บริบทการเมืองซับซ้อน 'อุ๊งอิ๊ง' เป้าหลอก หรือเป้าจริง?

ไม่รู้ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ต.ค. เป็นวันแห่งฤกษ์งามยามดีทางการเมืองอะไรหรือไม่ 2 พรรคการเมืองใหญ่ต่างขยับทำกิจกรรมการเมือง ส่งสัญญาณนัยการเมืองที่สำคัญ พลังประชารัฐ ว่ากันด้วยเรื่องลูกน้อง ลูกไล่ แต่แกนนำบางคนให้ความเอ็นดู ไม่ต่างอะไรจากลูกรัก ขณะที่เพื่อไทยก็มีการเปลี่ยนแปลงกับการเข้ามาของลูกรักของพ่อ

พรรคพลังประชารัฐ ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หวังที่จะเขี่ย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้พ้นจากเลขาธิการพรรค ทั้งที่รัฐมนตรี แกนนำ กรรมการบริหารพรรคในสาย บิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินเกมกดดัน หวังจะใช้แนวทางให้กรรมการบริหารพรรคสายประยุทธ์ลาออก เสียงก็ดันไม่ถึง ประกอบกับ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ไม่รู้ต้องมนต์อะไร ดึงดันโดดขวาง ในที่สุดก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 

พรรคเพื่อไทย ยกพลไปประชุมที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พ.ศ.2564 ภายใต้ธีมงาน 'พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน' มีการปรับโทนสีโลโก้ ตัวอักษรพรรค ใช้สีขาว พื้นหลังแดงล้วน ก็ถูกตีความไปต่างๆ นานา ไฮไลต์สำคัญ 'สมพงษ์ อมรวิวัฒน์' ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค ทำให้กรรมการบริหารพรรคชุดเดิมสิ้นสภาพ ต้องเลือกกันเข้ามาใหม่ ได้ 'นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว' ส.ส.น่าน ที่มีบทบาทโดดเด่นในสภาฯ มีภาพลักษณ์ความเชื่อมโยงเข้าถึงคนรุ่นใหม่ เข้ามาทำหน้าที่พร้อมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 23 คน ที่เป็นส่วนผสม ส.ส.ผู้มีประสบการณ์การเมือง ส.ส.คนรุ่นใหม่ ทายาทนักการเมือง และกลุ่มคนสายวิชาการ จากที่ทำงานเบื้องหลังสลับมายืนด้านหน้า 

แม้งานบริหารพรรคเป็นเพียงงานธุรการ งานรูทีน แต่กลุ่มผู้มีอำนาจตัวจริงถูกจัดวางไปอยู่ในอีกกลุ่ม ที่ไม่เสี่ยงต่อการตัดสิทธิ์ทางการเมือง หากพรรคเพื่อไทยมีอันเป็นไป นอกจากนี้ในที่ประชุมเพื่อไทยรับทราบถึงการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ที่บุคคลส่วนใหญ่ล้วนเป็นกลุ่มสายตรงคนแดนไกล 

ไฮไลต์สำคัญในการประชุมใหญ่สามัญครั้งนี้คงหนีไม่พ้นการเปิดตัว 'อุ๊งอิ๊ง'-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็ก ทักษิณ ชินวัตร-พจมาน ณ ป้อมเพชร ในตำแหน่ง ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย หลังจากเปิดตัวเธอได้แสดงวิสัยทัศน์ทันที โดยมุ่งเน้นไปถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่หวังจะนำมาปรับใช้เชิงนโยบาย เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ เพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้เข้ากับกระแสของโลกในปัจจุบัน  

ขณะเดียวกัน ยังได้พูดถึงพ่อ-ทักษิณ ที่แฝงนัยสำคัญอย่างน่าสนใจ 

"......ดิฉันจะตั้งใจทำงานเต็มที่ในฐานะที่ปรึกษา แม้จะไม่ใช่นักการเมือง แต่ขอมุ่งมั่นทำงานด้วยความตั้งใจจริงในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ในฐานะลูกของคุณพ่อ ที่ไม่เคยลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมพี่น้องคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และคุณพ่อหวังว่าจะได้กลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง และกราบผู้มีพระคุณ” 

เธอยังตอบคำถามสื่อมวลชนว่า คิดอย่างไรถ้าเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธารตอบว่า 'วันนี้เพิ่งมาใหม่ตรงนี้ อย่างไรก็ขอกำลังใจด้วย ถ้าทำงานผิดพลาดตรงไหนอย่างไรก็ขอให้แนะนำกันด้วย คุณพ่อ คุณแม่ พี่ๆ สามี ลูก ให้กำลังใจเสมอ เราขอตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน อย่างอื่นก็รอไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาในอนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคตไป' 

หลังการเปิดตัว แพทองธารที่สลัดภาพจากนักธุรกิจก้าวเข้ามาในเวทีการเมืองและพูดจาประสาการเมืองเป็นครั้งแรก ทำให้ สปอตไลต์ ฉายส่องไปยังตัวเธอ-ทักษิณ-เพื่อไทยทันที ว่ากำลังคิดอ่านทางการเมืองประการใด  

สำหรับตัวเธอ แพทองธาร คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า หลังจากนี้คงจะเข้ามามีบทบาทในพรรคเพื่อไทยมากขึ้น และคงจะได้เห็นไอเดียด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่ ถูกปรับทั้งทางปฏิบัติในพรรค และต่อยอดเป็นนโยบายในอนาคตมากขึ้น เช่นเดียวกับการลงพื้นที่ที่จะมีการจัดวางให้ลงพื้นที่ในพื้นที่ปลอดภัย กลุ่มฐานเสียง งานทางสังคม ช่วยชาวบ้าน เชื่อว่าคงจะเห็นเธอปรากฏตัวในสื่อตามแต่ละสถานการณ์ 

พรรคเพื่อไทย จะถูกตั้งคำถามย้อนกลับไปอีกครั้ง หลังจากส่งคนสนิทคนใกล้ชิดเข้ามาควบคุมกลไกสำคัญในพรรค อาทิ บอร์ดใหญ่ในการประชุมควบคุมทิศทางพรรค ที่ถูกเปรียบเป็นคณะกรรมการโปลิตบูโร เต็มไปด้วยคนใกล้ชิดทักษิณ-พจมาน รวมทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองของพรรคเกินกว่าครึ่งล้วนเป็นบุคคลสายตรงแทบทั้งสิ้น ยังไม่นับรวมคนของคุณหญิง หรือแม้แต่กระแสข่าวลือ หากการประชุมนัดไหนสำคัญยิ่ง คุณหญิงพจมานโผล่มาร่วมประชุมด้วยตนเอง 

พท.-เพื่อไทย แท้จริงคือ เพื่อทักษิณ หรือ จมานทักษิณ หรือ แพทองธาร? และสโลแกน พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน ก็อาจต้องมองย้อนกลับมา พรุ่งนี้ตรงไหน? เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน หรือเพื่อชีวิตใหม่ของใครกันแน่? 

การมอบหมายลูกตัวเองเข้ามามีบทบาท ที่จะหวังดึงฐานเสียงคนรุ่นใหม่จากก้าวไกล ขณะเดียวกันเพื่อไทยยังก้าวไม่พ้นคนแดนไกลทักษิณ ที่ยังจัดการมอบอำนาจการจัดการไว้ที่คนที่ไว้วางใจ มากกว่าความสามารถ ยิ่งคนที่ตั้งใจจะเลือกยิ่งต้องคิดหนัก ทั้งพรรค ทั้งประเทศ ไม่มีใครมีความรู้ ความสามารถ ไปมากกว่าคนในครอบครัวชินวัตรแล้วใช่หรือไม่ 

ขณะที่ ทักษิณ แม้แนวความคิดเวลานี้จะยังเชื่อในปรากฏการณ์เปิดตัวแพทองธาร เท่ากับดันลูกสาวสู่สนามการเมือง วางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

แต่ในอีกมุมมองคนในพรรคเห็นว่า เป็นแค่การเปิดตัวชิมลาง หยั่งกระแสแพทองธาร ในพรรค นอกพรรค ฐานมวลชนทั้งที่สนับสนุนกลุ่มคนกลางๆ รวมไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ขานรับออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจาก Data นี้ ค่อยไปวางแผนคิดอ่านทางการเมืองอีกครั้ง 

ทักษิณบุคคลที่โตมาจากนักธุรกิจ หลายครั้งได้ประยุกต์ แผนการตลาด มาปรับใช้ในการเมือง ทักษิณย่อมรู้ดีว่าการส่งลูกสาวลงสนามการเมืองครั้งนี้ ด้วยบริบทสถานการณ์เปลี่ยนไป จะจัดวางตัวคน ยังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าเหมาะกับสถานการณ์แล้วจริงหรือ ในช่วงที่ตัวเขาพ้นอำนาจจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ถูกตั้งคำถามหนักถึงความจงรักภักดี ดัน สมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ สถานการณ์ในพรรคมีปัญหา เปลี่ยนม้ากลางศึก ต้องหาคนไว้วางใจ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถูกเลือกเข้ามาทำหน้าที่ 

หลังเหตุการณ์เสื้อแดง 2552-2553 กระแสตัวเขา ครอบครัวถูกเล่นงาน แม้จะผลักดัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ แต่ทว่าประวัติศาสตร์ไม่เคยโกหก เมื่อไปย้อนดูจุดจบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนใกล้ชิดของเขา จบไม่สวยสักราย เป้าทำลายล้าง เพื่อไทย-ชินวัตร ยังไม่เคยจางหายจากสมการการเมืองไทย 

ในการรายคลับเฮาส์ของกลุ่มแคร์ เมื่อ 26 ต.ค. มีคนเข้าไปถาม Tony Woodsome หรือ ทักษิณ ว่ามีโอกาสหรือไม่ที่คนในตระกูลชินวัตรจะอาสามาทำงานการเมืองเหมือนกับกรณีคุณยิ่งลักษณ์ โดยทักษิณได้ตอบกลับมาว่า 'อ่า เป็นคำถามที่ดีครับ แต่ไม่มีคำตอบครับ มัน มัน มัน ซับซ้อนครับ การเมืองไทย เอาเป็นว่า ถ้ามีอะไร ใครจะปรึกษา ให้ผมแนะนำอะไร การบริหารการติดต่อต่างประเทศยินดีครับ ไม่คิดสตางค์เลย...' 

อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ไม่ใช่คนใกล้ชิด เครือญาติในตระกูล แต่คือ ‘สายเลือดชินวัตรโดยตรง’ อุ๊งอิ๊งในวัยเพียงแค่ 35 ปี อาจยังเร็วไปหากต้องมารับภาระหนักอึ้ง เป็น กล่องดวงใจ ทักษิณ-พจมาน อันเชื่อมโยงไปถึงธุรกิจ เดิมพันในวงศ์ตระกูล นาทีนี้อาจจะ (ดูเหมือน) เป็น เป้าจริง พอสถานการณ์เปลี่ยน เงื่อนไขเปลี่ยน อาจแปรเปลี่ยนเป็นแค่ เป้าหลอก ในตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็เป็นได้!!!. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะก้าวหน้า-ธนาธรปักธง "สว.สีส้ม" แชร์เก้าอี้สภาสูง

การเมืองช่วงเดือนพฤษภาคม วาระสำคัญเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามก็คือ การได้มาซึ่ง วุฒิสภา-สภาสูง ชุดใหม่ ที่จะมาแทนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบัน ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 10 พ.ค. แต่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า สว.ชุดใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่

ศึก“วางคน-วางเกม”รับมือ สะท้อนผ่านวอรูม“เมียนมา”

ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจาก นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา

‘บิ๊กโจ๊ก’ดิ้นสู้หัวชนฝา ยื้อแผน‘ฆ่าให้ตาย’

ความเคลื่อนไหวของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เที่ยวล่าสุด ถือเป็นการเขย่าวงการการเมือง ตำรวจ และองค์กรอิสระ

กองทัพโดดเดี่ยวในวงล้อม การเมืองไล่บี้ ผ่านปฏิรูป-แก้กม.

มีความเห็นและปฏิกิริยาทางการเมืองตามมา หลังมีการออกมาเปิดเผยจาก “จำนงค์ ไชยมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกลาโหม (สุทิน คลังแสง) รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์” ที่เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภากลาโหมเมื่อ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา รับทราบร่างแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ...

'ทักษิณ-โจ๊ก'ย่ามใจ! จุดจบเส้นทาง'สีเทา'

ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางมาร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และ สส.ของพรรค ร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณอย่างคึกคัก

7 เดือน ‘รัฐบาลเศรษฐา’ เผชิญแรงบีบรอบด้าน!

แม้จะยังไม่ผ่านโค้งแรกในการบริหารประเทศของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เริ่มต้นทำงานได้เพียง 7 เดือน แต่ก็เหมือนถูกบีบจากสถานการณ์รอบด้าน ที่เข้ามาท้าทายความสามารถของผู้นำประเทศ อีกทั้งยังมีภาพนายกฯ ทับซ้อนที่ทำให้นายกฯ นิดดูดร็อปลงไป