“รองอ๋อง” ทัวร์ลงโดนย้อนศร ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง

นับตั้งแต่ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ก็มีรถทัวร์มาลงจอดให้เป็นประเด็นทางการเมืองอยู่เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการโพสต์ภาพคราฟต์เบียร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นถึงฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่ออกกฎหมาย แต่กลับมาทำฝ่าฝืนกฎหมายเสียเอง ก่อนที่ตัวเองจะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมายในเวลาต่อมา

กระทั่งมาถึงกรณีล่าสุดที่ได้เบิกเงินจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นเงินประมาณ 1.3 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเดินทางไปดูงานด้านฝ่ายนิติบัญญัติที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน พร้อมกับ สส.พรรคก้าวและพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่ง

เรื่องนี้ดันมาเป็นเรื่องตรงที่การถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการเดินทางไปดูงานดังกล่าว แม้ว่า “หมออ๋อง” จะชี้แจงว่ามีวัตถุประสงค์ที่ต้องการศึกษาการเพิ่มสมรรถนะในการทำงานของรัฐสภาสิงคโปร์ เพื่อนำมาปรับใช้กับระบบงานนิติบัญญัติของไทย แต่อีกด้านหนึ่งก็ถูกเพ่งเล็งว่ามีความจำเป็นหรือไม่ ท่ามกลางสภาพปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

ไม่เพียงแต่เรื่องความเหมาะสมที่ยังตอบไม่ชัด ยังมีรายละเอียดที่น่าจะเป็นข้อท้วงติงเช่นกัน โดยเฉพาะเหตุใดถึงต้องเดินทางโดยเครื่องบินสายการบินไทยในชั้นธุรกิจ ทั้งๆ ที่ถ้าเลือกสายการบินเพื่อเดินทางด้วยชั้นธุรกิจเหมือนกันก็น่าจะมีราคาถูกมากกว่า

อีกทั้งมีความจำเป็นประการใดที่จะต้องมี สส.อีก 6 คนติดตามไปด้วย เพราะจากรายชื่อ สส.ที่เดินทางไปด้วยในครั้งนี้น่าจะเพียงเฉพาะนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เท่านั้นที่น่าจะเหมาะกับการเดินทางไปกับรองประธานสภาฯ ในฐานะเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนคนที่เหลือนั้นจะต้องไปตอบสังคมต่อไปถึงความเหมาะสมต่อการเดินทางในครั้งนี้

โชคยังดีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ออกมายืนยันว่าเงินที่รองประธานสภาฯ เบิกไปนั้นเป็นไปตามกฎหมาย เพราะหมออ๋องมีหน้าที่กำกับดูแลงานด้านสารสนเทศของสภา การเดินทางไปสิงคโปร์จึงยังพอฟังขึ้นได้บ้าง ในทางกลับกันถ้าประธานสภาฯ ไม่ออกมารับหน้าเสื่อให้ แน่นอนว่าพรรคก้าวไกลอาจทัวร์ลงหนักกว่าเดิมเป็นแน่

พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่พยายามเซตมาตรฐานทางการเมืองใหม่ เพื่อยกระดับการเมืองไทยให้สูงขึ้น เห็นได้จากกรณีการลาออกของ สส.หลายคนของพรรคทันที ที่มีปัญหาเรื่องความไม่ชอบธรรม ซึ่งด้านหนึ่งแน่นอนว่านอกจากเป็นการแสดงความรับผิดชอบในทางการเมืองแล้ว ยังเป็นการตัดตอนปัญหาเพื่อยุติเสียงวิจารณ์ให้จบลงเร็วที่สุดด้วย

อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้มาตรฐานที่พรรคก้าวไกลวางไว้กำลังย้อนกลับมาท้าทายพรรคก้าวไกลเอง โดยเฉพาะกรณีล่าสุดซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณของแผ่นดิน เพราะบทบาทที่ผ่านมาพยายามลุกเกี่ยวกับการตรวจสอบงบประมาณของผู้มีอำนาจมาโดยตลอด และพยายามใช้วาทกรรม “คนเท่ากัน” กล่อมคนในสังคม

แต่บัดนี้ “ปดิพัทธ์” เลือดแท้ก้าวไกลก้าวเข้ามาลิ้มรสอำนาจเหมือนจะออกอาการเป๋ๆ ตั้งงบบินดูงานสิงคโปร์ สส.ผู้ทรงเกียรติร่วมทริปนั่งชั้นธุรกิจ ส่วนคนอื่นนั่งเก้าอี้ชั้นประหยัด แต่ปากยังท่องว่า “คนเท่ากัน” สังคมก็ลองไตร่ตรองดูเอาว่าความจริงนั้นคืออะไร และอย่างที่ทราบดีว่า การใช้งบประมาณของฝ่ายนิติบัญญัติไปกับภารกิจด้านการต่างประเทศนั้นไม่ต่างอะไรกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

เงิน 1.3 ล้านบาทนี่ก็เช่นกัน พรรคก้าวไกลจะกล้าการันตีหรือไม่ว่า เมื่อไปดูงานกลับมาแล้วจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรม เพราะมิเช่นนั้นพรรคก้าวไกลจะกลายเป็นพวกว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระชับมิตรผู้นำฯ-โชว์วิชั่นไทย เวทีแรก ‘เศรษฐา’ สอบผ่านไหม!

หลังดรามา! เหมาลำเครื่องบินการบินไทย 30 ล้านบาท ในภารกิจราชการ บินลัดฟ้าไปร่วมเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ระหว่างวันที่ 18-24 กันยายน 2566 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

'วัชระ' ค้านรับมอบรัฐสภาใหม่ จี้ทวงค่าปรับล่าช้า 12.2 หมื่นล้าน พบพิรุธหลายจุด

นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนทำหนังสือถึงนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ขอคัดค้านการรับมอบงาน 100%

'ปดิพัทธ์' แจงตรวจรับมอบรัฐสภาไม่ทัน กรรมการยังเห็นขัดแย้ง 2 เรื่อง

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึงการตรวจรับมอบอาคารรัฐสภา ว่า จากกรอบเวลาเดิมที่ควรจะเป็น จะต้องส่งมอบตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่

เปิดแฟ้มตัวเต็งรับไม้ต่อ “พิธา” คุมบังเหียน ‘พรรคก้าวไกล"

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีประเด็นใหญ่ที่ถูกตีพิมพ์ทุกหน้าสื่อคือ การลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกลของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ สส.และผู้นำฝ่ายค้านได้ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

ชาวเน็ตรุมประจาน 'ก้าวไกล' สุดย้อนแย้ง พูดกับทำตรงข้ามโดยสิ้นเชิง

จากกรณีมีการเผยแพร่เอกสาร ที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และคณะรวม 12 คน