ยุทธวิธี ๓ ป.

ใจมันถึงกัน...

ภาพการเมืองวันนี้ยังฉายไปที่ ๓ ป.

โดยเฉพาะ "ป.ป้อม" กับ "ป.ประยุทธ์"

ส่วน "ป.ป๊อก" ยากแท้หยั่งถึง

ก็ยังสงสัยกันข้ามปีว่า "ป.ป้อม" กับ "ป.ประยุทธ์" แยกกันเดินร่วมกันตี

หรือ ทางใครทางมัน

สายสัมพันธ์ ๓ ป. ลึกซึ้งจนไม่มีวันตัดขาดจริงหรือไม่

หรือต้องสะบั้นเพราะการเมือง

ครับ...เป็นปุจฉา ที่รอวิสัชนา

แล้วใครจะเป็นคนตอบ นอกจาก ๓ ป. 

การเมืองแบบทหารวิเคราะห์ยากพอควร ต่างจากการเมืองโดยนักการเมือง ที่พอเดาทางได้ว่าเริ่มแล้วจุดจบจะอยู่ตรงไหน

กลยุทธ์การเมืองแบบทหาร ก็เหมือนยุทธวิธีในสงคราม

แต่ละสนามรบไม่เหมือนกัน

เริ่มทำสงครามใหม่ ยุทธวิธีต้องเปลี่ยนใหม่ ไม่งั้นตายเรียบ

แน่นอนครับการเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ ต่างจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นค่อนข้างมาก เพราะกติกาในรัฐธรรมนูญไม่เหมือนกัน

แต่ก็สงสัยกันไม่หาย แล้วทำไม ๓ ป. ถึงเลือกวิธีที่เสียเปรียบด้วยการแยกกันตี

อย่างที่รู้กันกติกาใหม่ พรรคเล็ก พรรคเกิดใหม่ เสียเปรียบ

ที่ได้เปรียบคือพรรคใหญ่ พรรคที่มีฐานคะแนนเสียงทั่วประเทศ

ทำไมไม่ล่มหัวจมท้ายกันที่ พรรคพลังประชารัฐ      เพราะยังมีโอกาสที่จะสู้กับพรรคเพื่อไทยได้ อย่างน้อยการเป็นพรรคลำดับที่ ๒ ยังพอการันตีได้ว่า นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากพรรคพลังประชารัฐ หากสามารถรวมเสียงได้มากพอ

การแยกกันแบบนี้ กลายเป็นว่าพรรคการเมืองที่ได้ประโยชน์มากกว่าคือพรรคภูมิใจไทย เพราะมีโอกาสเป็นพรรคลำดับที่ ๒

โอกาสในการเป็นนายกรัฐมนตรีของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" อาจมีมากกว่า "ป.ป้อม" และ "ป.ประยุทธ์"

หรือ "ป.ป้อม" และ "ป.ประยุทธ์" มีความเชื่อมั่นว่า พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. รวมกันแล้วได้มากกว่าที่พรรคพลังประชารัฐเคยได้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

หรือ ๓ ป. มีเป้าหมายอีกอย่าง ชนิดหักปากกาเซียน คือ ไม่ได้หวังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะยากที่จะสู้กับพรรคเพื่อไทยได้

แค่หาวิธีลงจากหลังเสือ

ลงอย่างไรเสือไม่กัด      

และวิธีที่ง่ายที่สุดเป็นพวกเดียวกับเสือไปเสียเลย

มีการพูดมาสักพักแล้ว่า "ป.ป้อม" มีดีลลับ แต่ "ป.ประยุทธ์" ไม่เอาด้วย

แต่ประเด็นอยู่ที่ ๓ ป. ขี่หลังเสือด้วยกัน เวลาลงต้องลงแบบเสือไม่กัดเหมือนๆ กัน

"ป.ป้อม" จะปล่อยให้เสือกัดเฉพาะ "ป.ประยุทธ์" คงไม่ได้

เพราะชายชาติทหาร ท่องกันมาตลอด ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน

ส่วน "ป.ป๊อก" ต้องละไว้ก่อน เพราะอย่างที่บอก ยากแท้หยั่งถึง

แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ "ป.ป๊อก" จะผงาดขึ้นมาแทนหลังจากนี้

ความสัมพันธ์ของ ๓ ป. ที่ปรากฏเป็นข่าวล่าสุดวานนี้  (๓ มกราคม) ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้ง ๓ ป. จิบกาแฟ นั่งพูดคุยตามประสาพี่น้อง

แล้ว "ป.ป้อม" ก็นำทีมอวยพรปีใหม่ "ป.ประยุทธ์"

บรรยากาศดูไม่เลว

ก็ยังไม่ใช่บรรยากาศที่การันตีว่า ๓ ป. ยังเป็นหนึ่งเดียว

แต่ที่พอจะยืนยันได้ว่าไม่มีปัญหาอะไรกัน และพูดคุยกันมาตลอดคือคำให้สัมภาษณ์ของ "ป.ประยุทธ์"

"...ก็เหมือนเดิมแหละ ไม่มีปัญหาอะไร

ผมก็ไปคุยกับท่าน เสาร์ อาทิตย์ ก็ไปคุยกับท่าน ไม่ใช่ว่าเออทะเลาะกัน ไม่เคยทะเลาะกัน ทะเลาะกันไม่ได้อยู่แล้วนะจ๊ะ

เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ ผมก็ไปคุยกับท่านมา นั่งกันอยู่เป็นชั่วโมง ก็คุยกระเซ้าเย้าแหย่กันเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น..."

ที่จริงก่อนนี้ "ป.ประยุทธ์" เคยพูดชัดกว่านี้

"เหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน ร่วมเป็นร่วมตายกันมา  ใครก็ทำลายไม่ได้ แม้มีคนเสี้ยมให้แตกกัน...ผมรักกัน ๓  คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนท่ามกลางสนามรบ ผมก็เคยอยู่ร่วมกัน"

ส่วน "ป.ป้อม" ก็ชัดไม่น้อยหน้า

"...ยังไงก็เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม เพราะอยู่กันมา  ๔๐-๕๐ ปี เราก็ดูแลกันมา ส่วนเรื่องของการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง เรื่องของส่วนตัวก็เป็นเรื่องของส่วนตัว  เรื่องของพี่น้องก็เป็นเรื่องของพี่น้องไม่มีปัญหาอะไร ยังรักกันเหมือนเดิม ไม่มีความขัดแย้งอะไรกัน

เพราะว่าพรรคพลังประชารัฐ ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด ไม่ให้มีความขัดแย้งเลย

เรื่องความขัดแย้งจะเป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้าของพรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรคต้องการก้าวผ่านความขัดแย้งทั้งหมด 

เพราะจะไม่ขัดแย้งกับใคร และที่ผ่านมาก็ไม่เคยทะเลาะกับใคร..."

หากนำคำพูดทั้งหมดมาตีความกลับกลายเป็นว่า คำพูดของคนที่มักพูดว่า "ไม่รู้ๆๆๆ" เป็นโลโก้ประจำตัว กลับพูดชัดเจนกว่า

แยกเรื่อง "การเมือง" กับ "พี่น้อง" ออกจากกัน

๓ พี่น้องบูรพาพยัคฆ์

กับ ๓ พี่น้องบนเส้นทางการเมือง ไม่เหมือนกัน

แต่ไม่ได้โกรธกัน

กูรู วิเคราะห์กันแล้วรัฐบาลหน้า อาจมีแค่ ๓ พรรค

เพื่อไทย

พลังประชารัฐ

ภูมิใจไทย

๓ พรรคนี้รวมกันได้ ส.ส.เกินครึ่งสภาสบายๆ

น้อยพรรคตั้งรัฐบาลง่าย ไม่จุกจิกเหมือนมีพรรคเล็กพรรคน้อยร่วมวง

แล้วมีความเป็นไปได้มากแค่ไหน

"ป.ป้อม" บอกแล้วว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่เคยทะเลาะกับใคร ก็คงหมายรวมไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน

ฉะนั้น...รอดู ๓ ป. ภาคต่อไป จะหวนคืนสู่อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ

หรือแค่ยุทธวิธีลงจากหลังเสือ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักโทษ'ตรวจการบ้าน

ยกประเทศให้ไปเลยดีมั้ยครับ นานๆ ประชดที เพราะทนเห็นบางคนยังใช้สันดานเดิม เป็นสันดานที่ทำให้ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานถึง ๑๗ ปีไม่ได้

เลือกคุกจะได้คุก

ว่อนสิครับ! หนังสือจาก "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ตายหมู่ไปกับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

ในที่สุดก็ชัดเจน ถือเป็นความรับผิดร่วมกันของคณะรัฐมนตรี โดยมิอาจมีใครปฏิเสธในภายหลังได้เลยว่า ไม่มีส่วนรับรู้กับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนหัวละ ๑ หมื่นบาท ด้วยงบประมาณกว่า ๕ แสนล้านบาท

มันมากับความเงียบ

งานเลี้ยงใกล้เลิกรา... สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงเดือนพฤษภาคมนี้แล้วครับ

แผนแทรกแซงกองทัพ

ก็ยังไม่เห็นว่าหน้าตาชัดๆ เป็นอย่างไร หมายถึงกฎหมายต้านการปฏิวัติรัฐประหารครับ