"กฎหมาย" ใน "กฎกรรม"

"บิ๊กแจ๊ส" น่ะ ลีลาวาทะอ้อนแฟนเขาเก่ง

ทางหนึ่งอ้อนคะแนนสงสาร อีกทางวอนอ้อนไมตรีนาย

"ถึงวันนี้พี่ทักษิณไม่เอาผม แต่น้องแจ๊สคนนี้ มีแต่พี่อยู่ในหัวใจตลอดกาล"!

ทักษิณก็แค่จะกำราบน้องแจ๊สเท่านั้นว่า เล่นไพ่สองหน้าน่ะ เล่นได้ แต่เล่นการเมืองสองหน้า ทั้งแดง-ทั้งส้ม

แบบนี้ "มึงอย่าเล่น" พี่ไม่ชอบ มันก็เท่านั้น

เขา DNA เดียวกัน

เดี๋ยวเขาก็กลับไปดีกัน แล้วพวกละอ่อนกับ "ละครตบตา" อย่างเรา ก็จะพากันหน้าเหวอ!           ข้อดีคนไทยมีอยู่อย่าง คือ "ไม่จำอดีต"

ดังนั้น จะเลือกตั้งกี่ครั้ง-ต่อกี่ครั้ง การเมืองไทย จึงสุดคณานับไปด้วย "อดีตโจร-อดีตกังฉินกินเมือง" ในสภาพ "ท่านผู้ทรงเกียรติ" ซ้ำๆ หน้า

กรณีเลือกตั้งนายก "อบจ.ปทุมธานี" นี่เหมือนกัน ถ้าไม่ลืมอดีตกันละก็ เมื่อต้นปี จะเห็นข่าวข่าวหนึ่ง

"สยามรัฐ" ออนไลน์.....

เขาลงข่าว เมื่อ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๗ พาดหัวนำว่า

“ลุงชาญใจดี” อดีตนายก อบจ.พร้อมพวก ขึ้นศาลฯ คดี "ทุจริตถุงยังชีพ" ก่อนนำโฉนดที่ดินประกันตัว

เนื้อข่าวมีว่า.....

ที่ "ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ" ภาค ๑ ตำบลห้วยบง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี

"นายชาญ พวงเพ็ชร์" อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และพวก

ได้เดินทางมาขึ้นศาลคดี "ทุจริตถุงยังชีพ" โดยใช้โฉนดที่ดินประกันตัวตัวเองและพวกยื่นต่อศาล

หลังจากที่มีงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ลูกชายนายก อบต.ลาดหลุมแก้ว ภายในงานมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ขึ้นเวทีอวยพรเจ้าของบ้าน

หลัง น.ส.แพทองธาร กล่าวทักทายกับประชาชนแล้ว

โฆษกได้กล่าวเปิดตัวนายชาญเป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี

โดยมีประชาชนและชาวเสื้อแดงกว่า 30,000 คนให้การต้อนรับ พร้อมกับมีการเปิดตัวว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี คือ "นายชาญ พวงเพ็ชร์"

หรือ "ลุงชาญใจดี" อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี 3 สมัย

แต่เนื่องจาก นายชาญ พวงเพ็ชร์ พร้อมพวก ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด

มีมติให้ยื่นฟ้องไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ๑ เพื่อให้พิจารณาความผิดคดี "ทุจริตถุงยังชีพ"

โดยวันนี้ ศาลฯ ได้พิจารณาว่า....

มีความผิดตามที่ ป.ป.ช.ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ต่อมา ทนายของนายชาญได้ยื่นประกันตัว โดยใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว

..........................

ถ้าความจำทางการเมืองดี ย้อนหลังไปอีกซัก ๒-๓ ปี ก็จะพบว่า เมื่อ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๔

"บ้านเมือง" ออนไลน์ เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลเดียวกัน โดยพาดหัวนำข่าวว่า

"ผิดยกก๊วน! อดีตนายก อบจ.ปทุมฯ พร้อมพวก ๖ ราย จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงเกินจริง สั่งชดใช้เงินส่วนต่าง"

รายละเอียดข่าว มีดังนี้....
กระทรวงการคลัง โดย "กรมบัญชีกลาง" มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค 04156/ลต 021 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2564

เรื่อง แจ้งผลพิจารณาความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่

ถึง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

โดยอ้างถึง

1.หนังสือองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ลับมากที่ ปท 51001/005 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2561

2.หนังสือองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ลับ ที่ ปท 51001/038 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2564

ตามหนังสือที่อ้างถึง 1-2 แจ้งผลการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด แก่ นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

นายสาคร อำภิน อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

นายสานิต ขันอาสา อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นต้น

นายเดชา พวงงาม อดีตรองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี รักษาราชการแทนปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

นางลำไย พรประดับ อดีตรองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ

นางสาวโสพนา ภักดิ์ประไพ อดีตผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สิน

 กรณี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสำนักงานตรวจสอบพิเศษภาค 3 (จังหวัดนครปฐม) ได้ตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

ระหว่างปีงบประมาณ 2555-2556 จำนวน 12 สัญญา รวมเครื่องออกกำลังกาย 151 ชุด คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 74,118,500 บาท

เปรียบเทียบกับเครื่องออกกำลังกายที่ได้จากการสืบราคา คิดเป็นจำนวนเงิน 29,544,487.68 บาท

พบว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยงานการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง

เป็นเหตุให้จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสูงกว่าราคาท้องตลาด เป็นจำนวนเงิน 44,574,012.14 บาท

ทำให้ทางราชการต้องทำสัญญาซื้อสูงกว่าที่ควรจะเป็น พฤติกรรมนี้ ถือว่าบุคคลทั้ง 6 ที่กล่าวมาข้างต้น ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างรุนแรง

ร่วมกันทุจริต

เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้รับความเสียหาย ต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น

จึงให้บุคคลทั้ง 6 รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 15 ของความเสียหาย คืนกรมบัญชีกลาง กองละเมิดและแพ่ง กลุ่มงานละเมิดและแพ่ง 5 กระทรวงการคลังต่อไป

.........................

ยุ่งละซี ทีนี้

เมื่อคนที่ถูกฟ้องในคดีทุจริตมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. แม้ถือว่า "ยังเป็นผู้บริสุทธิ์" ตราบที่ศาลยังไม่มีคำตัดสินไปทางใด-ทางหนึ่ง

แต่ "พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. ๒๕๖๑" มาตรา ๙๓ บอกว่า

"เมื่ออัยการสูงสุดได้รับสำนวนคดีอาญาตามมาตรา ๙๑ ให้อัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ได้รับสำนวน

ให้นำความในมาตรา ๗๗ มาตรา ๗๘ มาตรา ๘๐ มาตรา ๘๑ มาตรา ๘๒ มาตรา ๘๓ มาตรา ๘๔ มาตรา ๘๕ และมาตรา ๘๖ มาใช้บังคับกับการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยโดยอนุโลม"

ไปดู มาตรา ๘๑ ได้บอกไว้ว่า.....

ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับฟ้องตามมาตรา ๗๗

ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ฯลฯ......

ก็หมายความว่า "นายชาญ พวงเพ็ชร์" หรือ "ลุงชาญใจดี" ที่ชนะเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗

ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ปทุมธานีได้          เพราะถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เรื่องทุจริตถุงยังชีพ

และ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อ "ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ" ภาค ๑ และศาลรับฟ้องไว้แล้ว นัดไต่สวนสืบคดีช่วงกลางเดือนกรกฎา.นี้ 

ยุ่งตายห่ะ...ละทีนี้

บิ๊กแจ๊ส ที่แพ้ ก็ลาออกจากนายก อบจ.ปทุมธานีไปแล้ว นายชาญ ที่ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.ปทุมธานีคนใหม่ ก็ต้องถูก "ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่"

"สำนักข่าวอิศรา" เผยแพร่ข่าวเมื่อวาน (๑ ก.ค.๖๗) มีรายงานข่าวจาก "กระทรวงมหาดไทย" ล่าสุดไว้ว่า

"อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น" (สถ.) ทำหนังสือชี้แจงต่อ "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย"

กรณีการเข้าสมัครเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี และการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของ "นายชาญ พวงเพ็ชร์" หลังการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เป็นทางการแล้ว

โดยประเด็นแรก....

กรณี "นายชาญ พวงเพ็ชร์" ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริต ศาลฯ ประทับรับฟังแล้ว ทำไมยังสมัครเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี?

สถ.ระบุว่า....

การที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ถูกศาลอาญาฯ ประทับฟ้อง โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฯ คดีจึงยังไม่ถึงที่สุด

และไม่ได้ถูกคุมขังโดยหมายศาล อีกทั้งไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง

ดังนั้น นายชาญจึงยังไม่มีลักษณะต้องห้าม สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี ฯลฯ....     

ส่วนประเด็นที่สอง

ทำไม "นายชาญ พวงเพ็ชร์" ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ "นายก อบจ.ปทุมธานี" แม้ต่างกรรม-ต่างวาระ?

สถ.ระบุว่า ....

การที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้ทำความผิดเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ในวาระก่อน

และศาลอาญาฯ ได้ประทับฟ้องนายชาญ เมื่อพ้นจากตำแหน่งไปแล้วก็ตาม แม้ต่อมา เมื่อนายชาญได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบจ. ปทุมธานี ในอีกวาระหนึ่ง

นายชาญก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ม.81 และ ม.93

เทียบเคียงความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1486/2565

สรุป.........

"แจ๊ส มีวันนี้เพราะพี่ให้" แพ้ แต่ชนะ

"ลุงชาญใจดี" ชนะ แต่แพ้

ทักษิณ ชนะแล้ว ชนะอยู่ ชนะต่อ

ประชาชน สะใจจริงโว้ย!.

-เปลว สีเงิน

๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗

คนปลายซอย