วัน(แก้ไข)รัฐธรรมนูญ

10 ธันวาคมของทุกปี เรารับรู้กันว่าเป็น "วันรัฐธรรมนูญ" เพราะเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 คือวันที่ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม 2475-รัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของไทย ให้แก่ประชาชนชาวไทยโดยเป็นทางการ

วันรัฐธรรมนูญจึงถูกกำหนดเพื่อให้เป็นวันที่ระลึกถึง “กติกาสูงสุด” ของชาติ-กฎหมายแม่บทที่ควรคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของประชาชน และกำหนดโครงสร้างการปกครองของประเทศอย่างเป็นระบบ

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ อดสงสัยไม่ได้จริงๆ ว่า รัฐธรรมนูญบ้านเรานั้น…จะถูกแก้กันไปถึงไหน

วันนี้พรุ่งนี้ ในสภาก็จะอภิปราย ถกกันในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกแล้ว ทำให้รู้สึกสะท้อนใจกับภาพเดิมซ้ำๆ ว่า แก้กันบ่อยๆ นี่ ใช่เพื่อประชาชน หรือเพื่อการต่อรองอำนาจของตัวเองมากกว่า

มนุษย์ป้ารู้สึกมานานแล้วว่า รัฐธรรมนูญหาใช่กติกากลางของคนทั้งชาติ แต่มันถูกยึดเป็นทรัพย์สินของนักการเมืองบางกลุ่มที่เปิดปิด ปรับแต่ง ตามความสะดวกของตัวเอง ประชาชนมีสิทธิแค่เฝ้าดูอยู่หลังรั้ว รอฟังว่าเวอร์ชันใหม่จะกระทบสิทธิของเราอีกหรือไม่

คำถามว่า “จะแก้กันไปถึงไหน” จึงไม่ใช่แค่ความหงุดหงิด แต่มันคือความเหนื่อยล้าที่สะสมมานาน ทำไมกติกาที่ควรมั่นคงถึงไม่เคยหยุดสั่น ทำไมหลักประชาธิปไตยถึงต้องเปลี่ยนตามฤดูกาลทางการเมือง

ตราบใดที่การเมืองยังยึดประโยชน์ตัวเองเป็นศูนย์กลาง เราก็อาจต้องทนเห็นรัฐธรรมนูญถูกแก้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ใช่เพื่อให้ประเทศดีขึ้น แต่เพื่อให้เก้าอี้บางตัวมั่นคงขึ้นเท่านั้น

ขยันแก้กันเสียจริงหนอ!!.

'ป้าเอง'

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขอบ่น..ด้วยคน

ค่าฝุ่น PM 2.5 ช่วงนี้อาละวาดจนไม่รู้จะบ่นกับใครแล้ว นี่มนุษย์ป้าเขียนงานไปก็จามไป จมูกฟุดฟิดหงุดหงิดแดงเป็นโบโซ่เลยทีเดียว

ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!

ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า

“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่

ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย

ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป

เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ

เรื่องของ..มิวเซียม

เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง