เบื้องหลังความสำเร็จ...คืออาชญากรรม!!!

ตามประสาของผู้ที่จำต้อง เสพข่าว บริโภคข่าวสาร-บ้านเมืองมาโดยตลอด 40 กว่าปี...แม้จะยังพะงาบๆ ยังสะง็อกสะแง็ก อยู่กับความป่วยไข้ ที่ยังไม่รู้จะต่อเนื่อง ยาวนาน ไปอีกถึงขั้นไหน? แต่ก็อดมิได้ที่ต้องคอยเงี่ยหูฟัง มหกรรมการรื้อนั่งร้าน-การเด็ดหัว ใครต่อใคร หรือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งสุดท้าย ของบรรดาพลพรรคฝ่ายค้านเขาอยู่อีกนั่นแหละ...

แต่ไม่ว่าครั้งไหนต่อครั้งไหน...สุดท้ายมันก็คง เหมียนเดิมม์ม์ม์ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ คือใครที่มี มือ มากกว่าย่อมต้องเป็นฝ่ายมีชัย ฤชุพันธุ์ ไปตามสภาพ ตามครรลองของ การเมือง อันเป็นอะไรที่

น่าเบื่อ น่าเวทนาเอามากๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีหน้าที่ต้อง เจาะ-เกาะ-ติด ต่อบรรดาความเคลื่อนไหวทำนองนี้ มาเกือบครึ่งศตวรรษแล้วเห็นจะได้ แต่ก็อย่างว่า...ด้วยเหตุที่กิจกรรม ธุรกรรม ทำนองนี้ มันอาจถือเป็น ศูนย์รวม แห่ง กิเลส และ อวิชชา ของใครต่อใครมาโดยตลอด มันเลยออกจะเป็นตัวสร้างแรงดึงดูดให้ผู้คนตั้งแต่ระดับฐานไปจนถึงยอด ต้องหมกมุ่น มัวเมา อยู่กับเรื่องราวดังกล่าว ชนิดถอนตัวไม่ขึ้นมาแทบทุกยุค-ทุกสมัย...

การเอาแพ้-เอาชนะระหว่าง ฝ่ายมึง-ฝ่ายกู ไปตาม จุดยืน-ทัศนคติ และวิธีการ ของแต่ละฝ่าย ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ เอาไป-เอามาแล้ว...จึงแทบไม่ได้มีอะไรใหม่!!! สู้หันไปหาเช่าวิดีโอหนังเก่าแก่ยุคโบร่ำ-โบราณ อย่าง The Godfather ที่อภิมหานักวิจารณ์หนังและนักให้กล้วย อย่าง เสือเตี้ย-สนานจิตต์ บางสพาน ออกจะหลงใหล คลั่งไคล้ อย่างเป็นพิเศษ มาดูซักชั่วโมง-สองชั่วโมง น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ เพราะอย่างน้อย...ก็น่าจะมีอะไรที่ คลาสสิก กว่าการเสียเวลานั่งดูการอภิปราย หรือการลุกขึ้นมาประท้วง ที่ออกจะ จืดสนิทติดทนนาน หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

โดยเฉพาะเมื่อบทสรุปสุดท้ายของสิ่งที่เรียกว่า การเมือง ...มันอาจคล้ายๆ บทสรุปของนักเขียนนิยายเรื่อง God Father อย่าง Mario Puzo ท่านเคยสรุปไว้ว่า เบื้องหลังความสำเร็จทุกชนิดก็คือ...อาชญากรรม!!! อะไรประมาณนั้น ขึ้นอยู่กับความหยาบ ความละเอียด ความถ่อย ความประณีต ว่าอะไรต่อมิอะไรจะมาก-จะน้อยไปกว่ากัน เหมือนอย่างที่โจรสลัดรายหนึ่ง เอ่ยปากกับจอมจักรพรรดิ อเล็กซานเดอร์มหาราช เอาไว้นั่นแหละว่า... “เมื่อข้าพเจ้ายึดเรือลำหนึ่งได้สำเร็จ ข้าพเจ้าถูกเรียกว่าโจรสลัด แต่สำหรับพระองค์ที่เข้ายึดครองอาณาจักร แว่นแคว้น ดินแดนต่างๆ ในลักษณะไม่ต่างไปจากกัน แต่พวกเขาต่างกลับขนานนามพระองค์ว่ามหาราช” ...ว่าซั่น!!!

ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่า ชัยชนะ หรือ ความพ่ายแพ้ ทางการเมืองของฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใด ณ ยุคใด-สมัยใด ก็แล้วแต่ สุดท้ายแล้วมันก็ออกไปทาง...งั้นๆ!!! นั่นแหละเป็นหลัก ไม่ได้มีอะไรที่สูงส่ง วิเศษวิเสโส ไปกว่ากันและกันซักกี่มาก-น้อย เพราะชัยชนะในวันนี้ ย่อมมีสิทธิ์พลิกผันไปเป็นความพ่ายแพ้ในวันหน้า หรือวันใด-วันหนึ่งได้เสมอๆ ไม่ต่างไปจากชะตากรรมของพวก มาเฟีย ในนิยายของ Mario Puzo ยังไง-ยังงั้น แต่แม้กระนั้น...มันยังกลับก่อให้เกิดแรงดึงดูด ต่อบรรดาคนหนุ่ม คนสาวคนแก่ คนชรา หรือคนแทบทุกเพศ ทุกวัย ให้ยังต้องหมกมุ่น มัวเมา อยู่กับแวดวง อาชญากรรม แต่ละรูป แต่ละแบบ ชนิดถอนตัวแทบไม่ขึ้น ไม่ต่างไปจากแวดวง การเมือง ทั้งหลายนั่นเอง...

ทั้งๆ ที่แต่ละคน แต่ละราย สุดท้ายต้อง เด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไม่ต่างไปจากกันด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น...แทนที่จะเอาแต่หมกมุ่น มัวเมา อยู่กับ ชัยชนะ และ ความพ่ายแพ้ ในลักษณะดังกล่าว สู้หันมา เอาชนะตัวเอง เอาชนะความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาทและชิงชัง ฯลฯ อันเนื่องมาจากความผิดแผก แตกต่าง ทางทัศนคติ จุดยืน และมุมมอง หรือบรรดา ความเป็นฝ่าย ความเป็นตัวตนของตน ทั้งหลาย ดังที่บรรดาพวกพระๆ ใน ศาสนา ต่างๆ ท่านพยายามชี้แนะ ชี้นำ มาโดยตลอด ย่อมเป็นอะไรที่น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ ยิ่งโดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้มีบทบาท บารมี พอเทียบชั้นได้กับตัวละครเอก อย่าง ดอน คาร์เลโอเน หรือ ไมเคิล คาร์เลโอเน ในนิยายเรื่อง Godfather อย่างมาก...ก็เป็นได้แค่ตัวละครตัวเล็ก-ตัวน้อย ที่หนักไปทาง แล้วก็โดนเขี่ย...แบบลิ่วล้อในหนังจีน อย่างที่คุณน้า หงา-สุรชัย จันทิมาธร ท่านว่าไว้ในบทเพลง ฉันคือ...ประชาชน อะไรทำนองนั้น ยิ่งควรหันมาให้ความสนใจเรื่อง ธรรมะ-ธัมโม ให้มากๆ เข้าไว้ น่าจะเหมาะกว่าการเอาแต่สนุกสนาน เมามันซ์ซ์ซ์ อยู่กับเรื่อง การมง-การเมือง ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท

สูตรแต่งตั้งตำรวจ

กว่าจะเคาะ กว่าจะคลอด ก็นั่งนับนิ้วกันแทบหงิก เพราะ 180 วัน ตามเงื่อนไขการบังคับใช้กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567

ฤาประเทศไทยจะไร้สีสวย มีแต่สีแสบ

ประเทศไทยอยู่ในสภาพความขัดแย้งระหว่างสีเสื้อมาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว แม้เวลานี้เราจะมีรัฐบาลผสมแบบข้ามขั้ว แต่เราก็ยังไม่เห็นบรรยากาศของความปรองดองเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

โลกที่'อันตราย'กับภารกิจของ'คนรุ่นใหม่'

เห็นข่าวเรื่อง ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ภาควิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านออกมาโพสต์