พลิกอีกแล้วครับ
ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าหุ้น ITV เป็นแค่เครื่องเคียง
มิได้เป็นเหตุให้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีโดยตรง
มีเหตุผลรองรับครับ
เป็นเรื่องน่ายินดี วานนี้ (๗ มิถุนายน) ๘ พรรคร่วมชะตากรรม ประกาศจะตั้งรัฐบาลเร็วกว่าไทม์ไลน์เดิม ๒-๓ สัปดาห์
สาเหตุเพราะ ประธาน กกต. "อิทธิพร บุญประคอง" ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สามารถรับรอง ส.ส.ครบ ๙๕% ภายในวันที่ ๑๓ กรกฎาคม
โต๊ะประชุม ๘ พรรค "พิธา" นั่งหัวโต๊ะ สั่งการให้หัวหน้าพรรคทุกพรรคเตรียมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมนโยบายในการแถลงต่อรัฐสภา
การเปลี่ยนผ่านงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะเข้าในช่วงสิงหาคม หรือกันยายน
พรรคเพื่อไทย พรรคเล็กพรรคน้อยก็เล่นไปตามบท แล้วแต่พรรคอันดับ ๑ จะกำกับว่าอย่างไร ก็ไหลไปตามนั้น
ประเด็นมันอยู่ที่ ประธาน กกต. ได้ให้สัมภาษณ์กรณีหุ้น ITV ของ "พิธา" ว่า
"ยืนยันว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณารับคำร้องไว้ดำเนินการตามระเบียบหรือไม่เท่านั้น กกต.ยังไม่ได้พิจารณาว่ากรณีมีมูลตั้งคณะกรรมการไต่สวนหรือไม่แต่อย่างใด"
อีก ๒-๓ เดือนก็ไม่จบ
ไม่รู้ว่า กกต.จะรับคำร้องไว้หรือไม่ ถ้ารับ ต้องตั้งกรรมการไต่สวน ต้องใช้เวลาในการไต่สวน
อีกนานครับ....
ตั้งรัฐบาลเสร็จไปแล้ว รัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จไปแล้ว ยังไม่รู้ว่า กกต.จะฟัน กรณีหุ้น ITV หรือยัง
ครับ...ก็ด้วยเหตุผลง่ายๆ แบบนี้แหละครับ หุ้น ITV จึงเป็นเพียงเครื่องเคียง กรณี "พิธา" จะได้เป็นนายกฯ หรือไม่
เมื่อการตั้งรัฐบาลเร็วขึ้น คาดว่าจบได้ในเดือนกรกฎาคม ประเด็นหลักจึงกลับไปที่เดิม
สมาชิกวุฒิสภาจะโหวตให้ "พิธา" เป็นนายกฯ หรือไม่?
ช่วงนี้เรื่องแก้ไข หรือยกเลิก ม.๑๑๒ ถูกพูดถึงน้อยลง หลังมีกรณีหุ้น ITV แทรกเข้ามา แต่หลังจากนี้จะมีการพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันที่รัฐสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ด่านนี้จึงเป็นจุดตายของ "พิธา" ชนิดไม่ต้องรอ กรณีหุ้น ITV ว่าทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. หรือนายกรัฐมนตรีหรือไม่
ก็ต้องย้อนกลับไปในจุดเริ่มแรก
คือนับแต่รู้ผลการเลือกตั้ง ที่เต็มไปด้วยความดุเดือดจากประเด็น ม.๑๑๒
จนถึงวันนี้ไม่มีใครในพรรคก้าวไกลลดราวาศอกจากการแก้ไขหรือยกเลิก ม.๑๑๒ เลยแม้แต่คนเดียว
และการแก้ ม.๑๑๒ ที่เท่ากับยกเลิกนี้ ยังคงปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร อยู่ในเว็บไซต์ของพรรคก้าวไกล อยู่ในหมวดนโยบายยอดฮิต เป็นนโยบายที่ต้องผลักดันต่อ
มีประเด็นเพิ่มเติมจากที่เคยเขียนถึงก่อนหน้านี้ คือมีการระบุถึงปัญหาและข้อเสนอแนะ
ปัญหา
พรรคก้าวไกลเขียนว่า....
"...ศาลหรือฝ่ายตุลาการ เป็นส่วนสำคัญของกลไกรัฐที่ประชาชนคาดหวังให้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง เป็นอิสระจากการถูกแทรกแซง และด้วยมาตรฐานที่คงเส้นคงวา เพื่อความยุติธรรมของประชาชนทุกคน
แต่ที่ผ่านมา คำพิพากษาและคำวินิจฉัยของศาลในหลายกรณีทางการเมือง ทำให้สังคมเริ่มตั้งคำถามมากขึ้นถึงความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ดังกล่าว และการขาดกลไกตรวจสอบถ่วงดุลศาลที่ประชาชนมีส่วนร่วม
ยิ่งไปกว่านั้น เสรีภาพขั้นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลได้มีการออกและบังคับใช้กฎหมายหลายฉบับเพื่อพยายามปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนที่เห็นต่างหรือวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล
ดังนั้น ปัญหาในเชิงหลักนิติธรรมทางกฎหมายจึงมีความสำคัญและจำเป็นต้องทบทวนเพื่อให้เกิดเสรีภาพและความเท่าเทียมตามมาตรฐานประชาธิปไตยสากล..."
นี่คือปัญหาของ ม.๑๑๒ ในมุมของพรรคก้าวไกล
โยงไปถึงการทำหน้าที่ของศาล หรือฝ่ายตุลาการด้วย
พรรคก้าวไกลกำลังจะบอกอะไร?
เมื่อดูจากพฤติกรรมท้าทายศาลยุติธรรม ของ ๒ ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล "ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว" และ "รังสิมันต์ โรม" เมื่อไม่กี่วันก่อน จะเห็นแนวทางที่ พรรคก้าวไกลทำมาโดยตลอด
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการดิสเครดิตศาล
มวลชนพรรคก้าวไกลปฏิบัติการครั้งแล้วครั้งเล่า มีทั้งเอาสีไปเท เอาเลือดไปสาด เอาไฟไปเผา หน้าสำนักงานศาลอาญา
และทุกครั้ง พกป้ายยกเลิก ม.๑๑๒ ไปชูด้วย
ฉะนั้นนอกจากแก้ไขหรือยกเลิก ม.๑๑๒ แล้ว ศาลยุติธรรม จึงเป็นอีกหน่วยงานที่ พรรคก้าวไกลเตรียมรื้อด้วย
ทีนี้มาดูข้อเสนอแก้ ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล
"...ลดโทษของกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ให้มีความสอดคล้องกับหลักสากล โดยให้เหลือเพียงจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (พระมหากษัตริย์)
จำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (พระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)
(โทษหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาจะถูกลดลงจากโทษจำคุก ๐-๒ ปี เหลือแค่โทษปรับ)
ย้ายกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ออกจากหมวดความมั่นคงให้เป็นความผิดที่ยอมความได้ โดยกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้มีสิทธิแจ้งความหรือร้องทุกข์กล่าวโทษเพียงผู้เดียว
บัญญัติให้ชัดเจนในกฎหมาย เพื่อคุ้มครองกรณีการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตหรือการพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับเหตุยกเว้นความผิดและเหตุยกเว้นโทษสำหรับการหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา..."
เพื่อไม่ให้ถูกครหาว่า แก้โทษหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเท่ากับหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา พรรคก้าวไกล ก็แก้ไขโทษหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา เป็นไม่มีโทษจำคุก
มีแค่ปรับ
แก้กฎหมายนี้เสร็จคงด่ากันระเบิด
คนรวยด่าคนจนสนุกปาก เพราะมีปัญญาจ่าย
ส่วนคนจนด่าคนรวย ระวังต้องขายบ้าน ขายที่นามาจ่ายค่าปรับ นี่คือความคิดของพรรคการเมืองที่คุยโม้โอ้อวดว่าให้ความสำคัญกับความเหลื่อมล้ำของสังคม
ถุย!
ทำไมต้องยก ม.๑๑๒ ขึ้นมาอีก
เมื่อ "พิธา" อยากเป็นนายกฯ เร็วขึ้น สังคมไทยก็ควรได้รับรู้ว่า การแก้ไขหรือยกเลิก ม.๑๑๒ นั้นจะสร้างความขัดแย้งครั้งใหญ่ในประเทศไทย
ใหญ่ชนิดไม่เคยมีใครได้พบเห็นมาก่อน
ความขัดแย้งเพราะระบอบทักษิณดูเด็กๆ ไปเลยครับ
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหาก ส.ว.โหวตให้ "พิธา" เป็นนายกฯ
เอิ่ม..."พิธา" อย่าลืม ข่าววงในคนนามสกุลเดียวกันแทงหลัง ไปหาให้เจอว่าเป็นใคร
จะยิ่งกว่า ม.๑๑๒
เพราะหมดอนาคต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ฝึกงาน
ขยี้ตาสิบที... แถลงผลงานในรอบ ๓ เดือนแน่นะ "อิ๊งค์" ไปดูอีกทีกับการแถลงข่าววานนี้ (๑๒ ธันวาคม)
ชะตากรรม 'นายกฯ ชินวัตร'
วันนี้ (๑๒ ธันวาคม) นายกฯ อิ๊งค์ แถลงผลงาน อยากรู้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง เชิญเฝ้าหน้าจอสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง ๑๑ นั่นแหละครับ
ในวันที่ 'ส้ม' โหยหาเพื่อน
ไอ้เสือถอย! ไปไม่ถึงสุดซอยครับ "หัวเขียง" ยอมเลี้ยวกลับเสียก่อน
ง่ายๆ แค่เลิกโกง
อาจถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลกันเลยทีเดียวครับ... หากพรรคเพื่อไทย จะเอาให้ได้ กับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ด้วยการจับยัดเข้าสภาฯ ก็สามารถยึดอำนาจกองทัพได้สำเร็จครับ
'อุ๊งอิ๊ง' แถลงผลงาน
ล้างตารอไว้นะครับ นายกฯ แพทองธาร นัดไว้แล้ววันที่ ๑๒ ธันวาคม มีข่าวใหญ่
หรืออยากฟังเพลงมาร์ช
เขาว่าเป็นร่างกฎหมายป้องกันรัฐประหาร ข่าววานนี้ (๖ ธันวาคม) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เผยแพร่การรับฟังความเห็นร่าง พ.ร.บ.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๗ ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...)