ย้ายพรรคล็อตสุดท้าย ปิดดีลก่อนยุบสภาฯ

ยิ่งใกล้ถึงวัน ยุบสภาฯ เข้ามาเมื่อไหร่ การย้ายพรรค-การเข้าสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ที่จะเป็น ล็อตสุดท้าย ก็ยิ่งฝุ่นตลบมากขึ้น

โดยแม้ตามกฎหมายจะให้คนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งต้อง สังกัดพรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วันนับถึงวันเลือกตั้ง โดยที่เงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญบัญญัติให้หากมีการยุบสภาฯ จะต้องเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน ดังนั้นการสังกัดพรรค 30 วันนับถึงวันเลือกตั้ง จึงเปิดกว้างมากสำหรับการย้ายพรรค ที่ยังสามารถย้ายได้หลังยุบสภาฯ เพราะยังไงก็ทันอยู่แล้ว เนื่องจากให้เลือกตั้งภายใน 45 วัน บวก-ลบยังไงก็ทัน เพียงแต่หากย้ายพรรคเร็ว เปลี่ยนเสื้อพรรคใหม่ มันก็เป็นผลดีในแง่การหาเสียง โดยเฉพาะพวกที่ลงสมัคร ส.ส.เขต เพื่อสร้างการจดจำชื่อพรรคตอนหาเสียงเลือกตั้ง

และจากการคาดหมายกันว่า การยุบสภาฯ จะเกิดขึ้นสัปดาห์หน้าช่วง 20-22 มี.ค. โดยแนวโน้มคือวันที่ 20 มีนาคม หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขต ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จึงทำให้ตอนนี้คนที่จะตัดสินใจย้ายพรรค-เปลี่ยนเสื้อพรรคลงเลือกตั้ง จึงต้องรีบปิดดีล-ตัดสินใจ

โดยพบว่ารอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายคน ที่ส่วนใหญ่พบว่าไหลเข้าไปที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เรียกกันว่า "พรรคลุงตู่" ไม่ว่าจะเป็น ศ.ดร.โกวิทย์ พวงงาม หนึ่งในนักวิชาการด้านการปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของการเมืองท้องถิ่น ที่ทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ตาม ชัชวาลล์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน เข้ารวมไทยสร้างชาติ หลังกรรมการบริหารพรรคพลังท้องถิ่นไทถอดใจไม่ลุยต่อ เพราะไม่มีเงินส่งคนลงเลือกตั้ง เลยทำให้ ดร.โกวิทย์ต้องเข้ารวมไทยสร้างชาติ ตามชัช เตาปูน เพื่อไปช่วยหาเสียงกับท้องถิ่นต่างๆ เช่น อบต.-เทศบาลที่พลังท้องถิ่นไทเคยมีฐานเสียงอยู่

นอกจากนี้ก็ยังมี นิโรธ สุนทรเลขา ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้พ้นจากการเป็น ส.ส.นครสวรรค์ และประธานวิปรัฐบาลไปแบบ ชนิดบิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ คงฉุนเล็กน้อย เพราะอุตส่าห์ต่อโทรศัพท์สายตรงให้อยู่พลังประชารัฐต่อ หลังจากดันให้เป็นประธานวิปรัฐบาลแบบค้านสายตาคนในพรรคพลังประชารัฐ แต่สุดท้ายนิโรธก็เลือกจะออกจากพลังประชารัฐไป ทำให้รวมไทยสร้างชาติมีอดีต ส.ส.นครสวรรค์ที่มาจากพลังประชารัฐ 2 คนแล้ว คือ นิโรธกับสัญญา นิลสุพรรณ ซึ่งทั้ง 2 คน เกิดจากการเปิดดีล-ปิดดีลของ เสธ.หิ หิมาลัย ผิวพรรณ อดีตนายทหารชื่อดัง มือทำงานการเมืองของพลเอกประยุทธ์ ที่รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคเหนือให้รวมไทยสร้างชาติ 

นอกจากนี้ข่าวว่า เสธ.หิยังเป็นคนหนึ่งที่ร่วมเจรจาพูดคุยกับ ส.ส.หนวด ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ให้ย้ายมารวมไทยสร้างชาติด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ปิดดีลเรียบร้อย หลังก่อนหน้านี้ ศรัณย์วุฒิเมื่อถูกขับออกจากเพื่อไทย เพราะไปด่าพรรคกลางที่ประชุมสภาฯ ก็ไปเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ แต่อยู่ได้สักพักก็ขัดแย้งกับ ยงยุทธ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติตัวจริง จนต้องไปอยู่พรรคเสรีรวมไทยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หลายเดือน จนมีข่าวว่าศรัณย์วุฒิมีความประสงค์จะขอเป็นหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แล้วดัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ขึ้นเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค แต่คุยกันไม่ลงตัว เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่มีทางยอมให้พรรคที่ตัวเองตั้งขึ้นมาไปอยู่กับมือคนอื่น อีกทั้งมั่นใจว่าหลังเลือกตั้ง เพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่ ทำให้เสรีรวมไทยมีโอกาสร่วมรัฐบาล และตัว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะได้เป็นรัฐมนตรี ผลก็เลยทำให้ศรัณย์วุฒิเคว้งพักใหญ่ในการหาพรรคสังกัด

 จนข่าวว่ามีการเปิดดีลกับอีกบางพรรค เช่น ภูมิใจไทย แต่คุยกันหลายรอบก็ไม่ลงตัว จนสุดท้ายไปเข้ารวมไทยสร้างชาติแบบหลายคนคาดไม่ถึง เพราะที่ผ่านมา 4 ปี ศรัณย์วุฒิเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านคนหนึ่งที่ฉะกับพลเอกประยุทธ์กลางสภาฯ มาหลายรอบ แต่สุดท้ายกลับไปอยู่กับพรรคลุงตู่เฉย!

อย่างไรก็ตาม การย้ายพรรคล็อตสุดท้ายที่หลายคนสนใจก็คือ กรณีของ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลตอนนี้ที่จะย้ายพรรคในช่วงโค้งสุดท้าย คือ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม จากพลังประชารัฐ และ จุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ จากประชาธิปัตย์ ซึ่งหลังอึมครึมทางการเมืองมานาน แต่เมื่อสัญญาณชัดว่ายุบสภาฯ สัปดาห์หน้า ทำให้ตอนนี้ก็ชัดแล้วในการย้ายพรรคของทั้ง 3 คน 

โดย สมศักดิ์-สุริยะ จะย้ายกลับไปอยู่กับทักษิณ และเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่พรรคเพื่อไทย โดยทั้ง 2 คนคาดว่าจะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี วันที่ 16 มี.ค. จากนั้นจะไปร่วมงานใหญ่ของเพื่อไทย ในวันศุกร์ที่ 17 มี.ค.นี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เพื่อไทยจัดงานเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตทั้ง 400 คน และเปิดนโยบายพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

และนอกจากสมศักดิ์และสุริยะแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งสมาชิกกลุ่มสามมิตรของสมศักดิ์คือ สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ที่ลาออกจาก ส.ส.ชลบุรี พลังประชารัฐไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อไปอยู่เพื่อไทย เสริมทีมชลบุรีของสนธยา คุณปลื้ม สู้กับกลุ่มสุชาติ ชมกลิ่น จากรวมไทยสร้างชาติ

สำหรับตระกูล เนื่องจำนงค์ ถือเป็นบ้านใหญ่ชลบุรีอย่างแท้จริง และคนในตระกูลดังกล่าวก็แยกไปอยู่กันหลายพรรค แถมยังแข่งกันเองอีกด้วย เช่น เลือกตั้งปี 2562 พบว่า เขต 4 ชลบุรี ที่สรวุฒิชนะเลือกตั้งมา มีพี่น้อง-ญาติมิตรตระกูลเนื่องจำนงค์แข่งกันเองถึง 3 พรรค 3 คน แต่สุดท้ายกลายเป็นสรวุฒิที่ตอนนั้นย้ายมาจากประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง 

โดยเลือกตั้งรอบนี้เพื่อไทยหวังไว้มากที่จังหวัดชลบุรี โดยเพื่อไทยวางคิวไว้ว่า หลังจากเสร็จงานใหญ่ที่ธรรมศาสตร์ วันที่ 17 มี.ค.แล้ว เพื่อไทยจะยกคณะใหญ่ไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.ชลบุรี ในวันที่ 18 มี.ค.66 และจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ของพรรคทั้ง 10 เขต ที่มีชื่อของสรวุฒิลงในเขต 5 จากนั้นวันรุ่งขึ้น 19 มี.ค. เพื่อไทยจะยกทีมไปปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดระยอง

นอกจากนี้ นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ น้องสาวของนายสมศักดิ์ก็จะลาออกจากพลังประชารัฐพร้อมกับสมศักดิ์ ย้ายไปพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน

ขณะที่อีกหนึ่งรัฐมนตรีที่ย้ายพรรคก็คือ เสี่ยไก่-จุติ ไกรฤกษ์ ที่ข่าวบางกระแสบอกว่าลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ลาออกจาก รมว.การพัฒนาสังคมฯ  เพื่อไปอยู่ที่รวมไทยสร้างชาติ

 อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวการย้ายพรรคของจุติ หลายคนไม่แปลกใจนัก โดยเฉพาะคนในพรรคประชาธิปัตย์เอง เพราะรู้กันดีว่า จุติกับพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แนบแน่นกันมาก รวมถึงยังมีความสัมพันธ์อันดีกับ กลุ่มอดีต ปชป.ที่ย้ายไปรวมไทยสร้างชาติอีกหลายคน เช่น แม่เลี้ยงติ๊ก ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู, รังสิมา รอดรัศมี จนมีเสียงร่ำลือกันในซอยอารีย์ 5 ซึ่งเป็นที่ตั้งของรวมไทยสร้างชาติว่า จุติส่งกำลังบำรุงมาสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติหลายเดือนแล้วเสียด้วยซ้ำ กระนั้นจุติก็ปฏิเสธเรื่องการย้ายพรรคมาตลอด

ส่วนหลังจากนี้ จะมีการย้ายพรรคล็อตสุดท้าย โดยเฉพาะชื่อระดับบิ๊กเนม-ตัวตึงทางการเมือง จะมีนอกเหนือจากนี้อีกหรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตากันไว้อยู่ แต่ฝุ่นการย้ายพรรคน่าจะหายตลบไปแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศึก“วางคน-วางเกม”รับมือ สะท้อนผ่านวอรูม“เมียนมา”

ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจาก นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา

‘บิ๊กโจ๊ก’ดิ้นสู้หัวชนฝา ยื้อแผน‘ฆ่าให้ตาย’

ความเคลื่อนไหวของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เที่ยวล่าสุด ถือเป็นการเขย่าวงการการเมือง ตำรวจ และองค์กรอิสระ

กองทัพโดดเดี่ยวในวงล้อม การเมืองไล่บี้ ผ่านปฏิรูป-แก้กม.

มีความเห็นและปฏิกิริยาทางการเมืองตามมา หลังมีการออกมาเปิดเผยจาก “จำนงค์ ไชยมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกลาโหม (สุทิน คลังแสง) รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์” ที่เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภากลาโหมเมื่อ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา รับทราบร่างแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ...

'ทักษิณ-โจ๊ก'ย่ามใจ! จุดจบเส้นทาง'สีเทา'

ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางมาร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และ สส.ของพรรค ร่วมรับประทานอาหารกับนายทักษิณอย่างคึกคัก

7 เดือน ‘รัฐบาลเศรษฐา’ เผชิญแรงบีบรอบด้าน!

แม้จะยังไม่ผ่านโค้งแรกในการบริหารประเทศของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เริ่มต้นทำงานได้เพียง 7 เดือน แต่ก็เหมือนถูกบีบจากสถานการณ์รอบด้าน ที่เข้ามาท้าทายความสามารถของผู้นำประเทศ อีกทั้งยังมีภาพนายกฯ ทับซ้อนที่ทำให้นายกฯ นิดดูดร็อปลงไป

'ทักษิณ' เอฟเฟกต์! ส่อทำการเมืองไทยวนลูปเดิม

ช่วงที่ผ่านมาแม้จะมีประเด็นข่าวร้อนแรงมากมายแค่ไหน แต่มีบุคคลหนึ่งที่ถ้าอยู่ในหน้าข่าวเมื่อไหร่ มักจะสร้างประเด็นดรามาที่ต้องพูดถึงไม่หยุดกับพ่อใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทย ทักษิณ ชินวัตร