ใบเสร็จ พท.-พปชร. จ่อผสมพันธุ์ข้ามขั้ว?

นับถอยหลังอีกไม่นานพรรคยังทยอยเปิดตัว “ขุนพล” ตุนสรรพกำลัง “กระสุน-กระแส” เตรียมสู้สมรภูมิเลือกตั้งที่ กกต.กำหนดวันชี้ชะตาอนาคตประเทศ 14 พ.ค.นี้

แต่สิ่งที่ประชาชนกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักคือ หลักการนายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. ทว่าพรรคการเมืองที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยอย่าง “เพื่อไทย” ซึ่งเตรียมดัน “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร และ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯ กลับไม่ยอมลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ทั้งคู่

ยังไม่นับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มี “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ยอมลงสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เช่นกัน โดยอ้างเหตุผลส่วนตัว พร้อมลั่นวาจา “มันเรื่องของผม”

ทั้ง 3 แคนดิเดตนายกฯ ข้างต้น ถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำลายหลักการประชาธิปไตยที่ประชาชนวางรากฐานไว้ตั้งแต่เหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ” 2535 จนนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ไว้อย่างชัดแจ้งหรือไม่

โดยเฉพาะ “เพื่อไทย” ที่ฉากหน้าบอกว่าเป็นประชาธิปไตย ไม่ร่วมสังฆกรรมกับพรรคสืบทอดอำนาจ แต่หลังฉากว่ากันว่า ยังคงเจรจาทางลับกับ “บิ๊กเนม” บ้านป่ารอยต่อฯ โดยตลอด เนื่องจาก “นายใหญ่ดูไบ” ต้องการกลับไทยใน พ.ศ.นี้ โดยพร้อมยกตำแหน่ง “ประมุขฝ่ายบริหาร” ประเคนให้กับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ (พปชร.)

ดังที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชนออกมาดักคอล่าสุดว่า   ส.ส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทยอันดับที่ 22 ซึ่งเป็นภรรยาของ พล.อ.นพดล อินทปัญญา เพื่อนรัก และเป็นลมหายใจเดียวกันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดังนั้นปาร์ตี้ลิสต์อันดับที่ 22 จึงเป็นใบเสร็จการเมืองอย่างสำคัญยิ่ง

ไม่นับแกนนำของ พปชร.ที่ไหลไปอยู่คอกนายใหญ่อย่างหน้าตาเฉย ไม่ว่าจะเป็น นายสนธยา คุณปลื้ม บ้านใหญ่ชลบุรี นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตประธานสภาฯ คนที่ 1 และแกนนำกลุ่มสามมิตรอย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.อุสาหกรรม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตลอด 4 ปี

แน่นอนประเด็นนี้ แฟนพันธุ์แท้ “ทักษิณ” คงยักไหล่ไม่ยี่หระ เพราะเชื่อฟังซ้ายหัน-ขวาหันตามเสียง “คนแดนไกล” อยู่แล้ว

แต่บรรดา “แดงก้าวหน้า” อีกหลายคนถึงกับส่ายหัว ถ้าทำแบบนี้มีแต่ “เสียกับเสีย” อาจทำให้ความนิยมของ “ทักษิณ” ที่ปัจจุบันน้อยอยู่แล้ว ให้เสื่อมมนต์ขลังลงไปอีก ยิ่งกว่าเหยียบศพ “เสื้อแดง” เพื่อออก “นิรโทษฯ เหมาเข่ง” ปี 2556 จนเกิดการรัฐประหารปี 2557

เช่นเดียวกับ พปชร.ก็ย่อมเสียชื่ออย่างเลี่ยงไม่ได้ การกระทำสวนทางคำพูดของ “ลุงป้อม” ที่บอกจะ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” แต่หากทำเช่นนี้จะยิ่งสร้างชนวนความขัดแย้งให้ฝังรากลึกในสังคมจนยากจะประสานรอยร้าวกลับมาได้อีก

ขณะที่สื่อนอกอย่าง สำนักข่าว DW ของเยอรมนีรายงาน จับตาการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่หลายฝ่ายจับตาอนาคตการเมืองไทย หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ประเทศไทยต้องเผชิญกับความไม่สงบทางการเมืองและปัญหาทางเศรษฐกิจในหลายด้าน ตลอดจนความนิยมในตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

ขณะที่พรรคขั้วตรงข้ามอย่างพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของประยุทธ์ ยังคงเป็นพรรคที่มีกระแสความนิยมดีมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้หลายฝ่ายเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยอาจเป็นแกนนำสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลไทยชุดต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม Ken Mathis Lohatepanont นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนกล่าวกับ DW ว่า ผลการเลือกตั้งไทยในกลางปีนี้ เราอาจได้เห็นการจัดตั้งรัฐบาลผ่านแนวร่วมของ 2 พรรคที่เคยเป็นขั้วตรงข้ามกัน

“มีความเป็นไปได้ที่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่เคยเป็นปฏิปักษ์กัน เช่น พลังประชารัฐ และเพื่อไทย จะรวมตัวกันเป็นรัฐบาลได้”

ล่าสุด ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร.ออกมาระบุว่า พปชร.จะไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย เพราะนโยบายไม่สอดคล้องกัน แต่ก็ถูก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานภาคเหนือ พปชร.รีบออกตีไพ่อีกใบแบ่งรับแบ่งสู้ เป็นความเห็นส่วนตัว และเร็วไปที่จะตัดสินใจจับขั้วการเมือง

แม้แกนนำของทั้งคู่จะออกมาปฏิเสธก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่คนไทยต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางข้อเรียกร้องว่า ประชาชนควรมีสิทธิ์จะรับรู้ก่อนว่าจะเกิดการผสมพันธุ์ข้ามขั้วหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พิสูจน์ฝีมือ ‘ครม.เศรษฐา2’ ปรับทัพใหม่ รอดหรือร่วง?

หลังปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียบร้อย โดยมีรัฐมนตรีเข้าใหม่ 7 คน และออก 4 คน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ กว่าจะได้คนที่ถูกฝาถูกตัว ก็ต้องมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจเป็นธรรมดา

คณะสอบวินัย"บิ๊กโจ๊ก"ส่อเค้าวุ่นไม่จบ “สราวุฒิ”จ่อเกษียณโยนเผือกร้อนสีกากี

สู้กันทุกกระบวนท่าเต็มสรรพกำลังอภิมหาศึก “สีกากี” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนพัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์ ระบุว่า “การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

จับตาระเบียบใหม่ กกต. สกัดฮั้วเลือก 'สว.'

เตรียมนับถอยหลังปิดฉากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดบทเฉพาะกาลที่จะหมดวาระลงในวันที่ 3 พ.ค. 2567 แต่จะยังคงรักษาการจนกว่าจะมีวุฒิสภาชุดใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่ง หากดูตามไทม์ไลน์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

จากวังสราญรมย์ถึงตึกไทยคู่ฟ้า “ทูตปู”เลขาฯส่วนตัวทักษิณ สู่ตัวเต็งรมว.ต่างปท.คนใหม่

ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้ารัฐบาล และเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาแค่หนึ่งคืนก็เคาะออกมาแล้วว่าจะดัน ทูตปู มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตทีมงานหน้าห้อง นายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า สมัยทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล

'แก้วสรร' แพร่บทความปอกเปลือก ทักษิโณมิคส์ บวก X กลายเป็นโครงการแจกเงินดิจิทัล

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง "ทักษิโณมิคส์ + X = โครงการแจกเงินดิจิตอล" มีเนื้อหาดังนี้ เมื่อคราวแรกเริ่มครองอำนาจในปี ๒๕๔๖ ของพรรคทักษิณ ที่พลิกมิติการปกครองไทยด้วยชุดนโยบายการเงินที่โหมอัดฉีดประชานิยมชนิดเข้มข้นต่างๆนานา