙ 

วันที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ครอบครัวชินวัตรได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ครอบครองอยู่ ให้แก่บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้ง จำกัด 

เป็นการขายหุ้นที่มีมูลค่าสูงถึง ๗๓,๐๐๐ ล้านบาท

พฤติกรรมแบบนี้มิได้เกิดกับ "ทักษิณ" คนเดียว 

คนอื่นก็ไม่น้อยหน้า ส่งทนายความแก้ต่าง แต่ดันไปก่อคดีใหม่ “ถุงขนม ๒ ล้าน”

พิชิต ชื่นบาน ทนายความ "ทักษิณ" ถูกศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก ๖ เดือน โดยไม่รอลงอาญา ในคดีในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

๒ ล้านเงินใคร คงไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว

นี่คือการตอบคำถามว่า "ทักษิณ" ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่

ยังไม่นับรวมการแทรกแซงองค์กรอิสระ 

แทรกแซงสื่อ

คอร์รัปชันเชิงนโยบายในโครงการอื่นๆ เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทร

และอีกสารพัด

ทั้งหมดไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง

แต่เพราะ "ทักษิณ" มีปัญหาทางศีลธรรม จริยธรรม ขณะอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศ

ฉะนั้นวันนี้ สิ่งที่ประชาชนจำนวนมาก ต้องการจาก "ทักษิณ" ไม่ใช่ส่งลูกสาวลงเล่นการเมือง แล้วฝันเฟื่องจะชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์

เพื่อเป็นเงื่อนไขต่อรองในการกลับประเทศ

แต่ต้องการให้ "ทักษิณ" กลับมาติดคุกเพื่อชดใช้ความผิดที่ก่อไว้

ไม่มีใครกลัว "ทักษิณ" กลับมา

มีแต่กลัวว่าไม่กลับ แล้วยังส่งคนในครอบครัวชินวัตรมาสร้างปัญหาให้ประเทศเพิ่มเติม

และสิ่งที่กลัวกำลังจะเกิด

ที่ประชาชนอยากรู้คือ "ทักษิณ" ล้มเหลวจากการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ และความฝันล้มเป็นโดมิโน เมื่อยิ่งลักษณ์ต้องเผ่นไปต่างประเทศอีกคน

เพราะฉายหนังเก่าเรื่องโกงทั้งโคตร

แล้วทำไมยังพยายามเอาหนังม้วนเดิมกลับมาฉายใหม่.