ความเคลื่อนไหวตลาดการเมืองเรื่องการย้ายพรรค-หาพรรคสังกัด ในช่วงนับถอยหลังเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง เป็นไปอย่างคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.

ระหว่าง “ไทยกับจีน” ๑ เคลื่อนไหว บ่งบอก ๑ ล้านความหมาย มิตรภาพระหว่างกันผูกพันควั่นเกลียวดั่งสายน้ำ แม้เชี่ยวขนาดไหน ก็ยากที่ใครจะตัดขาด

เริ่มสนุกแล้วครับ… เปิดซักฟอกเมื่อไหร่ยุบสภาทันที! “…ผมยืนยันตลอดไม่เคยเปลี่ยน มีคนเยอะแยะมาบอกว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนั้นอย่างนี้ เอาเป็นข้ออ้างได้

“ถึงพี่หนู…. โดยส่วนตัวแล้วผมชอบพี่นะ พี่และครอบครัวตัวจริงโคตรน่ารักเลย….แต่ตอนนี้ผมเข้าใจนะว่าพี่กำลังทำงานเพื่อประเทศชาติอยู่หนักมาก

ในพื้นที่ภาคใต้ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของแม่ทัพอย่าง “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เห็นเป็นคนเงียบๆ แต่เล่นเกมการเมืองแบบ “ใจใหญ่-ใจกว้าง-ใจถึง” ทั้งประชาชนและนักการเมืองต้องยอมรับว่า “พรรคนี้พูดแล้วทำ”

สถานการณ์เลือดไหลออกจาก “พรรคประชาธิปัตย์” ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง อย่างสัปดาห์นี้ มติคณะรัฐมนตรี ที่ตั้ง นางสาวรัชดา ธนาดิเรก อดีตรองโฆษกรัฐบาลสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

“ฮุน เซน” นี่…. สมกับที่เป็นเขมรต่ำ สืบสายเลือดบรรพบุรุษมาจากสัตว์ “ลิ้น ๒ แฉก”!

มาแล้วครับแคมเปญหาเสียงพรรคเพื่อไทย “สร้างโอกาส ล้างหนี้ มีกิน”
ในโซเชียลเขาแซวกันใหญ่

“ต้องบอกตัวเอง.. เวลาแฟนคลับโยนดอกไม้ หรือก้อนหินเข้ามา เราก็ต้องตั้งสติ และพิจารณาตัวเอง เราต้องไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว

ใครบอกว่าสภาไทยน่าเบื่อ ลองดูเหตุการณ์วันที่ 30 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภากลายเป็นเวทีคอมเมดี้โดยไม่ตั้งใจ ก็ รมช.สาธารณสุข “วรโชติ สุคนธ์ขจร” หรือ “ทาโร่” แห่งพรรคพลังประชารัฐ