ขณะที่พรรคเพื่อไทย โดย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กำกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จากพรรคเพื่อไทย กำลังรุกไล่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย ในคดี ที่ดินเขากระโดง โดยกดดันต่อสังคมว่า กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่ยอมเพิกถอนที่ดินประมาณ 5,000 กว่าไร่ ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาและศาลปกครอง
หากมองในมุมการเมืองถือเป็นการดิสเครดิต พรรคสีน้ำเงิน และ "ผู้นำทางจิตวิญญาณ" ของพรรคสีน้ำเงิน ที่ครอบครองพื้นที่ดินดังกล่าวอยู่ ที่ระยะหลังมีพลังอำนาจต่อรองทางการเมืองสูง เพราะมีเครือข่ายสีน้ำเงินไม่ต่ำว่า 150 คน จาก 200 คนหนุนหลัง
แต่จู่ๆ ก็มีข่าวในตอนนี้ว่า “ชาดา ไทยเศรษฐ์“ ขณะดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย (มท.2) เซ็นคำสั่งขอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเพิกถอน “ที่ดินอัลไพน์” เมื่อวันที่ 3 ก.ย.67 เพื่อให้ “ชำนาญวิทย์ เตรัตน์” รองปลัดมหาดไทย ผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาดมีคำสั่งเพิกถอนที่ดินดังกล่าว
“ท่านเห็นใจผมไหมล่ะ อยู่กันมาตั้ง 20 กว่าปีแล้ว เรื่องก็มาลงที่ผม และผมก็จะเกษียณแล้วในเดือนกันยายน 2568 ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะเซ็นไหม ท่านอยากให้ผมเซ็นไหม” รองปลัดมหาดไทย กล่าว
เมื่อฟังสุ่มเสียงรองปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงไม่มั่นใจว่า สรุปว่าจะเพิกถอนหรือไม่ และจะใช้เวลาพิจารณานานหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ การกำหนดเกม เรื่องการเพิกถอนที่ดินนั้นอยู่ในมือกระทรวงมหาดไทย ที่พรรคภูมิใจไทยกำกับอยู่
สำหรับกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ถือเป็นที่ดินอาถรรพ์ และเคยทำให้ “นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ” อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องติดคุกมาแล้ว
ที่สำคัญยังเคยอยู่ในมือ “แพทองธาร ชินวัตร” และก่อนที่จะรับตำแหน่งนายกฯ ก่อนที่จะโอนหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ไปให้ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” ผู้เป็นมารดา
ขณะที่ "พี่ชาย"-พานทองแท้ ชินวัตร และ "พี่สาว"-พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ก็มีหุ้นในกิจการดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้หากพิจารณาเอาตามเสียงเชียร์ ให้เพิกถอนที่ดินเพียงอย่างเดียว ก็ต้องระวังจะกลายเป็น “เตะหมู เข้าปากหมา” หรือไม่
ทั้งนี้ข้อมูลเบื้องต้น หากมีคำสั่งให้เพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟและอัลไพน์จริง จะมีความเกี่ยวเนื่องกับคนที่ได้รับผลกระทบ
ดังนี้ 1.โฉนดที่ดินจำนวน 650 แปลง 2.จำนวนผู้ถือกรรมสิทธิ์ 530 ราย 3.แยกเป็นที่ดินติดจํานองทั้งหมด 168 แปลง 4.ผู้รับจํานองที่ดิน 30 ราย 5.ผู้จํานอง 209 ราย 6.จำนวนทุนทรัพย์จํานอง 439,056,549 บาท
ขณะที่ราคาประเมินที่ดินโครงการสนามกอล์ฟ และบ้านจัดสรร อยู่ที่ประมาณ 3,071,318,491 บาท ราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างปัจจุบัน 160,787,807 บาท รวมราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3,232,106,294 บาท
ส่วนมูลค่าความเสียหายของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโดยประมาณ อยู่ที่ 5,433,505,840 บาท และมูลค่าความเสียหายโดยประมาณ รวมถึงทุนทรัพย์จํานองโดยประมาณ อยู่ที่ 5,872,562,390 บาท
ขณะที่ “ทักษิณ ชินวัตร” พ่อนายกฯ ซื้อที่ดินมาปี 2540 ในราคาประมาณ 500 ล้านบาท ต่อจาก “ชูชีพ หาญสวัสดิ์” และ “อุไรวรรณ เทียนทอง” ภรรยา “เสนาะ เทียนทอง” ขณะนั้นที่ซื้อมา 130 ล้านบาท จากวัดธรรมิการามวรวิหาร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อ 20 พ.ย.2512
ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าเช่นนี้ อาจมีความเป็นไปได้ว่า ผู้ถือครองที่ดินดังกล่าวอยากจะได้เงินชดเชยแทนหรือไม่
สอดรับกับก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2567 กลุ่มมวลชนตัวแทนชาวบ้านหมู่บ้านราชธานี คลองหลวง ซึ่งอยู่ในพื้นที่พิพาทอัลไพน์ ได้เดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรณีที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร (ที่ดินอัลไพน์) และขอให้ดำเนินการเพิกถอนคำสั่งของปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองปลัดกระทรวง รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย) ที่ให้ยกเลิกคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ยกเลิกโฉนดที่ดิน และดำเนินการจ่ายค่าชดเชยเยียวยาให้กับผู้ได้รับความเสียหายจากการเพิกถอนคำสั่งควบคู่กันไป เพราะที่ดินพิพาทดังกล่าวตอนนี้ไม่มีใครกล้าซื้อขายทำนิติกรรมสัญญาด้วย
“ไพศาล พืชมงคล” นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ด่วน ประชาชนผู้ซื้อหมู่บ้านจัดสรรที่ดินอัลไพน์ทุกราย ที่ซื้อที่ดินโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน และได้รับความเสียหายจากการที่กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ ให้เป็นที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามนั้น มีสิทธิ์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกรมที่ดินได้เต็มจำนวน คือทั้งค่าที่ดิน ค่าบ้าน ค่าตกแต่งและค่าเสียหายอื่นๆ พร้อมทั้งดอกเบี้ย จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นด้วย ผู้เสียหายทุกรายสามารถฟ้องคดีได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ขณะที่ “พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมที่ดิน ยอมรับว่า ถ้ากระทรวงมหาดไทยเซ็นมาเมื่อใด กรมที่ดินมีหน้าที่เตรียมรับการเพิกถอนในการทำนิติกรรม เพื่อให้ที่ดินกลับมาเป็นของวัด โดยการดูแลของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่วนวัดจะทำอย่างไร จะให้เช่าก็เป็นส่วนของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่จะต้องพิจารณาต่อไป
“สิ่งหนึ่งที่จะต้องโดนแน่คือถูกผู้เสียหายฟ้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ เพราะที่ผ่านมาเป็นการทำนิติกรรมคลาดเลื่อน อีกทั้งที่ดินก็เปลี่ยนมือมาจนทำให้เกิดมูลค่า ซึ่งตอนนี้กรมที่ดินก็ตั้งรับ และขึ้นอยู่ว่ากระทรวงจะเซ็นมาเมื่อใด” อธิบดีกรมที่ดิน กล่าว
จึงต้องจับตาดูว่ากรณีที่ดินอัลไพน์ ที่เปรียบเป็นชนักปักหลังทางการเมืองแก่ “นายกฯ อิ๊งค์” และ “คนตระกูลชินวัตร” ที่จะถูกตามหลอกหลอนและถูกโยงต่อรองทางการเมือง
แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องระวังจะเสีย "ค่าโง่" นับพันล้าน โดยมีผู้มีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ด้านหลังชาวบ้าน หวังได้รับเงินชดเชยฟันกำไรแบบบานฉ่ำ หลังที่ดินอัลไพน์กลายเป็นที่ดินอาถรรพ์ ไม่มีใครอยากทำนิติกรรมด้วย!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งเดินหน้าเปิดกาสิโน “วิษณุ”นำทีมกฤษฎีกาฯ รื้อร่าง ก.คลัง กระจุย!
การผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาลเพื่อไทย ที่เร่งเดินหน้าการออกกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้มีการออกใบอนุญาตให้มีการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่จะมีการเปิด กาสิโน ซึ่งตอนนี้ถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลเพื่อไทยไปแล้ว
อภิปรายไม่ไว้วางใจสาวไส้‘นายใหญ่’ หรือทิ้งทวนเวทีสุดท้าย‘25สส.ปชน.’
ภายหลังเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมญัตติของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่าแต่ละพรรคจะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหน และมีข้อกล่าวหาเป็นอย่างไร เพื่อนำมาเรียบเรียงเขียนเป็นญัตติเดียว
รอดยากป.ป.ช.จ่อฟัน อดีต44สส.พรรคส้ม แต่อาจพ้นผิดที่ศาลฎีกา!
ศึกซักฟอกเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเดือนมีนาคม ที่มีพรรคประชาชน เป็นหัวหอกหลักของฝ่ายค้านในการนำทัพ ไล่บดขยี้รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
'เพื่อไทยวิธี'ตลบตะแลงแก้'รธน.' แอบหลังสว.-ทำสภาล่ม-ยื่นศาล
ก่อนหน้านี้ไม่เพียงแค่พรรคประชาชน (ปชน.) จะมุ่งมั่นแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับเท่านั้น ยังมีพรรคเพื่อไทยที่มีความขึงขังไม่แพ้กัน โดยยื่นร่างแก้ไขประกบเว้นการแก้หมวด 1 และหมวด 2
‘สุชาติ’นั่ง‘ประธานป.ป.ช.’สมบูรณ์ ทำ‘บิ๊กโจ๊ก’แตะเบรก ตั้งหลักใหม่?
ถือเป็นคลิปสะเทือนแวดวงการเมือง องค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรม หลังมีการเผยแพร่คลิปการนั่งสนทนากันระหว่าง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และบุคคลอื่นๆ ที่กล้องไม่สามารถจับได้
ประวิงเวลายื่นศาลฯ เข้าทางเกมแก้ รธน.‘เพื่อไทย’
คอการเมืองวันนี้ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเสียหน่อย กับเหตุการณ์ที่รัฐสภามีประชุมร่วมรัฐสภา โดย สส. สว.ประชุมด้วยกันในวันนี้ และอีกวันคือ วันที่ 14 ก.พ. พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.....จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับของพรรคเพื่อไทย (พท.) และฉบับของพรรคประชาชน (ปชน.) ในวาระที่ 1 ชั้นรับหลักการ