กรุงเทพฯ..เมืองดนตรี!
เห็นต้องพูดอย่างนี้แล้วล่ะ เพราะดูข่าววันก่อนที่นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลง..
“ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมเป็นต้นไป กรุงเทพมหานครได้ปลดล็อกสวนสาธารณะ จำนวน 12 สวน เพื่อเปิดพื้นที่สวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร
ให้ประชาชนสามารถเข้าไปเล่นดนตรีได้โดยไม่ต้องขออนุญาต โดยมีเงื่อนไขคือ การเล่นดนตรีนั้นจะต้องไม่มีการหารายได้หรือผลประโยชน์แอบแฝง ไม่ใช้เครื่องขยายเสียง
หากเป็นการเล่นดนตรีที่ใช้เสียงดังเกิน 85 เดซิเบล จะต้องเล่นดนตรีในพื้นที่ที่สวนสาธารณะจัดเตรียมไว้
ซึ่งถ้ามีผลตอบรับดี ทาง กทม.จะแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้ทุกสวนสาธารณะในกรุงเทพมหานครใช้งานได้
เดือนมกราคมนี้ ซึ่งเป็นเดือนแห่งเทศกาลดนตรีในสวน ตามนโยบายเทศกาล 12 เดือน กรุงเทพมหานครจึงกำหนดจัดกิจกรรมการแสดงดนตรีในสวนสาธารณะ จำนวน 8 สวน
คือ สวนวชิรเบญจทัศ สวนสันติชัยปราการ สวนรมณีนาถ สวนเบญจสิริ สวนเสรีไทย สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (เคหะร่มเกล้า)
สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (บางกอกน้อย) และสวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา (สะพานพระราม 9) รวมทั้งสิ้น 16 ครั้ง
โดยจะเป็นการแสดงดนตรีจากวงดนตรีของเยาวชนและประชาชน ที่สมัครผ่านช่องทางของกรุงเทพมหานคร และผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และศิลปินจากค่ายเพลงต่างๆ”
ครับ..นี่ก็เป็น 1 ในนโยบาย 214 ข้อ คือ “พื้นที่แห่งดนตรีและศิลปะการแสดง (สตรีทโชว์)” ที่ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ประกาศไว้ตอนหาเสียง
ส่วนนโยบายนำสายไฟฟ้า-สายสื่อสารลงดินนั้นได้ยุติ-ล้มเลิกไปแล้ว เช่นเดียวกับค่าบริการรถไฟฟ้า 25-30 บาทตอนหาเสียง คุณชัชชาติพลิกลิ้น..
“ไม่ได้หมายความว่า นั่งจากสถานีต้นทางถึงปลายทางเป็นราคานี้ แต่คิดจากราคาค่าโดยสารเฉลี่ยที่คนใช้บริการ เดิมคิดค่าเฉลี่ย 8 สถานี แต่ล่าสุด สจส.คำนวณไว้เฉลี่ยอยู่ที่ 11 สถานี”
ก็..ล้มตึง-หงายท้องไปอีกข้อ มีแต่ “พื้นที่แห่งดนตรีฯ” นี่แหละ ที่พอจะให้ดูเห็นเป็น “ผลงาน” ที่จับต้องได้ และเมื่อไหนๆ ก็ถนัดในงานแบบนี้
ผมขอแนะนำให้แต่งตั้งคุณยุทธนา บุญอ้อม เป็นที่ปรึกษา หรือไม่ก็รองผู้ว่าฯ เพื่อกำกับ-ดูแลด้านดนตรีในสวนไปเลยดีไหม!
อย่าลืมว่าคุณยุทธนาน่ะ นอกจากอดีตเคยเป็นกรรมการอำนวยการ บริษัท สนามหลวงการดนตรี แล้ว..
ปัจจุบันยังเป็นโต้โผจัดงาน “บิ๊ก เมาท์เทน มิวสิก เฟสติวัล” ให้คน-สัตว์ป่าได้ครึกครื้นเป็นประจำทุกปี!
จึงการันตีในฝีมือ ความรู้ ความสามารถ หากเชิญมาเป็น “รองผู้ว่าฯ” จะช่วยเติมเต็มความสำเร็จให้กับนโยบายข้อนี้ของคุณชัชชาติ..
เนรมิตกรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งดนตรีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และคนเมืองกรุงก็จะได้มีความสุข ความบันเทิงกับเสียงเพลง-เสียงดนตรีตลอดปีต่อไป!
เนี่ย..พูดด้วยความจริงใจในฐานะคนที่มีดนตรี-เสียงเพลงอยู่ในหัวใจเลยนะ และแม้จะเป็นนโยบายข้อเดียวที่จับต้องได้..
ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลงมือทำ...อะไรเลย!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สงสัย..นาฏราช
ร้อนเป็นบ้า.. นี่..ไม่ได้แค่คำบ่น-คำสบถกันเล่นๆ และถ้ามีใครจะ “แก้ผ้า” วิ่งกลางถนนกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรเหมือน “สาวแหม่ม” (เมื่อไม่นานมานี้)..
“ใบเตย”..ฟ้าหลังฝน
ตอนนี้ได้ยินว่า.. สงครามไหนก็สนุกสู้ “สงครามสมรส” ไม่ได้ อย่างคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาใครที่นั่งดู “ช่องวัน31” ก็คงให้รู้สึกเช่นนั้น
เหตุผล..การพักโทษ
คนกราบหมา อย่านะ..ไม่ใช่อย่างที่กำลังคิดหรอก และก็ไม่ต้องคิดเลย เพราะที่จะคุยต่อไปนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเจ้าของคอกหมาหรือใครทั้งนั้น!
ปีกกล้าขาแข็งแล้วสิ?
เวลา 09.45 น. วันที่ 4 พ.ค.2565.. คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้โพสต์เป็นบันทึก.. "ผักแพง หมูแพง ไก่แพง / น้ำมันแพง ไฟฟ้าแพง ข้าวของแพง / ฯลฯ ค่าแรงถูก ชีวิตคนจนราคาถูกลง ...
ที่พึ่งยามยาก?
ตั้งสติหน่อยไหม? เข้าใจล่ะว่า “คุณกัน จอมพลัง” ผู้ที่ได้ชื่อเป็น “ที่พึ่งยามยาก” ให้กับประชาชนที่เดือดร้อน มีเจตนา-จิตใจงดงามที่จะช่วยเหลือ “ป้าปูนา” ให้ได้หนี้คืน
จูงหลานไปดู'หลานม่า'
ก่อนนู้นลั่น.. “รวยแล้วไม่โกง”! แต่..โทษที่ทำให้ติดคุก 8 ปี ล้วนแต่เป็น “คดีโกง” และแถมโกงกระทั่งวันติดคุก จนทำให้กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์-หมอ รวมทั้ง รมต.