ซีเรียในสงครามที่ไม่จบสิ้น

กันยายน 2018 รัสเซียร่วมกับกองทัพรัฐบาลซีเรียเข้ากวาดล้างผู้ก่อการร้ายที่เมือง Idlib ซึ่งมีผู้ประเมินว่ามีผู้ก่อการร้าย Jabhat al-Nusra อยู่ถึงหมื่นคน เครื่องบินรบรัสเซียโจมตีเมืองต่อเนื่อง กลุ่มก่อการร้ายอ่อนแรงตามลำดับ ด้านสหรัฐประกาศจะคงกองกำลังทหาร 2,200 นายในซีเรียเพื่อต่อต้านผู้ก่อการร้าย และกดดันกองกำลังสังกัดอิหร่านในซีเรีย นับจากนั้นเป็นต้นมา ทหารอเมริกันจำนวนหนึ่งจะอยู่ในแผ่นดินซีเรียจนถึงบัดนี้

กรกฎาคม 2022 กระทรวงการต่างประเทศจีนขอให้สหรัฐเลิกปล้นขโมยน้ำมันซีเรีย สนับสนุนท่าทีรัฐบาลซีเรียที่ชี้ว่าสหรัฐเป็นโจรขโมย กองทัพสหรัฐเข้าครองพื้นที่เกษตรกรรมกับบ่อน้ำมันสำคัญของประเทศ เก็บเกี่ยวผลประโยชน์

ภาพ: หญิงพลัดถิ่นซีเรียที่ได้รับความช่วยเหลือจาก UNHCR
เครดิตภาพ: https://www.unhcr.org/sy/21619-everyone-has-a-right-to-safety-and-to-access-food-unhcrs-grandis-message-from-syria.html

การปะทะเมื่อปลายมีนาคม 2023:

ตามรายงานสื่อสหรัฐ ต้นเหตุเริ่มจากเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 23 มีนาคม โดรนอิหร่านสังหารทหารอเมริกัน 1 นาย ตามมาด้วยการโจมตีตอบโต้ไปมา ฝ่ายอิหร่านยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอเมริกาทางตอนเหนือของซีเรียใกล้แหล่งน้ำมัน Al-Omar ส่วนอเมริกาตอบโต้โจมตีฐานทัพอิหร่านที่ Harabesh 2 วันต่อมาทหารอเมริกันในซีเรียยังคงปะทะกับกองกำลังที่อิหร่านสนับสนุน การปะทะขยายตัว ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่ม

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า สหรัฐไม่อยากขัดแย้งกับอิหร่านหลังโจมตีฐานอิหร่านในซีเรีย แต่พร้อมปกป้องคนของตน ยืนยันสู้กับ ISIS ต่อไป Gen Michael Erik Kurilla ผู้บัญชาการ US Central Command ให้เหตุผลว่า ISIS จะกลับคืนมาใน 1-2 ปีหากกองทัพอเมริกันถอนตัวออกจากซีเรีย มีข้อมูลว่า ISIS ซีเรียแตกตัวออกเป็นสาขาในที่ต่างๆ เช่น ISIS-K

เหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกที่ทหารอเมริกันในซีเรียปะทะกับกองกำลังที่อิหร่านสนับสนุนตรงๆ ปัจจุบันมีทหารอเมริกันในซีเรียราว 900 นาย

ย้อนหลังความไม่สงบในซีเรีย 2011:

มีนาคม 2011 เป็นจุดเริ่มเริ่มต้น กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูป ปลดปล่อยนักโทษการเมือง ให้มีการเลือกตั้งเสรี จัดตั้งรัฐสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชน ที่ผ่านมามีทุจริตคอร์รัปชันสูง ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องมานับทศวรรษ ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวาย รัฐบาลอัสซาดทำการปฏิรูปบางอย่าง พยายามเจรจากับฝ่ายต่อต้านสายกลาง แต่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด (Bashar al-Assad) เห็นว่าหากซีเรียปกครองด้วยประชาธิปไตยแบบตะวันตกจะยิ่งทำให้ประเทศอ่อนแอ จึงปฏิเสธข้อเรียกร้องของฝ่ายต่อต้าน มีเหตุปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาฝ่ายต่อต้านเปลี่ยนเป้าหมายเป็นล้มรัฐบาล

ประธานาธิบดีอัสซาดให้ชี้ว่าการประท้วงมาจากมีผู้จ่ายเงินให้คนประท้วงและเรียกร้องการปฏิวัติ ถ้าแนวทางนี้ไม่สำเร็จก็จะอ้างการเปลี่ยนแปลงศาสนา มกราคม 2014 รัฐบาลแจงว่ากำลังต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย หลายประเทศโดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียกับทูร์เคียที่สนับสนุนผู้ก่อการร้ายให้เข้ามาก่อเหตุในซีเรีย ให้เงินและอาวุธแก่องค์การก่อการร้าย ส่วนชาติตะวันตกสนับสนุนทางการเมืองแก่กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ ตราบใดที่ยังมีก่อการร้ายย่อมไม่สามารถแก้ไขด้วยสันติวิธี

17 สิงหาคม 2011 คือวันแรกที่ประธานาธิบดีโอบามาเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอัสซาดก้าวลงจากอำนาจ เป็นขั้นตอนเปลี่ยนจากระบอบอำนาจนิยมเป็นประชาธิปไตย เพราะอัสซาดปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนที่ชุมนุมอย่างสงบ สหรัฐไม่ยอมรับหลักอ้างอธิปไตยแล้วสังหารหมู่พลเรือน จึงสนับสนุนฝ่ายต่อต้านและร่วมมือกับมิตรประเทศเพื่อโดดเดี่ยวและกดดันรัฐบาลซีเรีย ได้รัฐบาลใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของชาวซีเรีย และเชื่อว่ากระบวนการเหล่านี้จะกินเวลายาวนาน

จุดยืนที่ประกาศเมื่อพฤศจิกายน 2011 ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน

อนาคตของซีเรียที่ไม่เป็นของคนซีเรียอีกต่อไป:

ประธานาธิบดีอัสซาดแสดงความเห็นว่า การจะเอาชนะ IS ขึ้นกับ 2 ปัจจัยหลัก ข้อแรกคือ ขีดความสามารถของฝ่ายปราบปราม อีกด้านคือ การสนับสนุน IS ตราบใดที่ยังมีรัฐบาลต่างชาติให้การสนับสนุน IS การปราบปรามเป็นเรื่องยากซับซ้อน และต้องจ่ายราคาอีกมากกว่าจะเอาชนะในที่สุด

นาย Ali Haidar รัฐมนตรีกระทรวงปรองดองสมานฉันท์ของซีเรีย (Ministry of Reconciliation) กล่าวว่า ประเทศใดก็ตามที่โจมตีดินแดนของซีเรียถือเป็นการรุกราน และเห็นว่าชาติตะวันตกอาศัยการโจมตี IS เป็นข้ออ้างแทรกแซงกิจการของประเทศอื่นๆ

มีการวิเคราะห์ว่า ความต้องการของสหรัฐ ชาติตะวันตก ชาติอาหรับ คือล้มระบอบอัสซาดเท่านั้น

11 ประเทศที่เรียกตัวว่า Friends of Syria อันประกอบด้วย ประเทศอังกฤษ อียิปต์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี จอร์แดน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย ทูร์เคีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐเป็นผู้ให้การสนับสนุนแนวร่วมต่อต้านรัฐบาลซีเรีย แสดงจุดยืนว่าประธานาธิบดีอัสซาดกับบริวารจะต้องไม่มีส่วนในรัฐบาลเฉพาะกาล (Transitional Governing Body หรือ TGB) เกิดคำถามว่าแนวทางนี้คือความต้องการของคนซีเรียส่วนใหญ่จริงหรือไม่ กลุ่มประเทศที่ผลักดันมีสิทธิอะไรในการกำหนดอนาคตของประเทศอื่น จริงหรือที่ทิศทางดังกล่าวก่อประโยชน์ต่อชาวซีเรีย ทำไมจึงไม่ให้พลเมืองซีเรียแท้ๆ ตัดสินอนาคตของตนเองโดยไม่มีคนนอกแทรกแซง

ฝ่ายต่อต้านเป็นเพียงหุ่นเชิดของตะวันตก นาย Joshua Landis ผู้อำนวยการ Center for Middle East Studies, University of Oklahoma ให้ความเห็นว่า “ฝ่ายต่อต้านแตกแยกอย่างชัดเจนในหลายเรื่อง... หัวหน้ากองกำลังฝ่ายต่อต้านไม่ได้อยู่ในฐานะเป็นผู้นำทางการเมือง” ดังนั้นผู้นำทางการเมืองที่ไปเจรจาจึงปราศจากอำนาจควบคุมการต่อสู้ในสมรภูมิ หลายคนถูกมองว่าเป็นหุ่นเชิดของอเมริกา และมีไว้เพื่อคุยกับอัสซาดเท่านั้น เสถียรภาพของซีเรียกลายเป็นผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจกับเพื่อนบ้าน ผู้รับเคราะห์มากที่สุดคือประชาชนซีเรีย

จะเห็นว่า การเข้ามาของชาติมหาอำนาจไม่ได้แปลว่าจะสร้างสันติภาพเสมอไป หรือแม้ว่ามีความตั้งใจดีก็ต้องคิดว่ามีโอกาสประสบผลสำเร็จเพียงใด

อนาคตซีเรียไม่เป็นของคนซีเรียมานานแล้ว ตั้งแต่กองกำลังติดอาวุธต่างชาติที่รัฐบาลต่างชาติอุปถัมภ์เข้ามาในซีเรีย แม้กระทั่งการเจรจาเพื่อหยุดยิง ยุติความขัดแย้ง ก็ไม่ใช่เพราะอิทธิพลของรัฐบาลอัสซาดหรือฝ่ายต่อต้านสายกลางที่เป็นคนซีเรียแท้ๆ

ถ้าหยิบยกผู้อพยพลี้ภัยขึ้นมาพูด อาหรับสปริงซีเรีย ความพยายามที่จะทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ชาวซีเรียหลายล้านคนลงเอยด้วยการระหกระเหินออกนอกประเทศ หลังอยู่ในประเทศอย่างยากลำบาก กลัวที่จะถูกทำร้ายหรือเสียชีวิต บัดนี้คือผู้ที่ยากจะกลับประเทศอีกแล้ว ชีวิตจากนี้คือการเป็นผู้ลี้ภัยในดินแดนต่างชาติ คนเหล่านี้อาจไม่ได้ทำอะไรผิด มีสิทธิที่จะต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดีกว่า แต่ต้องยอมรับสภาพ

เพราะการสร้างประชาธิปไตยไม่ได้ “สวยงาม” อย่างที่บางคนขายฝันให้ เต็มไปด้วย “ความไม่แน่นอน” มากมายที่ตัวเขากับครอบครัวจะต้องประสบด้วยตนเอง

ปัจจุบันคนซีเรียกว่า 90% ยากจน 2 ใน 3 อยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างแดน

ทำไมอิหร่านช่วยซีเรีย:

ซีเรียมีสัมพันธ์ดีกับอิหร่านมานาน รัฐบาลซีเรียที่นำโดยครอบครัวอัสซาดกับรัฐบาลอิหร่านหลังจากปฏิวัติอิสลามมีสัมพันธ์ดีแนบแน่น ประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล อัสซาด (Hafez Al Assad) บิดาของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด เป็นผู้ให้อยาตุลเลาะห์ โคไมนี (Ayatollah Khomeini) ลี้ภัยอยู่ในประเทศซีเรีย ก่อนที่โคไมนีสามารถกลับอิหร่าน ทำการปฏิวัติอิสลามในปี 1979 ซีเรียเป็นประเทศแรกที่รับรองรัฐบาลของโคไมนี

สมัยของประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล อัสซาด ไม่ถูกกับประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน (Saddam Hussein) สงครามอิรัก-อิหร่าน (Iran–Iraq War) ระหว่างปี 1980-1988 ทำให้ 2 ฝ่ายสูญเสียทหารนับแสน ในช่วงนั้นรัฐบาลซีเรียสนับสนุนอิหร่านทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นทางการเมือง เศรษฐกิจ การทหาร โดยเฉพาะการปิดท่อส่งน้ำมันของอิรักที่พาดผ่านซีเรีย แต่ด้วยการสนับสนุนอิหร่านครั้งนั้นทำให้ชาติอาหรับโดดเดี่ยวซีเรีย และเป็นเหตุให้ซีเรียมีสัมพันธ์แนบแน่นกับอิหร่าน

หลายปีแล้วกำลังสังกัดอิหร่านเข้าซีเรียปกป้องอัสซาดโดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลซีเรีย ที่ผ่านมาอิสราเอลเข้าโจมตีหลายครั้ง จนล่าสุดเกิดปะทะกับทหารอเมริกัน คาดว่าอนาคตอาจเกิดซ้ำอีก เรื่องนี้สัมพันธ์กับนโยบายต่ออิหร่านด้วย การปะทะระหว่างทหารอเมริกันกับกองกำลังที่อิหร่านสนับสนุนครั้งนี้เป็นฉากหนึ่งของซีเรียในสงครามที่ไม่จบสิ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

State of the Union 2024 ไบเดนลั่นกลองหาเสียง

คำแถลงนโยบายประจำปี 2024 เหมือนการหาเสียงมากกว่า ซึ่งไม่แปลกเพราะตรงกับปีเลือกตั้ง แม้ไม่เอ่ยว่าคำว่า “ทรัมป์” แต่ผูกประเด็นเข้ากับคู่แข่งการเมืองอย่างชัดเจน

ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้รัสเซียในศึกยูเครน?

ไม่ว่าสงครามยูเครนจะจบปีนี้หรือปีหน้า ที่สุดแล้วน่าจะมีคำตอบว่าฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายอำนาจนิยมชนะ ตามที่รัฐบาลโลกเสรีเอ่ยถึงเรื่อยมา

ทรัมป์หาเสียงให้รัสเซียบุกชาตินาโต

ทรัมป์ยินดีให้รัสเซียทำอะไรก็ได้กับชาติสมาชิกนาโตที่ไม่ยอมตั้งงบกลาโหมตามข้อตกลง ทำให้นาโตปั่นป่วน แต่อาจเป็นแค่การหาเสียงกับคนอเมริกันเท่านั้น