พรุ่งนี้ 'จะเลือกใคร?'

พรุ่งนี้แล้วนะ "อาทิตย์ ๒๒ พฤษภา"

ใครอยู่พัทยาก็ไปเลือกนายกเมืองพัทยา ใครอยู่ กทม.ก็ไปเลือกผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. "เขตใคร-เขตมัน"

ที่ลืมได้ แต่พลาดไม่ได้ คือ....
"ทีมชาติไทย" เตะกับ "ทีมเวียดนาม" ชิงเหรียญทองซีเกมส์ ถ่ายสดๆ จากเวียดนาม ตอนค่ำ ดูไปด้วย-ลุ้นไปด้วย ใครจะได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ก็ไม่ผิดกติกาตรงไหน

ใครจะเลือกใคร ตามสบายเลย...โยม ที่สำคัญต้องไปใช้สิทธิ์กันให้มากๆ โดยเฉพาะใน กทม.ผู้มีสิทธิ์ ๔  ล้านกว่า ไปกันให้คูหาแตกไปเลยยิ่งดี

คนกรุงเทพฯ นั้น เท่าที่สังเกต เขามีแว่นวิเศษ เลือก ส.ส.ก็ใช้เลนส์ชนิดหนึ่ง เลือกผู้ว่าฯ กทม.ก็ใช้เลนส์อีกชนิดหนึ่ง ไม่เหมือนกัน

โพลน่ะ "เสียหมา" มาหลายครั้งแล้ว!

ฉะนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่อง "กาผิด-คิดจนตัวตาย"

คือที่จะไปเลือกคนคิดไม่ซื่อ คนเก่งแต่โม้ ว่าจะทำโน่น-ทำนี่ ทั้งที่ไม่มีอำนาจ แล้วหลงคำไปเลือกเขามาเป็นผู้ว่าฯ ไม่มีแน่

แต่ถ้าถามว่า "แล้วผมเลือกใคร?"

"จ้างก็ไม่บอก"

เพราะเคยบอกไปแล้ว ขืนบอกพร่ำเพรื่อ จะเสียผู้ใหญ่  เขาจะครหาว่า "ออกหน้า-ออกตา" จนไม่ดูวัน-ดูเวลาเลยนะคุณปู่

มาคุยเรื่องนี้คั่นเวลากันดีกว่า........

เมื่อวาน ผมดูคลิปเด็กสาวรุ่น ๒ คน แต่งชุดนักเรียน แต่ไม่มีเครื่องหมายโรงเรียนใด นัยว่ากลุ่ม "นักเรียนเลว" ในขบวนการสามนิ้วนั่นแหละ

มายืนหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ยื่นข้อเสนอให้ "เปิดเสรีทรงผมนักเรียน"

พกกรรไกรมาคนละอัน หั่นเปีย-ปอยผมตัวเองส่งให้ "นายวีระ แข็งกสิการ" รองปลัดกระทรวงฯ ฝากไปให้รัฐมนตรีศึกษา "ตรีนุช เทียนทอง"

ผมจะไม่แสดงความคิดเห็น แต่อยากให้อ่านคอมเมนต์จากท้ายข่าวเว็บไทยโพสต์ บางเมนต์

...........................

สังวรณ์ สายริด

ผมสั้นได้ยาวได้ แค่ปฏิบัติตามระเบียบ อยู่ที่ไหนก็ทำตามระเบียบเขา ถ้าไม่อยากทำก็ย้ายไปที่อื่น ก็แค่นั้น

.....................

Sajapong Bhurayanontachai

กระทรวงศึกษาไม่ได้ห้ามนานแล้ว ทรงผมมันแล้วแต่กฎโรงเรียน

..........................

Puntiwa Trysook

ตอนสอบเข้าเรียน ทำทุกอย่างตามกฎให้ได้เข้า พอเข้าแล้วจะแก้กฎทุกอย่าง เหมือนโลกหมุนรอบตัวเอง

........................

นักรบ พอเพียง

แล้วใครไปโกนหัวให้มัน ผมก็ไว้ยาวได้ จะเอาอะไรอีกจ๊ะนักเรียน นักเรียนควรไปเน้นเรื่องเรียนไม่ใช่หรือ ตกลงจะเรียนหรือไปหา....

.............................

Manat Watchaipana

สมัยกูอยู่ มศ.1 โรงเรียนแกลง "วิทยสถาวร" นักเรียนมากกว่ามึง 100 เท่า นั่งประท้วงหน้าเสาธง ขอตัดผมอะไรก็ได้ ครูคนไหนมาพูดให้หยุดประท้วง นักเรียนไม่ฟัง ไม่สน

พอครูเจนเดินมาพร้อมไอ้ด้ามแดง (ไม้เรียว) มาพูดว่า “จะเลิกหรือไม่เลิก” เท่านั้นแหละ จบข่าว ตัวใครตัวมัน

...........................

บอย วราห์

Manat Watchaipana มันไม่ได้ซิครับ พอยกเลิกการตีไปผลมันก็เป็นแบบนี้แหละ ต้องกลับไปใช้ไม้เรียว ไอ้เด็กเห่อ.....พวกนี้

.............................

Tavon Inpapian

การแต่งเครื่องแบบนักเรียน ตัดทรงตามระเบียบมันคือฝึกบังคับตนเอง ให้รู้จักคำวินัย ยังไม่ถึงเวลาต้องแต่งตัวตามแฟชั่นเพราะหาเงินเองไม่ได้

.........................

นายสิษฐสิงห์ ศรีปุนะเดช

ไปดูผลการเรียนของไอ้พวกที่มาขอเรื่องผิดระเบียบทั้งหลายเหอะ..เด็กเรียนเค้าไม่มีเวลามาสนใจเรื่องไร้สาระพวกนี้หรอก..

........................

ฮันเตอร์บลู สตาร์ด้า แบทไนท์โกลล์

ถ้าทำตามกฎระเบียบไม่ได้ก็ไม่ต้องเรียน และกระทรวงก็ไม่ได้ห้ามทรงผมนานแล้ว

มันอยู่ที่โรงเรียนไหนจะออกกฎทรงผมมาอย่างไร

 ลาออกแล้วไปหา....สะมึง

.............................

แก้ว สารพัดนึก

เมืองมีกฎเมือง บ้านก็มีกฎบ้าน โรงเรียนก็มีกฎโรงเรียน อยากไว้ผมยาวลาออกสิครับ

.................................

Manachai Thammaraj

ถ้าเป็นยุคเรานี้ เด็กๆ เหล่านี้คงเผาตัวเองประท้วงแน่ๆ กฎระเบียบฯ รร.มัธยมประจำจังหวัดฯ สมัยนั้น ผญ.ไว้ยาวได้แค่หู ยาวถักเปียเหมือนปัจจุบันก็ไม่ได้ ใครผมยาวมา ครูฝ่ายปกครองถือกรรไกร ตัดฉับๆๆ เลย

นร.ชาย ก็ไว้ได้แค่ทรงทหาร จะมารองทรงเหมือนปัจจุบันก็ไม่ได้ โดนกรรไกรคมกริบ ตัดให้อายหน้าเสาธงเลย แต่ก็แค่ 3 ปีเอง ก็ผ่านมาได้ ยังวัยรุ่นอยู่ตอนนั้น ในใจลึกๆ ก็อาจแอนตี้อยู่บ้าง

แต่เด็กบางคนเอาจริง ชกสวนครูปกครองก็มีที่ไปละเมิดสิทธิ์ (สมัยนั้นคำนี้คงยังไม่บัญญัติ) แต่ผลที่ตามมาคือต้องย้ายโรงเรียนตอน ม.5 เพราะเขาถือว่าเด็กนักเรียนชายคนนี้ก้าวร้าวเกินเยียวยา โดยไม่สนใจว่า เขาถูกละเมิดสิทธิ์...

ผ่านไปหลายปี ยุคสมัยเปลี่ยนไป ไหนๆ ก็ไหนๆ ก็แล้ว ควรยกเลิกเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษาไปซะเถอะ  มันสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย จริงอยู่ ระดับประถมฯ อาจจะมีงบแจกฟรี แต่ระดับมัธยมฯ ก็ไม่ support ตรงนี้

จำได้ตอนขึ้น ม.5 กางเกงนักเรียนขาสั้น รอยตะเข็บแตกตรงก้น อายก็อาย ต้องเอาเสื้อเข้าในด้วย เอาออกข้างนอกก็โดนดุอีก ระเบียบเฮี้ยบมาก เด็กนักเรียนยุค 80 นี้ แต่ก็ฝึกความอดทนให้เราอยู่ในสังคมได้อย่างมีสติ และอย่างสงบได้ พอเข้ามหาลัยก็อิสระแล้ว หนูๆ อยากทำอะไรก็ได้แล้วตอนนั้น อดทนเอานิดเดียวเอง

................................

อีกมากมาย คัดมาเผื่อนักเรียน ๒ คนนั้นได้อ่าน จะได้ทบทวนสิ่งคิด-สิ่งทำว่า มันไม่ควร-ไม่งามเลย       

ก็เข้าใจ "วัยแตกพาน" อยากสวย-อยากงาม กันทั้งนั้น              แต่นักเรียนส่วนใหญ่ "เป็นแสน-เป็นล้าน" เขารู้ภาวะ "อดทน-อดกลั้น" อยู่ในกฎระเบียบได้ แล้วเราไม่กี่คน จะแหกกฎไปเพื่ออะไร?

ที่พูดนี่ รู้ว่าพวกเธอไม่สน.....

ไม่เป็นไร โตขึ้นเมื่อพ้นวัยระบัดใบ เธอจะเข้าใจเอง

ว่าที่นึกว่าเท่ นึกว่าเป็นฮีโร่

ที่แท้ พวกเธอคือ ผึ้งอ่อนหลงน้ำหวานของเกสรพิษสามสัสและพวก'จานสารเลว

สุดท้าย เมื่อความอ่อนวัยของพวกเธอหมดประโยชน์จะใช้ ถึงตอนนั้น ทุกอย่างมันก็ยับเยินสายเกินจะกลับตัว-กลับใจ ก็ฝากให้คิดนะ

อาจสงสัย ทำไมผมจึงพิรี้-พิไรกับ "นักเรียนเลว" สอง-สามคนเหล่านี้?

เพราะผมดูคลิปแล้ว เห็นธาตุแท้เด็กทั้ง ๒ ว่าเป็น "เด็กดี" แต่คงเพราะห่างผู้ปกครองอย่างหนึ่ง มั่วสุมกับกลุ่มเพื่อนไม่ดีอีกอย่างหนึ่ง แล้วชักนำกันไปเข้าสู่การ "ล้างสมอง" ของพวก'จานขบวนการสามสัส

ไม่ได้ชั่ว ไม่ได้เลวโดยสันดาน หากแต่การหว่านล้อม การปรนเปรอจากแก๊ง'จานหลอกเด็ก แล้วเพริด...เตลิดไปมากกว่า

จะเห็นว่า พอรองปลัดกระทรวงฯ ออกมารับเรื่อง เธอทั้ง ๒ มีสัมมาคารวะ ยกมือไหว้ และพูดตามเวิร์ดดิงที่เขาให้ท่องจำมากล่าว ล้วงกรรไกรมาตัดผมตามบทที่เขากำหนดมาให้แสดง ไม่ก้าวร้าว หยาบคาย เหมือนคนอื่นๆ

จุดดีของเธอที่ควรรักษาและนำไปพัฒนาใช้ทางที่ถูก-ที่ควร คือ กล้าแสดงออก พูดจาฉาดฉาน และมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่

โดยเฉพาะคนตัวเล็ก ย้อมผมสีแดง ที่พูดจากับรองปลัดฯ ผมอยากจะบอกเธอว่า

"ความกล้า" ในการแสดงออกกับ "ความหน้าด้าน" ในการแสดงออก มันคนละอย่างกัน

ถ้าเธอแยกแยะและใช้ให้ถูกทาง เธอจะเด่นและพบความสำเร็จระดับ "ผู้นำ" แน่นอน!

ผมเห็นแวว "ธาตุดี" ในตัวเด็กทั้งสอง จึงเสียดาย อยากให้มีใครซักคน ช่วยเจียระไน จูงเธอกลับไปเป็น "เด็กดี" ในชั้นเรียน

ก่อนจะขึ้ง-จะเคียด กับเด็กสามนิ้ววันนี้ อยากให้แต่ละท่านนึกย้อนตอนเราเป็นเด็กบ้าง เขาขาดรัก-ขาดความเข้าใจ จึงกลายเป็นเหยื่อขบวนการชั่วร้าย

ถ้าเห็นคนไหนพอจะช่วยรั้งกลับมาได้ ก็ช่วยๆ กันเถอะครับ นึกว่าลูกหลานเราก็แล้วกัน

อย่าง "ทอน-ปิยบุตร" นั่นเป็นผู้ใหญ่แล้ว แม้วและลูกแม้วก็เหมือนกัน ล้วนโตกันแล้ว คิดเป็นกันแล้ว

ฉะนั้น ไม่ต้องไปช่วยเขา

และก็ไม่ต้องไปรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อรอสัญญาณเผาอย่างคราวที่แล้วอีก

ตอนติดคุกหัวโต หมาซักตัวก็ไม่มีมาแล แต่ตอนใกล้เลือกตั้งกลับมานับญาติเป็นครอบครัวใหญ่

"เสื้อแดง" เขาถอดแอก-ถอดไถตั้งนานแล้ว

"ฟักแม้ว" ยังละเมออยู่อีกหรือนี่?

วันเสารที่ปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' กับ 'อนาถา'

ยุค "นักโทษ" เป็นใหญ่ "ปรับ ครม.เพื่อไทย" จะแจก-จะริบ "อาหารเม็ด" หมาในคอกตัวไหน?

๑ หมื่น 'ไม่ลื่นคอ' นะจ๊ะ

ปกติจ้อจน "จ๋อลพบุรี" ตกต้นไม้ แต่พอถึงเรื่อง "เงินแจก ๑ หมื่น" ชาวบ้านที่ไม่ต่างแมวถูกเศรษฐาเอาปลาย่างทาจมูก ต่างรอฟังผลประชุม ครม.ตกลงจะเคาะแจกวันไหน?

"ขายเพื่อน" ใครจะคบ?

"บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล"สมแล้ว ที่มีคนเรียก "เทพโจ๊ก" บ้าง "มารโจ๊ก" บ้าง "แมวเก้าชีวิต" บ้าง "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" บ้าง

'เรามาปฏิวัติกันเถอะ'

รัฐบาลนี้.... ในจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด ๓๓-๓๔ คน มี "ใหญ่จริง" ที่ได้รับการซูฮกยกเป็น "บิ๊ก" มีอยู่คนเดียว