นายกฯ 'แผลง ๓ ศร' สู้

นายกฯ แถลงการณ์ "๓ แกน สร้างอนาคต" เมื่อ  ๘ กรกฎา ๖๕

เซียนการเมือง "ฟันธงไปทางเดียวกัน" ว่านี่คือการส่งสัญญาณ "ลุงตู่อยู่ต่อ"!

นายกฯ มองข้ามช็อต "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" ปลายเดือนนี้และประเด็นตีความ "นายกฯ ๘ ปี" ไปถึงขั้นอยู่ครบเทอม ๔ ปี

และต่อ "อีก ๔ ปี" จากเลือกตั้งใหญ่ ต้นปี ๖๖ โน่นแล้ว!

     

การตั้งใจอยู่ของนายกฯ ไม่ใช่เพราะ "อยากอยู่" หากแต่เพราะ "อยากสานงาน" ที่ทำไว้ ให้สำเร็จ

สังเกตเห็นชัด จากเนื้อหาแถลงการณ์

ค่อนข้างยาว ฉะนั้น เอาเฉพาะคำนำมาให้อ่าน ส่วน "๓ แกน สร้างอนาคต" จะเอาที่เขา "กลั่นแก่น" ไว้ มาให้ทราบกัน

เริ่มจากคำนำเรื่่องของนายกฯ ก่อน ดังนี้

“ประยุทธ์​ จันทร์โอชา Prayut-Chan-o-cha”

"วันนี้ผมอยากพูดกับทุกท่าน เกี่ยวกับอนาคตของบ้านเรา และการเดินหน้าต่อไปของประเทศไทย

ตอนนี้ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่ภาวะการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงปกติแล้ว ข้างหน้าของเรา ยังมีอีกหนึ่งภัยร้ายที่ใหญ่ยิ่งกว่ารอเราอยู่

นั่นคือ เราจะอยู่รอดอย่างไร จากการโหมกระหน่ำของพายุการขึ้นราคาทุกอย่าง ซึ่งสงครามรัสเซีย-ยูเครน เป็นส่วนสำคัญยิ่งที่กระตุ้นให้ข้าวของแพง

ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมัน อาหาร ค่าขนส่ง จนถึงขั้นทำให้บางประเทศในภูมิภาค เข้าใกล้การล่มสลายทางเศรษฐกิจ

วันนี้ ผมขอใช้เวลาซักนิด เล่าเรื่องสำคัญ คือ กลยุทธ์ภาพใหญ่ของผมที่จะมาแก้ปัญหาปากท้องและความยากจนให้หมดไปเสียที

ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงระยะสั้นๆ ได้ดำเนินนโยบายระยะสั้น แก้ปัญหาความยากจนเฉพาะหน้า

หรือมีโครงการลดแลกแจกแถมต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า บางโครงการเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกฤต เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

แต่โครงการแบบนั้น ไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน และแน่นอนว่าวิธีการเหล่านั้น ไม่ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้

เพราะฉะนั้น ผมจึงตั้งใจเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น ที่จะทำเรื่องใหญ่ๆ ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อช่วยทุกคนให้สามารถสร้างรายได้ ได้มากขึ้นอย่างยั่งยืน

ผมขอให้ทุกท่านเดินหน้าไปกับผม ในช่วงเวลาที่ภารกิจระยะยาวเพื่อทุกคน ที่ผมได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ผมกำลังขับเคลื่อนกลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี 3 แกนหลัก ที่จะมายกระดับความรุ่งเรืองของประเทศ เป็น 3 แกนหลักที่กำลังจะเสร็จ และกำลังจะพร้อมที่จะช่วยเราทุกคนได้ในอนาคตอันใกล้"

เอาล่ะ ทีนี้ก็คงอยากรู้กัน

ว่า ๓ แกนหลัก "ที่นายกฯ ใช้ขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมาย" ผ่านโครงการต่างๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ มีอะไรบ้าง เพจ "ลุงตู่ตูน" สรุปไว้ ดังนี้

"ลุงตู่ตูน"

แกนที่ 1 คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ที่ใหญ่ที่สุดและบูรณาการมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย

โครงการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความรุ่งเรืองมั่งคั่งของทุกคน  โครงการที่ต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานหลายปี และตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

โดยเมื่อโครงการต่างๆ เกิดขึ้นจริง จะเชื่อมต่อกันเหมือนต่อจิกซอว์ภาพใหญ่ได้สำเร็จ

แกนที่ 2 คือแกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องเชื่อมโยงต่างๆ

เป็นภาคอุตสาหกรรมที่หล่อเลี้ยง เชื่อมต่อไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดเล็กอีกมากมาย

ตลอดจนดึงเงินมหาศาลให้ไหลเข้าประเทศไทย ผ่านการส่งออกต่างๆ เป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งรุ่งเรืองของไทย

อย่างไรก็ตาม วันนี้ เราเดินมาได้ไกลแล้ว ด้วยการทำงานอย่างรวดเร็ว และบูรณาการหลายหน่วยงาน จนผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกหลายราย แสดงเจตนารมณ์ว่า จะเดินหน้าตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราจะต้องทำ ในช่วง 12  เดือนข้างหน้า เพื่อให้ได้ข้อสรุปกับผู้ผลิตยานยนต์ต่างๆ  เหล่านั้น และจะต้องทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีราคาที่ถูกลง สำหรับคนไทยทุกคน

ซึ่งจะให้รายละเอียดเพิ่มเติม และความคืบหน้าเกี่ยวกับกลยุทธ์แกนที่ 2 นี้ ประมาณช่วงเดือนหน้าครับ

แกนที่ 3 คือ เรื่องเกี่ยวกับภาคการธนาคารของเรา และวิธีการทำงานของธนาคาร

ตอนนี้ประเทศไทยมีประชาชนมากกว่า 30 ล้านคนที่ไม่สามารถกู้เงินได้ และบางคนอาจจะไม่เคยมีบัญชีธนาคารเลยด้วยซ้ำ

เราต้องกลับมาถามตัวเองว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ในเมื่อธนาคารและเงินกู้จากธนาคาร คือหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุด ที่ประชาชนสามารถใช้ในการสร้างอนาคตและความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้

รวมทั้งช่วยให้ประชาชนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่มีปัญหาไปได้ โดยที่ธุรกิจไม่ล้ม หรือไม่ต้องหมดเนื้อหมดตัว  ในขณะเดียวกัน....

ถ้าเราสามารถหาหนทาง ที่จะทำให้ประชาชน 30  ล้านคนเหล่านั้น เข้าถึงระบบธนาคาร สามารถขอเงินกู้ และใช้บริการต่างๆ จากธนาคารได้

เราก็สามารถกระตุ้นความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับประเทศเราได้ด้วย.

เมื่อรู้ ๓ แกนของนายกฯ แล้ว คงอยากฟังความเห็นจากผู้มีทักษะกัน ว่าจะเป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน? 

ผมไม่ใช่ผู้มีทักษะ

ต้องระดับ "ดร.สุวินัย ภรณวลัย" ผู้จบ ตรี-โท-เอก  ด้านเศรษฐศาสตร์จาก "มหาวิทยาลัยโตเกียว" ซึ่งน้อยนักจะมีในเมืองไทย

ซึ่งอาจารย์สุวินัย โพสต์ไว้ดังนี้

Suvinai Pornavalai

 สิ่งที่ลุงตู่กำลังปฏิรูปประเทศ ผ่าน 3 แกนนั้น ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์คนหนึ่ง ผมประเมินความคืบหน้าของการปฏิรูป 3 แกนดังต่อไปนี้

แกนที่ 1 "ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ"

ลุงตู่ทำสำเร็จไปแล้วราวๆ 80%...

แกนที่ 1 เป็นงานที่หินที่สุดและยากที่สุด เพราะต้องมีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ และต้องทำต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10 ปี ถึงจะสำเร็จได้จริง

แต่ลุงตู่กลับทำได้ถึง 80% แล้ว ดังนั้นการผลักดันแกนที่ 2 และ 3 จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย

แกนที่ 2 "ผลักดันภาคอุตสาหกรรมยานยนต์" โดยเฉพาะ ผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งหนึ่งของโลก

ลุงตู่เริ่มผลักดันไปแล้วราวๆ 20%

ต้องการเวลาอีก 4-5 ปีข้างหน้า เพื่อให้คืบหน้าไปอีกอย่างน้อย 60-70% ซึ่งน่าจะทำได้แน่นอน เพราะประเทศไทยมีพื้นฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

แกนที่ 3 "ปฏิรูปภาคการเงินด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล" ลุงตู่ทำสำเร็จไปแล้วราวๆ 30%

เริ่มจากแพลตฟอร์ม "คนละครึ่ง"

ตามมาด้วยแพลตฟอร์ม "หวยออนไลน์" เพื่อแก้ปัญหาหวยแพง 

นี่คือตัวอย่าง "โครงการนำร่อง" ที่จะนำไปสู่การบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ  ดังที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศจีน

สำหรับในเมืองไทย ก็น่าจะเกิดได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า

ถ้าลุงตู่ทำสำเร็จภายใน 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งผมเชื่อว่าลุงตู่ทำได้แน่

ลุงตู่จะเป็นรัฐบุรุษคนล่าสุดของประเทศไทยอย่างแน่นอน

วันนี้หนักหน่อยนะ แก้มึนด้วยเรื่องนุ่น "ตบตูด" ละกัน  จากไลน์ "แก๊งแม่หมอ" คนเขียน เขียนแสบ "คลาสสิก" จี๊ดๆ

erk

การเมืองและการเทรด เป็นเรื่องของความเชื่อ ต่อให้มึงมี IQ 108 มึงก็โดนทำให้เชื่อในผิดๆ ได้

เกมคนฉลาดโดนหลอก เรียกว่า "การเมือง" และการเทรด นักการเมือง มีหน้าที่ทำให้มึงเชื่อ

มึงมีหน้าที่ถามตัวเองว่า "เชื่อหรือไม่?"

ตอนที่มึงเชื่อ คือ ตอนลงคะแนนหรือเปิดออเดอร์ มึงไม่รู้อนาคตหรอกว่า "ความเชื่อนั้น จะจริงหรือเท็จ"

ถ้าเป็นเท็จ มึงก็จะไม่เชื่อมันอีก และมึงก็จะไปหาความเชื่อใหม่

สติปัญญา มีอิทธิพลกับความเชื่อ ก็ต่อเมื่อคนคนนั้น มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนเท่านั้น

เมื่อไร้สติ ต่อให้มีสติปัญญามากแค่ไหน มันก็ไม่ส่งผลกับความเชื่อ

ความเชื่อที่ไร้สติ จะเรียกว่า "ดันทุรัง" หรือ "อีโก้"

เทรดเดอร์ที่ฉิบหาย ก็เพราะมีอีโก้มากเกินไป

คนที่เลือกชัชชาติ หรือ ลุงตู่ ต่างก็มีความเชื่อ

ถ้ามึงเชื่อว่า ชัชชาติดี มึงเขียนรายการที่ชัชชาติทำและพูด แล้วอ่านให้ตัวเองฟัง ถ้ามึงเชื่อตามนั้น ก็เป็นสิทธิของมึง ชีวิตมึง

กูเชื่อลุงตู่ เพราะกูเห็นสิ่งที่ทำดี และสิ่งที่ทำไม่ดี แล้วก็ชั่งน้ำหนัก เทียบกัน แคนดิเดตนายกฯ อย่างอุ๊งอิ๊ง หรือชัชชาติ....เทียบแล้ว กูจะอ้วก

แนวคิดดี กับมีผลงาน กูเลือกรูปธรรม

ส่วนมึงจะฝันหวานกับนามธรรม ก็ไม่มีใครว่าอะไร

ความฝันทำให้มีความสุข

กูเข้าใจ ตอนนี้ มึงต้องอยู่กับความทุกข์

เพราะ "ลุงตู่เป็นนายกฯ"

ครอบครัวใหญ่" คงต้อง "ตรอมใจ" ต่ออีก ๔ ปีละมั้ง แบบนี้!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พรพระ-พรนักโทษ'

หมู่นี้..... "คนห่มเหลือง" ประพฤติผิดพระวินัยสงฆ์ ต้อง "อาบัติปาราชิก" ข้อ "เสพเมถุน" ถี่มาก!

เศรษฐา "นายกฯ ฮูดินี"

"ชีวิตที่มีหมานำ" ก็อย่างนี้แหละครับ "หัวหน้าคอก" เมื่อพักคุก ก็ไปขลุกเชียงใหม่

'เมษา....พระมาเตือน'

เรา...."ประเทศไทย"! "ชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์" เป็นทั้งรูปธรรมและนามธรรม