
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา...องค์กรระดับโลกรายหนึ่ง ที่เรียกชื่อย่อๆ ว่า GRPS (The Global Risk Perception Survey) เขาได้ไประดมเอาบรรดา ผู้เชี่ยวชาญ ทั่วทั้งโลกจำนวน 900 ราย มาพูดคุย แลกเปลี่ยน แสดงความคิด ความเห็น จนเกิดการตกผลึก หรือจนกลายเป็นเอกสารรายงานที่เรียกๆ กันว่า The Global Risk Report 2025 อันถือเป็นข้อสรุปและการประเมิน ความเสี่ยง ของฉากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าด้านภูมิรัฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ตลอดจนสังคมและเทคโนโลยี ฯลฯ ว่าอะไรจะนำมาซึ่งอัตราเสี่ยง หรือก่อให้เกิด ความไร้เสถียรภาพ ต่อโลกทั้งโลก มาก-น้อย ไปกว่ากัน...
โดยสิ่งที่น่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อย...ก็คือความเสี่ยงอันเนื่องมาจาก ความรุนแรงแห่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เคยมาแรง แซงโค้ง มาโดยตลอด นับจาก ภาวะโลกร้อน ได้กลายเป็นที่รู้จัก เป็นที่ถูกพูดถึง เอ่ยถึง อันทำให้โลกทั้งโลกต้องหันมารวมหัว ร่วมไม้ ร่วมมือ สร้างข้อตกลงเพื่อบรรลุเป้าหมายในการขจัด หรือบรรเทา เบาบาง ภาวะดังกล่าวมานับเป็นทศวรรษๆ จนกลายเป็น ความเสี่ยงอันดับ 1 ชนิดถือเป็น วาระเร่งด่วนของโลก เอาเลยถึงขั้นนั้น แต่มาบัดนี้...สิ่งเหล่านี้กลับเป็นแค่ความเสี่ยงอันดับ 2 เท่านั้น แม้ว่าในระยะยาวอาจหนีไม่พ้นต้องพุ่งแซงหน้าความเสี่ยงในเรื่องอื่นๆ ก็ตาม...
เพราะด้วยความเสี่ยงอันเนื่องมาจาก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ของโลกทั้งโลกช่วงระยะนี้ กลับแซงหน้าขึ้นไปเป็น ความเสี่ยงอันดับ 1 กันแทนที่ โดยข้อสรุปจากเอกสารรายงานที่เรียกว่า Global Risk Report-2025 ที่ว่านี้ ซึ่งอาจถือเป็นภาพสะท้อนและเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเป็นไปของโลกในระยะสั้นๆ ว่าโอกาสที่บรรดาประเทศต่างๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ รวยหรือจน พัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา ซึ่งมีที่ตั้งอยู่บนสภาพภูมิรัฐศาสตร์ผิดแผก แตกต่าง กันไปในแต่ละซีกโลกนั้น ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องตกอยู่ใน ความเสี่ยง ดังกล่าว อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้เลย!!!
นี่...อันนี้นี่แหละที่ทำให้ประเทศซึ่งเคยได้ชื่อว่า รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี มาโดยตลอด อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ที่เคยสร้างความตกตะลึง ตาค้าง ให้ใครต่อใครทั่วทั้งโลก เมื่อครั้งประเทศญี่ปุ่นยุ่นปี่ ดันเป็น ฝ่ายแพ้ ในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่พันธมิตรร่วมวงศ์ไพบูลย์เอเชียกับญี่ปุ่น อย่างไทยแลนด์สู้ๆ-ไทยแลนด์สู้ตายของหมู่เฮาทั้งหลาย กลับไม่ได้แพ้ซะเฉยเลย!!! สามารถหลบรอดปากเหยี่ยว ปากกา หมาป่า พญาอินทรี มาได้อย่าง ไม่น่าเชื่อ-แต่ก็คงต้องเชื่อ จนได้ อาจด้วยเหตุเพราะช่วงระยะนั้น บ้านเรายังมีบุคคลสำคัญๆ อย่างระดับรัฐบุรุษ ท่านปรีดี พนมยงค์ มือวางด้านการต่างประเทศ อย่าง หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ นายดิเรก ชัยนาม ไปจนถึง อาจารย์กนต์ธีร์ ศุภมงคล ที่ทั้งเชี่ยวกราก เชี่ยวชาญ ทั้งซื่อสัตย์ สุจริต ยึดมั่นใน ผลประโยชน์แห่งชาติ เป็นสำคัญ...
แต่มาคราวนี้...ด้วยฉากสถานการณ์ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ดังที่องค์กร GRPS ประเมินไว้ ดูเหมือนว่า...อะไรต่อมิอะไรมันชักจะ เล่นยาก ยิ่งเข้าไปทุกที เพราะแค่เริ่มต้นด้วย สงครามทางการค้า ของผู้นำอเมริกาอย่าง ทรัมป์บ้า เท่านั้น ก็ทำให้ประเทศหญ้าแพรกอย่างประเทศไทย ที่พอจะอยู่รอดด้วยการ ส่งออกสินค้า ไปยังตลาดอเมริกาและตลาดจีนเป็นหลัก หนีไม่พ้นต้องหันรี-หันขวาง ไม่รู้ว่าจะหันไป Kiss-Ass ทรัมป์บ้า หรือจะหันไป จิ้มก้อง กับคุณพี่จีนกันดี โดยเฉพาะเมื่อที่ตั้งทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศไทย ออกจะเอื้ออำนวยให้กับ ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ของคุณพ่ออเมริกาเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่คุณพี่จีนท่านก็ได้ป่าวประกาศไว้แล้วล่วงหน้า ว่าชาติใดที่อยากรักษาผลประโยชน์ที่ได้รับจากอเมริกา ด้วยการสร้างความเสียหายให้กับประเทศจีน ย่อมต้องถูก ตะลุ้งตุ๊งแฉ่ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย...
เมื่อต้องเจอกับการแบ่งขั้ว-แบ่งค่าย จนแทบไม่เหลือ พื้นที่เป็นกลาง ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว โอกาสที่ประเทศไทยแลนด์ของหมู่เฮาจะ ลู่ไป-ลู่มา แบบชนิด ญี่ปุ่นแพ้...แต่ไทยไม่แพ้ มันน่าจะลำบากยิ่งกว่าเมื่อครั้งอดีตไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า และนั่นก็คือ โจทย์ใหญ่ ที่บรรดาปวงชนชาวไทยทั้งหลาย จะต้องหา คำตอบ ที่ชัดเจนออกมาให้จงได้ ก่อนที่บรรดา ความเสี่ยง ทั้งหลาย มันจะลุกลาม บานปลาย จนอาจถึงขั้นฉีกประเทศไทยออกเป็นชิ้นๆ เอาเลยก็ไม่แน่!!! แต่ก็อย่างว่า...ในเมื่อแค่โจทย์เล็ก โจทย์น้อย โจทย์ง่ายๆ ที่เด็กอนุบาล ป.1-ป.2 น่าจะตอบได้ไม่ยาก ไม่ว่าประเภทเอากาสิโน-ไม่เอากาสิโน นักโทษชั้น 14 เคยติดคุก-ไม่ติดคุก หรือระหว่างคุณหลาน อุ๊งอิ๊ง กับ บิดาบังเกิดเกล้า ใครเป็นนายกฯ ประเทศไทยกันแน่??? ฯลฯลฯ ก็ล้วนแล้วแต่ต้อง แบ๊ะ-แบ๊ะ-แบ๊ะ ไปด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้...ภายใต้ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้กลายมาเป็น ความเสี่ยงอันดับ 1 ของโลก การปล่อยให้พวก มือใหม่-หัดขับ หรือ มือเก่าแต่เขี้ยวงอก ค้นหาคำตอบโดยลำพัง จึงยิ่งมีแต่จะ เสี่ยง...กับ...เสี่ยง ยิ่งขึ้นไปเท่านั้นเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แบกกันเข้าไป...แบกให้รอดนะ
บรรดาข้าทาสบริวารขออง สทร.ที่ทำหน้าที่เป็นนายแบก นางแบกทั้งหลาย ต่างพากันออกมายืนยันว่า สทร.ป่วย แล้วก็ต่อว่าต่อขานผู้คนที่เขาเห็นด้วยกับการแถลงของแพทยสภาว่า
ว่าด้วยคำชี้แนะของ‘อดีตนายกฯอานันท์’
ฟังจากที่ลูกสาวคุณพี่ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ไปคุยกับท่านอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน แล้วได้นำเอาคำชี้แนะ ชี้นำ ของท่านอดีตนายกฯ ต่อบรรดา คนรุ่นใหม่ ทั้งหลาย
S26T ดำไปโผล่เขมร?
แม้จะเหลืออีกถึงกว่า 3 เดือน ตามกฎ ตามระเบียบการแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี ที่กำหนดให้การแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หรือเทียบเท่า
คาดผลตรีเทพย้ายราศีต่อคนลัคนาสถิตมีน
เดือนพฤษภาคมปี 2568 นี้ ดาวสำคัญทางโหรที่เรียกกันว่า ตรีเทพ อันได้แก่ พระราหูจร (8) เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา-ความมืด-อวิชชา หรือตัวแสบ-พระพฤหัสบดีจร (5) เจ้าแห่งปัญญาพิสุทธิ์ หรือหัวหน้า
เหตุปัจจัย...คนสงสัยว่าป่วยทิพย์
ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากไม่เชื่อว่าคุณพ่อป่วยจริง แต่น่าจะป่วยทิพย์มากกว่า การอ้างว่าการอยู่ที่ห้อง VVIP ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจถือว่าเป็นการติดคุก 180 วัน ครบที่จะได้รับการพักโทษนอกเรือนจำ ประชาชนส่วนมากก็ไม่เห็นด้วย และคิดว่าคุณพ่อยังไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว
เครือข่ายป้องกันตนเอง!!!
ไม่ว่า บ้านเรา ...หรือ โลก ดูๆ มันชักจะยุ่งๆ ยิ่งกว่าหนวดแขกพันกับฝอยขัดหม้อยิ่งเข้าไปทุกที แถมอาจไม่ใช่ยุ่งแต่เฉพาะเรื่องกฎ กติกา ระบบ ระเบียบ