เมืองใดไร้ธรรมอำไพ...เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน!!!

ถ้าว่ากันตาม กระแสโลก คงต้องยอมรับเอาจริงๆ อย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า...ระบอบการเมือง-การปกครองที่เรียกๆ กันว่า ประชาธิปไตย นั้น มันกำลังเสื่อม กำลังทรุดโทรม ชนิดแทบไม่ได้หลงเหลือ คำตอบ ใดๆ ให้กับสังคมแต่ละสังคมยิ่งเข้าไปทุกที ยิ่งเป็นประชาธิปไตยตามแบบฉบับมาตรฐานตะวันตกด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งหนักไปทางกู่ไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี โอกาสที่อาจต้องใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้า ก่อนแบกขึ้นเมรุ ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

หรืออย่าง ประชาธิปไตยอเมริกา ที่ผู้นำรัสเซีย ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีต่อไปอีกสมัย ด้วยคะแนนนิยมระดับ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ท่านออกมาเยาะเย้ย ไยไพ ว่าแทบไม่ได้หลงเหลือความเป็น Democracy ใดๆ อีกต่อไปแล้ว แต่กลับหนักไปทาง Catastrophe หรือยิ่งออกอาการกลียุค หายนะ ยิ่งเข้าไปทุกที และก็คงไม่ได้ถือเป็นการเสียดสี เหน็บแนมที่ไร้ข้อมูล ความจริงแต่อย่างใด เพราะแม้แต่ผู้ที่กำลัง

เข้าแข่ง-เข้าชิง ตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกาอีกสมัย อย่างอดีตประธานาธิบดี ทรัมป์บ้า ท่านถึงกับต้องลุกขึ้นมาป่าวประกาศด้วยตัวเองเมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา ว่าถ้าหากท่านไม่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ประชาธิปไตยอเมริกาอาจต้องถึงจุดจบ ถึงกาลอวสาน อาจไม่มีเลือกตั้งครั้งหน้าอีกต่อไป แต่อาจถึงขั้นต้อง นองเลือด กันแทนที่...

จริง-ไม่จริง น่าเชื่อ-ไม่น่าเชื่อ...ก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่โดยลักษณะอาการของประชาธิปไตยอเมริกา ก็คงไม่ได้ผิดแผก แตกต่างไปจากประชาธิปไตยในยุโรปกี่มาก-น้อย คือออกจะเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก เป็นเต้าหู้ตกโต๊ะไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะโดยเงื่อนไข-เหตุปัจจัยใดๆ ก็ตามที แต่ที่น่าคิด น่าสะกิดใจ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ระบอบการเมือง-การปกครองที่ไม่ได้เป็นไปตาม มาตรฐานตะวันตก หรือไม่ถือเป็นประชาธิปไตยเอาเลยด้วยซ้ำ จนถูกเรียกขานกันในนามพวก อำนาจนิยม หรือพวก Authoritarian ทั้งหลาย กลับมีแนวโน้มที่ชักจะแข็งแกร่ง แข็งแรง เจริญเติบโตและงอกงาม จนมีฤทธิ์ มีเดชพอที่จะผงาดขึ้นท้าทาย หรือขึ้นมาเป็น มหาอำนาจคู่แข่ง กับมหาอำนาจสูงสุดในโลกอย่างคุณพ่ออเมริกา ชนิดก่อให้เกิด คำถาม หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ว่าเอาไป-เอามา ระบอบ ชนิดไหนกันแน่??? ที่เหมาะสม สอดคล้อง กับความเป็นไปของโลก โดยเฉพาะโลกที่เต็มไปด้วย ความเปราะบางทางสติปัญญา ของผู้คน (Our fragile intellect) ปรากฏให้เห็นชัดเจนอย่างมิอาจปฏิเสธได้...

และบรรดา คำถาม เหล่านี้...คงมิอาจตอบได้ด้วยการอาศัยข้อมูลทางรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ หรือแม้แต่ประวัติศาสตร์ ฯลฯ มาใช้เป็นตัวกำหนด กฎเกณฑ์ ได้มากมายซักเท่าไหร่นัก เพราะแม้แต่ นักวิทยาศาสตร์ อย่าง ดร. Gerald Crabtree ผู้เคยนำเสนอรายงานการค้นคว้าวิจัยระดับโลก เรื่อง Our fragile intellect ท่านยังอดไม่ได้ที่จะเสนอให้นำเอาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ มาเป็นตัวกำหนด กฎเกณฑ์กันแทนที่ ในการสรรค์สร้างระบอบการเมือง-การปกครองที่สอดคล้อง เหมาะสมสำหรับผู้คนที่กำลังโง่ลงๆ โดยจะเรียกว่าระบอบการเมือง-การปกครองใดๆ ก็ตามที แต่จำต้องมี ศีลธรรม กำกับเอาไว้ด้วยอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่งั้น...ก็อาจนำไปสู่ ความล่มสลายทางอารยธรรม ของมวลมนุษยชาติเอาเลยก็ไม่แน่!!!

ด้วยเหตุนี้...ความแข็งแกร่ง แข็งแรง ความเจริญเติบโต งอกงาม ของพวก อำนาจนิยม ทั้งหลาย มันอาจไม่ใช่เป็นเพราะความเหี้ยม ความโหด ความเบ็ดเสร็จ-เด็ดขาด อันเป็นลักษณะเฉพาะของระบอบการเมือง-การปกครองประเภทนี้โดยล้วนๆ แต่เพียงเท่านั้น แต่อาจเป็นเพราะมันยังคงหลงเหลือสิ่งที่เรียกว่า ศีลธรรม หรือ คุณธรรม ติดปลายนวมเอาไว้มั่งไม่มาก-ก็น้อย อย่างเช่นพวกอำนาจนิยมในประเทศจีน ที่ไม่ว่าจะเหี้ยม จะโหด เพียงใดก็ตามที แต่การที่สามารถเอาชนะ ความยากจน หรือสามารถยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนนับสิบๆ-ร้อยๆ ล้าน ให้พ้นไปจากเส้นมาตรฐานความยากจนของสหประชาชาติ ได้ในช่วงระยะเวลาแค่ไม่กี่สิบปี อันนี้...ยังไงคงต้องยอมรับนั่นแหละว่า ระดับคุณธรรม-ศีลธรรมของบรรดาสมาชิก พรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนสังคมประเทศ น่าจะสูงล้ำ นำหน้า กว่าบรรดาข้าราชการหรือข้าฯ พระราชา ในประเทศไทยแลนด์ แดนสยามของหมู่เฮาทั้งหลาย ที่ยังคง กัดกันไม่เลิก ไม่ใช่แค่ระหว่าง บิ๊กโจ๊ก กับ บิ๊กต่อ เมื่อวัน-สองวันนี้เท่านั้น แต่ต่อเนื่อง ยาวนาน นับเป็นทศวรรษๆ มาแล้วก็ว่าได้ ถึงได้ทำให้การต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนในบ้านเรา มักจะเป็นไปในแบบ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง...

หรือพวก อำนาจนิยม ในรัสเซียก็เช่นกัน...ถ้าหากไม่เป็นเพราะความรักชาติ รักประเทศ รักเอกราชและอธิปไตยที่ตั้งอยู่บนวัฒนธรรม-ประเพณีแห่งสังคมรัสเซีย อันถือเป็น คุณธรรม ชนิดหนึ่งของผู้นำประเทศอย่างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แล้ว ป่านนี้...ประชาธิปไตยตามมาตรฐานตะวันตกที่แพร่สะพัดเข้าสู่ประเทศนี้ หลังการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียต ก็น่าจะส่งผลให้อาณาจักรรัสเซีย เละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก ได้โดยไม่ยากส์ส์ส์ แต่ด้วยเหตุเพราะความภาคภูมิใจต่อความเป็นชาวรัสเซีย ความหวงแหนเอกราช อธิปไตย ตลอดไปจนความเป็นมาในประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซีย การสร้างความแข็งแกร่ง แข็งแรง ให้กับประเทศด้วยกรรมวิธีต่างนานา แม้จะกระเดียดไปทาง อำนาจนิยม หรือไม่? เพียงใด? ก็ตามที หรือแม้จะสร้างความไม่พึงพอใจให้กับโลกตะวันตกมาก-น้อยขนาดไหน? แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยสิ่งเหล่านี้นี่เองที่ทำให้รัสเซียสามารถผงาดขึ้นมาท้าทายต่อโลกตะวันตกทั้งแผงได้แบบถึงไหน-ก็ถึงกัน จนตราบเท่าทุกวันนี้....

ด้วยเหตุนี้...สิ่งที่ถือเป็น คำตอบ ไม่ว่าจะแบบกำปั้นทุบดินหรือไม่? เพียงใด? ก็แล้วแต่ มันก็คือ คุณธรรม หรือ ศีลธรรม นั่นแหละเป็นสำคัญ ไม่ใช่ความเป็นประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตย หรือเผด็จการ-ไม่เผด็จการ แต่เพียงเท่านั้น หรืออย่างที่คุณ ถนอม อัครเศรณี ท่านเคยรจนาไว้เป็นบทกลอนมานานแล้วนั่นแหละว่า... “เมืองใดไม่มีทหารหาญ-เมืองนั้นไม่นานเป็นข้า-เมืองใดไร้จอมพารา-เมืองนั้นไม่ช้าอับจน-เมืองใดไม่มีพณิชเลิศ-เมืองนั้นย่อมเกิดขัดสน-เมืองใดไร้ศิลป์โสภณ-เมืองนั้นไม่พ้นเสื่อมทราม-เมืองใดไม่มีกวีแก้ว-เมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม-เมืองใดไร้นารีงาม-เมืองนั้นสิ้นความภูมิใจ-เมืองใดไม่มีดนตรีเลิศ-เมืองนั้นไม่เพริศพิสมัย-(และ) เมืองใดไร้ธรรมอำไพ-เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน!!!”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล

ความแตกต่างระหว่าง'มนุษย์'กับ'สัตว์เดียรัจฉาน'

คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า

ประวัติศาสตร์สีกากี

ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของ "กรมปทุมวัน" ที่มีการเซ็นคำสั่งให้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "รอง ผบ.ตร." ออกจากราชการไว้ก่อน ผลพวงจากการต้องคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

สุขสันต์วันเกิดเมืองยาวหนึ่งปี

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่ถือกำเนิดจากพิธีวางเสาหลักเมือง หรือพระราชพิธีพระนครฐาน สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัช

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท