‘พปชร.’งัดกม.กระตุก‘อุ๊งอิ๊ง’ หัก‘วงษ์สุวรรณ’ระวัง‘ฝังใจเจ็บ’

แถลงการณ์ของ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ฉบับล่าสุด ที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฏิบัติหน้าที่แทน ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ส่งถึง ‘อุ๊งอิ๊ง’-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บ่งบอกได้ว่า ฐานบัญชาการป่ารอยต่อฯ ยังคงเดินเกมสู้ ไม่ว่าจะเป็นกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

สาระสำคัญของแถลงการณ์ฉบับล่าสุด คือ กรณี ‘บิ๊กป๊อด’-พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้รับการติดต่อให้กรอกประวัติรัฐมนตรี ทั้งที่พรรคพลังประชารัฐมีมติส่ง 4 รายชื่อเดิมในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

4 รายชื่อเดิม ประกอบด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท, ร.อ.ธรรมนัส, นายสันติ พร้อมพัฒน์ และ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ซึ่งหากดูจากเนื้อหาในหนังสือฉบับล่าสุดที่ทำถึง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ทำให้อนุมานได้ว่า ‘บิ๊กป๊อด’ คือคนเดียวที่ไม่ได้รับการติดต่อให้กรอกประวัติ ส่วน 3 คน คือ ร.อ.ธรรมนัส, นายสันติ และนายอรรถกร ได้กรอกประวัติ

ในขณะที่พรรคอื่นๆ ต่างทยอยกรอกกันเรียบร้อย

ประเด็นนี้ตอกย้ำว่า นายทักษิณและพรรคเพื่อไทย ต้องการหักกับ ‘บิ๊กป้อม’ จริงๆ ตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้

มิเพียงเท่านั้น กระแสข่าวว่ามุ้งของ ร.อ.ธรรมนัส ส่งโผคณะรัฐมนตรีไปด้วย เป็นเรื่องจริง ต่างจากที่ ร.อ.ธรรมนัสพยายามชี้แจงว่าไม่ได้กระทำแบบนั้น

มันชัดอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยเลือกมุ้งของ ร.อ.ธรรมนัส แม้ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐพยายามจะยืนยันมติพรรคมาแล้วมากกว่า 1 รอบ

แล้วมันยังไปสอดคล้องกับกระแสข่าวที่ว่านายทักษิณคับแค้นคนในป่าในหลายเรื่อง อาทิ กรณี 40 สว.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสอยนายเศรษฐา, กรณีข่าวลือว่า ‘บิ๊กป้อม’ ต้องการโค่นเพื่อไทยเพื่อเป็นนายกฯ เอง, กรณี ‘บิ๊กป้อม’ ไม่ไปโหวตให้ ‘อุ๊งอิ๊ง’

คำให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณหลายครั้งก็ต้องการกระแทกกระทั้น ‘บิ๊กป้อม’ โดยเฉพาะล่าสุดที่ออกมาแฉว่า ในอดีต ‘บิ๊กป้อม’ เคยมาขอเป็นประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ปฏิกิริยา ‘ทักษิณ’ และการที่ ‘บิ๊กป๊อด’ ไม่ได้กรอกประวัติรัฐมนตรี มันสะท้อนว่า ‘ทักษิณ’ น่าจะเลยคำว่าโกรธไปไกลแล้ว

แต่ถ้าจับสัญญาณจากแถลงการณ์ฉบับล่าสุดของพรรคพลังประชารัฐ ก็ประเมินได้เหมือนกันว่า ‘ป่ารอยต่อฯ’ ยังไม่ยอมถูกเขี่ยง่ายๆ เหมือนกัน

ที่สำคัญ พยายามเล่นแง่เรื่อง ‘ข้อกฎหมาย-ระเบียบ-ข้อบังคับ’

อย่างการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐสัปดาห์ก่อน มีการงัดข้อบังคับออกมาใช้ว่า บุคคลที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรีต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค และถ้ารายชื่อที่ส่งไปคุณสมบัติไม่ผ่าน ต้องส่งกลับมาให้พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อไปใหม่

แถลงการณ์ฉบับนั้นถูกมองว่าเป็นการทำให้รายชื่อที่หาก ร.อ.ธรรมนัสส่งประกบไปให้แกนนำรัฐบาล เป็น ‘โผเถื่อน’ ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัสยังมีสถานะเป็นสมาชิกพรรคอยู่

อาจมีบางคนมองว่า ประเด็นที่พรรคพลังประชารัฐต่อสู้ดูหยุมหยิม เพราะหาก ‘ทักษิณ’ และ ‘เพื่อไทย’ ไม่เอา คือ ไม่เอา แต่อีกมุมหนึ่งมีการมองว่า อาจจะเป็น ‘ภัยมืด’ กับแกนนำรัฐบาล รวมถึงตัว ร.อ.ธรรมนัสในอนาคตได้ หากอีกฝ่าย ‘ฝังใจเจ็บ’

โดยเฉพาะข้อสังเกตของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เห็นว่า การที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐยืนยัน 4 รายชื่อเดิม เป็น ‘เกมเหนือเกม’

พร้อมกับหยิบยกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 15 (13) ที่ระบุว่า ข้อบังคับของพรรคการเมือง ต้องมีรายละเอียดหลักเกณฑ์การเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งต้องให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมในการคัดเลือกอย่างกว้างขวาง

รวมถึง ข้อ 92 ของข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ กำหนดวิธีการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าต้องมีการประกาศให้สมาชิกทราบเป็นการทั่วไป และต้องเสนอชื่อต่อคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาคัดเลือก

อดีต กกต.รายนี้มองไปถึงว่า หากมีใครแอบส่งชื่อให้พรรคเพื่อไทยโดยที่ยังไม่เคยประกาศต่อสมาชิก และไม่เคยมีมติกรรมการบริหารพรรคจะมีปัญหาเรื่องฝ่าฝืนวินัยและขัดจริยธรรมหรือไม่?

ถ้ามีการเล่นแง่กฎหมายนี้จริง คนที่จะเสี่ยงถูกตรวจสอบคือ คนแต่งตั้งอย่าง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ด้วย

ยิ่งถ้า ‘พรรคเพื่อไทย’ เลือกที่จะจบกับพรรคพลังประชารัฐซีก ‘บิ๊กป้อม’ แบบไม่สวย มันอาจสร้างความแค้นเคืองให้เพิ่มอีกหนึ่งปม

แน่นอนว่า ‘บิ๊กป้อม’ อาจจะเป็นผู้ใหญ่ ใจกว้าง แต่รับรู้กันทั่วว่า รักน้อง รักพวกพ้องมาก ชนิดว่า จะไม่ยอมให้ใครมารังแก

วันนี้แต้มต่ออาจจะสู้อีกฝั่งไม่ได้ แต่ด้วยคอนเนกชันที่กว้างขวาง พละกำลังที่ยังมีอยู่ในกลไกต่างๆ ต่อให้เขี่ย ‘บิ๊กป้อม' พ้นวงจรได้ เรื่องก็ไม่น่าจะจบ

ต้องวัดใจ ‘เพื่อไทย’ จะยืนกรานเขี่ยให้พ้น หรือต้องเก็บเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของ ‘นายหญิงน้อย’.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปชน.' โรยเกลือ 'นายกฯอิ๊งค์' 3 แผลใหญ่ ยื่นฟันหลายข้อหา แต่ไม่ถอดถอน

'วิโรจน์' เปิดแผนยุทธการโรยเกลือ 'นายกฯอิ๊งค์' 3 แผลใหญ่ 'ตั๋ว P/N - โรงแรมหรูเขาใหญ่ --ชั้น 14' ลุยร้อง ป.ป.ช. ฟันหลายข้อหา ยี้มรดกบาปรัฐประหาร ไม่ยื่นถอดถอน

'อนุทิน' ร้องโอ้โห! เขย่าเก้าอี้ 'มท.1' ต้องใช้แรงเยอะ งงข่าวปรับครม. คุยพ่อนายกฯ ไร้การเมือง

'อนุทิน' งงสัญญาณปรับ ครม. ส่งหาสื่อ แต่มาไม่ถึงหัวหน้าพรรคร่วม ร้องโอ้โห ต้องใช้แรงเยอะเขย่าเก้าอี้ 'มท.1' เผยกินข้าว 'ทักษิณ' ก่อนสงกรานต์ ไร้เรื่องการเมือง

ปัด 'นายใหญ่' สั่งเบรก 'กันจอมพลัง' ยันการเมืองไม่ยุ่งคดี 'ลูกนายกเบี้ยว'

'ภูมิธรรม' ปัด 'นายใหญ่' สั่งเบรกคดี 'ลูกนายกเบี้ยว' การันตีการเมืองไม่เข้าไปยุ่ง ย้ำ ผบ.ตร. ว่ากันตามเนื้อผ้า ทำให้เกิดความโปร่งใส

ลุ้น! แพทยสภา ถก 8 พ.ค. ปมชั้น 14 ‘หมอตุลย์’ ชี้หากไม่ผิดมาตรฐานจริยธรรม เรื่องใหญ่วงการแพทย์

ลุ้น’แพทยสภา’ นัดประชุม 8 พ.ค.ลงดาบ-ยกคำร้องหรือเลื่อนอีก สรุปผลสอบจริยธรรมแพทย์รักษาทักษิณ ชั้น 14  ‘หมอตุลย์’ ชี้หากไม่ผิดมาตรฐานจริยธรรม จะเป็นเรื่องใหญ่มากในวงการแพทย์ หลังเลื่อนมาหนึ่งเดือน

‘ดร.ณัฏฐ์’ วิเคราะห์เกมปรับ ครม. แพทองธารใช้สูตร ‘ดองเค็ม’ สั่งสอนภูมิใจไทย

นักกฎหมายมหาชนชี้ เกมการเมืองหลังสงกรานต์ร้อนแรง รัฐบาลแพทองธารอาจไม่ยุบสภาแต่เลือก ‘ปรับ ครม.’ แบบลดบทบาทภูมิใจไทย ดองเค็มไม่ให้กล้าต่อกรกลางสภา ย้ำ กระทรวงมหาดไทย คือเป้าหมายหลักในยุทธศาสตร์คืนอำนาจ ก่อนศึกเลือกตั้ง 2570

ซูเปอร์โพลชี้ผลสำรวจคนไทยมีความทุกข์มากขึ้น แต่ยังมั่นใจฝีมือ 'อิ๊งค์'

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ในสายตาของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น 1,215 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15 - 19 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา