ตะวัน..ทำถูกแล้ว

พยายามที่จะพูดให้ดูดี มีวุฒิภาวะ!

แต่..ก็นะ อดีต (ตัวเอง) มันลบล้างไม่ได้ และต่อให้ได้เข้าไปนั่งอยู่ในสภาอันทรงเกียรติ ในสายตาผู้คน-สังคมก็ยังไม่อาจสลัดภาพ..

“โตโต้” หรือท่านปิยรัฐ จงเทพ สส.พรรคก้าวไกล “แกนนำกลุ่มวีโว่” การ์ดม็อบ 3 นิ้วหลุดพ้นไปได้!

ฉะนั้นที่คุณโตโต้โพสต์.. “กรณีเรื่องขบวนเสด็จฯ ที่ลุกลามมาถึงการรวมกลุ่มมาทำร้ายกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น หลายวันมานี้ผมพยายามรับฟังเหตุและผลทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด

พอจะเห็นความเคลื่อนไหวของบางฝ่าย จึงอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่ความรุนแรงอีกขั้นของผู้ที่จงใจที่จะเลือกใช้กำลังมากกว่าเหตุผล

ผมคิดว่าในฐานะ สส. ควรใช้พื้นที่สภา เพื่อหยุดหรือผ่อนสถานการณ์อันนำไปสู่การไล่ล่า การคุกคาม และข่มขู่ ประชาชนผู้คิดต่างกัน ก่อนที่สังคมจะเห็นดีเห็นงามกับการใช้กำลังเข้าแก้ปัญหา

โดยผมจะใช้โควตาของผม เพื่อปรึกษาหารือกับท่านประธานสภาฯ ไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.พ.นี้ ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร”

ผมอ่านแล้วก็ได้แต่ยิ้ม..เออเนาะช่างกล้าเขียน “อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่ความรุนแรงอีกขั้นของผู้ที่จงใจที่จะเลือกใช้กำลังมากกว่าเหตุผล”

คุณโตโต้นี่น่ะ “ห่วงจะนำไปสู่ความรุนแรง” ..โอ๊ยแม่เจ้า ถ้ามีความรู้สึกอย่างนี้ในสมัยเป็นหัวหน้าการ์ด ก็คงไม่ถูกศาลลงโทษจำคุก 2 ปี (รอลงอาญา) คดีก่อความวุ่นวายนั่นหรอกกระมัง?

และที่ว่า.. “มีผู้จงใจที่จะเลือกใช้กำลังมากกว่าเหตุผล” นั้น ใครเขาจะเชื่อว่าคุณโตโต้ไม่ได้คิด-มองด้วยอคติ-ลำเอียง และฝ่ายไหนกันล่ะที่จงใจ-วางแผนจะให้เกิดการใช้กำลัง?

ยิ่งประโยค.. “เพื่อหยุดหรือผ่อนสถานการณ์อันนำไปสู่การไล่ล่า การคุกคาม และข่มขู่ ประชาชนผู้คิดต่างกัน” ก็ให้นึกอยากถาม..

กรณีของอีเด็กห่าคนนั้น เป็นการ “คิดต่าง” เหรอ? นั่นมันไม่ได้คิดแล้ว แต่เป็นการลงมือกระทำที่สุดระยำ-บัดซบ ย่ำยีหัวใจคนไทย จนเขาทนไม่ได้

ถ้าคุณโตโต้ต้องการจะหยุดหรือผ่อนสถานการณ์ ไม่ต้องใช้สภาปรึกษาประธานฯ ฝากถึงนายกรัฐมนตรีหรอก เปลืองน้ำ-เปลืองไฟ เสียเวลา..

แค่กระซิบข้างหูอีเด็กเวร.. “มึงหยุดพฤติกรรมเสียแต่บัดนี้ ขืนทำต่อไปกูไม่เอามึงไว้แน่” กล้าพูดไม่ล่ะท่าน สส.ผู้ทรงเกียรติ..หือ?

หรือ..ถ้าไม่กล้าพูด ก็ลองฟัง (อ่าน) ที่ พล.ต.พัชร รัตตกุล หรือ “นายพลดอลลาร์ สามี “คุณหญิงแมงมุม” ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล หน่อยเป็นไร นานทีจะได้เผยความในใจ..

“ความรักและความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ คือ Soft Power ตัวจริง ที่ทำให้ประเทศชาติอยู่รอดมาได้

 และทำให้คนไทยทุกคน สามารถเผยอหน้าขึ้นมาสู้ชนชาติอื่น อย่างมีศักดิ์ศรีได้จนทุกวันนี้

อย่าปล่อยให้เสนียดสังคม ซึ่งไม่เคยทำประโยชนให้กับส่วนรวมแม้แต่น้อยนิด มาทำให้คนไทยต้องแตกแยกความสามัคคี ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะยอมต่อไปไม่ได้”

เป็นไง..ยังมองเป็นการ “คิดต่างกัน” อยู่อีกไหม คนอื่นน่ะเขามองเด็กห่าคนนี้เป็น “เสนียด” ที่หมายถึงจัญไร อัปมงคล หรือถ้า สส.พรรคก้าวไกลจะมองต่าง..

ก็ช่วยอธิบายความให้กระจ่างชัด อย่าทำเป็นพูดลับๆ ล่อๆ อย่างคุณเพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ ที่ว่า..

“การกระทำของตะวันถือว่าเป็นการแสดงออกตามสิทธิ และเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหมิ่นเหม่ที่จะละเมิดข้อกำหนดในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

อีกทั้งยังได้สร้างความไม่สบายใจให้กับหลายท่านในสังคม เราจึงขอย้ำเตือนถึงการแสดงออกที่เหมาะสม และควรแก่เหตุ

แต่เรายังคงยืนยันในหลักการคนเท่ากัน และเราก็ยังยืนยันให้หลักการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดเช่นกัน”

จะตำหนิ-ด่าก็ไม่กล้า จะยืนยันว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสม-ถูกต้องดีแล้วก็กระดากปาก-ละอายใจ หรือไม่ก็กลัวถูกลากเข้าไปอยู่ในดงบาทา!

ถ้ายังยืนกรานในหลักการ “คนเท่ากัน” ก็พูดให้ชัดสิว่า..

ตะวัน..มึงทำถูกแล้ว!.

 

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หลวงพ่อชี้โพรง?

เหลิงใน “ดีล” ที่ได้.. จากคืบเอาศอก จากศอกเอาวา..จึงดูท่าไม่ใช่แค่ “น้ำผึ้งหยดเดียว” เสียแล้ว หากแต่มีเหตุหลายเรื่อง-หลายอย่างประเด-ประดังให้สังคมรู้สึกอัดอัด คับแค้นจนทนไม่ได้

กินแหลกกับโกงแหลก

วันก่อน..ลงไป อ.ทุ่งสง-เมืองคอน! จะว่าหนีไปเที่ยวก็ไม่เชิง จะว่าไปทำงานก็ไม่น่าใช่ และก็ไม่ได้มีเรื่องสลักสำคัญอันใดที่จะต้องนำมาคุยในคอลัมน์ตรงนี้

สมบัติผลัดกันชม

คนหนึ่ง..ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี.. คนหนึ่ง..ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต!

อะไรๆ ก็กู?

เปิดซ่องอย่างเป็นทางการ.. นี่..ไม่ต้องตาโต-ตาลุกเลยสำหรับหนุ่มน้อย-หนุ่มใหญ่ รวมถึงเฒ่าตัณหากลับ เพราะ “ซ่อง” ที่จะ “เปิด” อย่างเป็นทางการนี้ ไม่ได้เป็นสถานที่คลายกำหนัดแห่งใหม่ที่ไหน?

แค่สิทธิ..อยากรู้

มีแต่ประเทศไทยกระมัง? ที่..นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีนั่งร่วมวงหม่ำข้าวกับ “นักโทษ” ที่อยู่ระหว่างการพักโทษด้วยเงื่อนไข เป็นผู้สูงอายุ เจ็บป่วยร้ายแรง..

สงสัย..นาฏราช

ร้อนเป็นบ้า.. นี่..ไม่ได้แค่คำบ่น-คำสบถกันเล่นๆ และถ้ามีใครจะ “แก้ผ้า” วิ่งกลางถนนกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรเหมือน “สาวแหม่ม” (เมื่อไม่นานมานี้)..