นายกฯ ‘ต้องลาออก’

รัฐธรรมนูญ มาตรา ๕๒ บอกไว้ว่า...........

“รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย

เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐและความสงบเรียบร้อยของประชาชน

เพื่อประโยชน์แห่งการนี้ รัฐต้องจัดให้มีการทหาร การทูต และการข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ

กำลังทหารให้ใช้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศด้วย”

แล้วดูซิ เมื่อวันที่ ๑๕ มิ.ย.ที่ผ่านมา.....

 เธอพูดอะไรกับฮุน เซน ไว้บ้าง?

ฮุน เซน เขาอัดไว้ แล้วปล่อยออกมาประจานเมื่อวาน ผมถอดความออกมาให้อ่านแล้วนี่ไง  เป็นการสนทนาผ่านล่ามชื่อ “พี่ฮวด” ดังนี้

..............................................

อุ๊งอิ๊ง: เอ้อ...เป็นยังไงบ้าง สุขภาพดีหรือเปล่า?

ฮุน เซน: สุขภาพแข็งแรงดี

อุ๊งอิ๊ง: โอเคค่ะ วันนี้ ได้คุยกับพี่อ้วน  (ภูมิธรรม-เปลว) เรื่องชายแดน ก็เข้าใจตรงกันว่าทั้งท่านฮุน เซน และอุ๊งอิ๊งอยากให้ทั้งสองประเทศสงบสุขค่ะ

ไม่อยากให้อังเคิลไปฟัง เอ้อ...คนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะว่าไปฟังฝั่งตรงข้ามกับเราอย่างแม่ทัพภาค ๒ นี่ค่ะ (พล.ท.บุญสิน พาดกลาง-เปลว) เป็นคนฝั่งตรงข้ามกับเราหมดเลย

ซึ่งพอไปฟังอย่างนั้นเสร็จอะ ก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่ชอบใจหรือโกรธ ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ

เพราะตอนเนี้ย ทางนั้น ทำอะไรออกมาก็อยากดูเท่ เขาก็จะพูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติค่ะ       

แต่ว่าที่จริง ที่เราต้องการคือความสงบสุขเหมือนตอนก่อนที่จะปะทะกันตรงชายแดนนั่นค่ะ

ให้ท่านฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย ตอนเนี้ย คนในประเทศไทยเขาไล่เราไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว

เอ้อ...จริงๆ แล้ว ถ้าท่านอยากได้อะไร ก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ จะจัดการให้

ฮุน เซน: ขั้นตอนที่ ๑ อยากให้เปิดชายแดน เปิดปกติเหมือนตอนก่อนเกิดเหตุ

อุ๊งอิ๊ง: โอเคค่ะ ตรงกัน

ฮุน เซน: จริงๆ เหตุการณ์ที่ชายแดนเนี้ย ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ฉะนั้น ทางฝั่งไทยเนี่ย ถอนคำสั่ง กัมพูชาก็ตามเลย เปิดปกติ เพราะว่าเราก็มีความคิดหลังเรื่องนึงนะที่มีปัญหากันที่ช่องบก

เราก็พยายามตามที่ฝ่ายไทยต้องการ เราก็บอกว่า โอเคนะ ทำตาม แต่ขอให้สถานการณ์เข้าภาวะตามปกติ

แต่ว่าเราถอนแล้ว ปรับกำลังแล้ว ฝั่งไทยยังเอาเรื่องด่านมากดดันอีก ฉะนั้น อยากให้ทางฝั่งไทยถอนการปิดด่าน

ทางฝั่งกัมพูชาก็จะถอนเรื่องการห้ามสินค้าเกษตร ห้ามอะไรทุกอย่างก็ถอนหมด

อุ๊งอิ๊ง: คือตอนนี้อ่า...พี่ฮวด ทางรัฐบาลโดนโจมตีหนักมาก เพราะตอนที่ท่านสมเด็จและพี่ฮุน มาเนต ออกมาบอกว่าจะตัดน้ำ ตัดไฟอะไรนี่ค่ะ  จริงๆ แล้วเขาเพียงรายงานตามขั้นตอนว่า ถ้ามีเหตุการณ์ต่อไปประเทศไทยจะทำยังไงๆ

 คือเขาอธิบายขั้นตอนให้ฟัง ไม่ได้บอกว่าจะทำ จริงๆ แล้วถ้าจะให้มันโอเคทั้งสองฝ่าย เหมือนเราต้องพูดพร้อมกันว่า เราตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้ว ว่าจะเปิดทุกอย่างให้กลับเป็นปกติ

เหมือนกับว่าอุ๊งอิ๊งกับพี่ฮุน มาเนต ก็ได้คุยร่วมกันแล้ว ก็ทั้งสองฝ่ายอยากให้เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติ แบบเนี้ย

ล่าม: น้องอุ๊งอิ๊งอยากให้ท่านนายกฯ โพสต์ใช่มั้ย?

อุ๊งอิ๊ง: ใช่ ท่านฮุน เซน ก็ได้ แต่ว่าเหมือนตกลงร่วมกัน เพราะว่าตอนนี้อุ๊งอิ๊งโดนหนักมากเลย

ล่าม: จริงๆ เนี่ย ท่านเป็นคนที่อยากได้เสถียรภาพมาก แต่ว่าทหารมาปิดด่านก่อน กดดันก่อน ฉะนั้น ต้องเคลียร์ทหารให้พร้อมมั้ยก่อนจะเปิดด่าน?

อุ๊งอิ๊ง: พร้อมค่ะ

ล่าม: ทางนี้ตามหมดเลย

อุ๊งอิ๊ง: พร้อมค่ะ ทางนี้เปิดให้อยู่แล้วค่ะพี่ฮวด แต่ว่ามันต้องบอกว่าเป็นการตกลงร่วมกัน เพราะไม่อย่างนั้น อิ๊งน่ะ โอ๊ย..ยอม..ยอม..คืออิ๊งก็จะโดนว่า

ล่าม: อย่างนี้ อ้า....ท่านนายกฯ อิ๊งว่า ท่านไม่อยากว่า เอ้อ...ไม่อยากให้มีการเจรจา เพราะว่าไอ้ปิดด่านทหารมันเริ่มก่อน มันหลอกเราให้ปรับกำลัง ปรับกำลังแล้วบอกว่าสถานการณ์ต้องเข้าปกติ.....

................................

ทหาร-พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ ๒ ที่ปกป้องอธิปไตยดินแดนไทยนี่น่ะหรือ เป็น “ฝ่ายตรงข้ามกับเรา” ของอุ๊งอิ๊ง?

“เรา” ในที่นี้คือ ฮุน เซน กับอุ๊งอิ๊ง

อย่างนั้นแล้ว อุ๊งอิ๊งเป็นใคร ....?

เป็นนายกฯ ผู้นำบริหารประเทศไทยหรือเป็น “ไส้ศึก” ให้เขมรเพราะเห็นเรียกฮุน เซน ว่า "อังเคิล”

และบอกฮุน เซน ว่า “พล.ท.บุญสิน” เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา  ที่รักษาอธิปไตยนั้น เพราะอยากเท่

มันเข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๕๒ ลักษณะฝักใฝ่เป็นไส้ศึกให้ต่างชาติ แล้วจะไว้ใจให้คนมีพฤติกรรมเช่นนี้เป็นผู้นำบริหารประเทศได้อย่างไร?

นี่ไม่ใช่พูดการเมืองหรือพูดเอาเท่ แต่เป็นเรื่องจริงจัง เพราะอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ สมควรเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญด่วน

ให้สมาชิกรัฐสภาโหวต “ขับ” นางสาวแพทองธารให้พ้นสภาพนายกฯ

ถ้าสมาชิกรัฐสภาไม่ทำหน้าที่ ก็เป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยต้องออกมาร่วมกันขับไล่ เพื่อป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๕๐

นี่ถ้า “ขิงแก่” อย่าง “ฮุน เซน” ปล่อยคลิปล่วงหน้า แล้วไม่โพสต์สำทับตามหลังว่า เป็นคลิปที่เขาอัดเอง-ปล่อยออกมาเองละก็

“นายภูมิธรรม” คงปฏิเสธว่าเป็น AI ไปจนปากเน่าตาย

แต่เมื่อเจอโพสต์ฮุน เซน ตลบหลัง ก็เลยหงายท้อง ทั้งพี่อ้วน ทั้งน้องอุ๊งอิ๊ง เพราะ “จนมุมต่อหลักฐาน”

ถ้าฮุน เซน ไม่สารพัดพิษ ก็ไม่เป็นนายกฯ  ยาวนานได้เกือบ ๔๐ ปีหรอก ระดับภูมิธรรม-อุ๊งอิ๊ง แค่ระดับกระพรวนเท้า ก็เลยต้องยืนตาย เพราะถูกฮุน เซน คายตะขาบใส่

ไม่เชื่อก็ดูลีลาฮุน เซน จับนายกฯ “แก้ผ้ากลางตลาด” ดูบ้าง ว่าร้ายกาจสารพัดพิษขนาดไหน?

..........................

“ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทย โดยใช้เวลาทั้งสิ้น ๑๗ นาที ๖ วินาที

ซึ่งมีคุณเคลียง ฮวด ทำหน้าที่ล่ามตามปกติ และเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด หรือการบิดเบือนในเรื่องทางการ

การบันทึกเสียงสนทนาไว้ถือเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อการใช้งานภายในของกัมพูชา

หลังจากนั้น ผมได้เผยแพร่ไฟล์เสียงบทสนทนาระหว่างผมกับนายกรัฐมนตรีไทยให้แก่บุคคลราว ๘๐ คน

ซึ่งรวมถึงสมาชิกคณะกรรมการประจำพรรค กลุ่มทำงานวุฒิสภา ทีมสภาแห่งชาติ หน่วยงานด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเผยแพร่ กลุ่มงานด้านชายแดน และสมาชิกของกองทัพ

 ในกลุ่มบุคคลเหล่านี้ อาจมีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีของไทย

ไม่กี่ชั่วโมงหลังบทสนทนา นายกรัฐมนตรีไทยได้ออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาว่าทำการเมืองอย่าง “ไม่เป็นมืออาชีพ”

และดำเนินกิจกรรมทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับคำพูดของตนเอง

สำหรับประเด็นไฟล์เสียงที่หลุดออกมา ผมสังเกตว่าในขณะนี้มีการเผยแพร่สู่สาธารณะเพียงประมาณ ๙ นาทีเท่านั้น

ดังนั้น หากฝ่ายไทยต้องการไฟล์เสียงฉบับเต็ม

ผมพร้อมที่จะเผยแพร่บทสนทนาทั้งหมดความยาว ๑๗ นาที ๖ วินาทีอย่างครบถ้วน"

..........................................

เรียกว่าอังเคิลหรืออาฮุน เซน “ฆ่าหลานอิ๊ง”  ประจานกลางเมือง ชนิดคว่ำขัน-คว่ำกะลาไม่ไว้หน้าพ่อ ซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยช่วยเหลือตอนเผาบ้าน-เผาเมืองเลย

เป็นรัฐบาลสั่งทหารไม่ได้ ปล่อยให้ปิดด่านเป็นการ “ทุบหม้อข้าว” ทำเอาลูกค้าบ่อนหายหมด อย่างนี้...อาโกรธม้ากกกก!

นี่แหละที่เขาว่า เมื่อถึงเวลา....

ใครก็ไม่ต้องไปทำอะไร บรรลัยต่อบรรลัย จะทำลายหักล้างจนบรรลัยไปด้วยกันเอง!

ตอนบ่ายวาน คลิปเวอร์ชันเต็ม ๑๗ นาที ๖ วินาที สนทนา “อา-หลาน” ก็พรึ่บตลาดออนไลน์ ฟังกันหูแฉะ

เมื่อหนีไม่ออก อุ๊งอิ๊งก็จำต้องแอ่นอกสู้ แถลงยอมรับว่า คลิปนั้นเป็น “คลิปจริง” คุยกัน เมื่อวันที่ ๑๕ มิ.ย.

“โดยดิฉันทราบข้อมูลจากผู้ที่เป็นล่ามในคลิปว่าสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ ๒

ระหว่างการพูด ดิฉันจึงบอกว่า การพูดของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค ๒ ในขณะที่ไทยกับกัมพูชาตอนนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามกัน

ปะทะกันก็ต้องพูดเช่นนั้น แม่ทัพภาค ๒ ก็ต้องพูดเช่นนั้น อย่าไปถือสา อย่าไปคิดเลย

ดิฉันพยายามเข้าใจว่า เมื่อสมเด็จฮุน เซน  โกรธเรื่องนี้ ก็เป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์ คุยโทรศัพท์แบบส่วนตัว มันก็ไม่ควรจะนำมาเปิดเผย”

อ้อ...“เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา” นี่เป็นเทคนิคการพูดหลังไมค์เนาะ!

แต่มันฟังไม่ขึ้นหรอก นายกฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบ มันไม่ใช่เทคหนก-เทคนิคหรอก  มันเป็นความด้อยวุฒิภาวะอย่างหนึ่ง และอีกอย่าง

“ทั้งพ่อ-ทั้งลูก” ตัวไทย-ใจเขมร เขารู้กันทั้งโลกนานแล้ว!

ไม่ได้หรอก จะปล่อยให้ “ตัวไทย-ใจเขมร”  เอาประเทศไปทำการเมืองหลังไมค์ โดยมีผลประโยชน์ตระกูลซ่อนเร้นไม่ได้หรอก

ปรับ ครม.น่ะ ปรับเพื่ออะไร?

เพื่อคนตัวเองจะไปนั่งมหาดไทย แก้กฎหมายทำบ่อน-ทำพนันออนไลน์ และเป็นบอร์ดคุมกาสิโนเบ็ดเสร็จ!

ไม่ต้องปรับหรอก รัฐบาลนี้มันเจ๊งแล้ว หมดความชอบธรรมและความไว้วางใจจากประชาชนที่จะให้อยู่บริหารประเทศแล้ว

“อุ๊งอิ๊ง” ต้องลาออกไปสถานเดียว!

แล้วทั้ง ๑๖ พรรคการเมือง “จับขั้ว” จัดตั้งรัฐบาลใหม่

รัฐบาลที่ต้อง “ไม่พูด-ไม่ทำ” ทั้งหน้าไมค์-หลังไมค์ว่า “ทหารหรือกองทัพเป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา”

ต้องรัฐบาลประชาชน, รัฐสภาประชาชน  และกองทัพประชาชน

“เพื่อชาติ-ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์” ครับ!

-เปลว สีเงิน

๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๘

คนปลายซอย