เพราะหากฝ่ายค้านถอยร่น ยอมวิปรัฐบาล เหลือเวลาอภิปรายแค่ 20 ชม. และยังอภิปรายจืดชืด ข้อมูลไม่แน่น ไม่มีหมัดเด็ด ไร้หมัดน็อก สุดท้ายจะกลายเป็นพรรคประชาชนเสียเองที่จะย่อยยับทางการเมือง ไม่ใช่แพทองธาร-ทักษิณ-รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย.
ต้องไปตามลุ้นกันอีกในสัปดาห์นี้ พุธที่ 19 มีนาคม ว่าสุดท้ายผลการเจรจาพูดคุยระหว่างแกนนำพรรคฝ่ายค้าน-วิปรัฐบาล เรื่องกรอบเวลาในการ เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร
สุดท้ายแล้วฝ่ายค้านจะได้ตามที่ต้องการ คือ 30 ชั่วโมง ไม่นับรวมเวลาการชี้แจงของนายกฯ และการประท้วงของ สส.รัฐบาล หรือไม่
หลังวิปรัฐบาล-พรรคเพื่อไทย ตั้งการ์ดสูง พยายามต่อรองถึงที่สุด โดยขีดเส้นให้เวลาฝ่ายค้านแค่ 20 ชั่วโมง และขอเวลาให้นายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจง รวมถึงเวลาการประท้วงของ สส.รัฐบาล รวมเวลา 10 ชั่วโมง โดยจะให้อภิปรายระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม และลงมติในวันที่ 26 มีนาคม
ที่ทำเอาฝ่ายค้านถึงกับผงะ เพราะหากยอม เท่ากับโดนตัดเวลาที่ขอไป 10 ชั่วโมง ที่หากยอมง่ายๆ จะมีผลกระทบไปถึงการวางแผน จัดวางขุนพลผู้อภิปราย และการเตรียมข้อมูลการอภิปราย ที่จะต้องหั่นเวลา-หั่นตัว สส.ที่จะอภิปรายออกไปหลายคน ทำให้การวางแผนการอภิปรายรวนเอาได้
จึงทำให้ฝ่ายค้านยังไว้เชิง ไม่ยอมง่ายๆ ในการหารือเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 มี.ค. และนัดคุยต่อ 19 มี.ค. เพราะฝ่ายค้านมองว่าตัวเองถอยให้มากแล้ว ยอมตัด-ลบชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ออกจากญัตติ เพื่อให้การอภิปรายเดินหน้าไปได้ มันก็ควรที่ฝ่ายรัฐบาลจะต้องถอยให้ฝ่ายค้านบ้าง ด้วยการให้เวลาตามที่ฝ่ายค้านรีเควสต์ ไม่ใช่ได้คืบจะเอาศอก ตัดชื่อทักษิณออกได้แล้วยังไม่พอ ยังจะปิดปาก-จำกัดเวลาฝ่ายค้านไม่ให้พูดได้เต็มที่อีก
ท่าทีล่าสุดของ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวไว้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงการเจรจาเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายว่า ไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมเจรจาพูดคุยกับฝ่ายรัฐบาล กรอบเวลา 30 ชั่วโมง เป็นกรอบเนื้อหาที่เรายืนยันว่ามีเท่านี้ ถ้าน้อยกว่านี้จะทำให้เนื้อหาที่เตรียมมาตกหล่น ขณะเดียวกันฝั่งรัฐบาลก็มีกรอบของเขา ไม่ยอมถอยให้เราก้าวหนึ่ง จึงเป็นที่มาที่ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้
..ส่วนกรอบเวลา 20+10 ของรัฐบาล มองว่าถ้าจะใช้กรอบนี้จริงๆ 2 วันก็ไม่พอ เพราะเต็มที่ประชุมกัน 1 วัน ใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมงแล้ว 2 วัน 30 ชั่วโมงพอดี ไม่ต้องเผื่อเวลาประท้วงหรือประธานวินิจฉัยอะไรเลย เพราะฉะนั้นมุมมองของพวกเรายืนยันว่าควรจะต้องมีการขยายกรอบวันประชุมด้วย ซึ่งต้องให้รัฐบาลไปหารือกัน เรายังอยากเห็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นในสมัยนี้ ไม่อยากให้รัฐบาลเอาเรื่องกรอบวันและเวลามาทำให้เราเดินหน้าต่อไม่ได้
ขณะที่ ตัวละครการเมืองสำคัญในศึกซักฟอก แมตช์นี้ ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มีชื่อ “ทักษิณ” อยู่ในญัตติ และมีการคาดหมายว่าทักษิณจะถูกฝ่ายค้านถล่มหนักกลางสภา
ท่าทีของ “ทักษิณ” ผู้นิยามตัวว่า สทร. เสือกทุกเรื่อง ซัดเปรี้ยงฝ่ายค้านที่จะอภิปรายพาดพิงถึงตัวเองว่า “ถามจริงๆ เพื่ออะไร ไม่ได้เป็น สส. ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จะทำไปเพื่ออะไร หรือจะดิสเครดิตเพื่อวางเผื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า เหลืออีก 2 ปี ขอให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบเลือกตั้ง ไม่ต้องหาเสียง ไม่มีปัญหา สบายๆ เห็นนรกสวรรค์มาแล้ว เฉยๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้น”
“พรรคคนรุ่นใหม่ต้องพยายามทำอะไรให้สร้างสรรค์ ต้องทำอะไรที่ดูแล้วน่าเชื่อถือ อย่าเป็นที่น่ารำคาญ หากทำอะไรที่น่ารำคาญ เดี๋ยวจะเสียไปอีกพรรค ต้องว่าไปตามกติกา จะอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีหรืออะไรก็ว่ากันไป ไม่เป็นอะไร ผมไม่เกี่ยว การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องธรรมดา การใส่ร้ายป้ายสีก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมี แต่การบรรจุญัตติที่มีชื่อของบุคคลภายนอกนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล”
ทั้งนี้ ญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธาร ที่ฝ่ายค้านยื่นไปเมื่อ 27 ก.พ. มีเนื้อหาบางส่วนเช่น
“นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหกหลอกลวง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาดล้มเหลวอย่างร้ายแรงทั้งในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา เจตนาตลอดจนปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันภายใต้การบริหารงานของตนเอง
ทั้งยังทุจริตเชิงนโยบาย บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริตไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น นอกจากนี้ยังสมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจจากพฤติการณ์ดังที่พวกข้าพเจ้าได้กล่าวมา
หากปล่อยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังคงบริหารราชการแผ่นดินสืบไป จะทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างร้ายแรงจนยากจะแก้ไขเยียวยาได้ จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดบรรจุญัตตินี้ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน ส่วนเหตุผลและรายละเอียดต่างๆ จะได้แถลงและชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป"
มองไปข้างหน้า บนสมมุติฐานการเมืองที่ว่า ฝ่ายค้านกับวิปรัฐบาลตกลงกันได้ และวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ บรรจุญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเรียบร้อย
สิ่งที่ต้องติดตามก็คือ การเตรียมพร้อมของทั้งฝ่ายค้านและแพทองธาร ชินวัตร ก่อนขึ้นแลกฝีปากกลางสภา
ที่ก็คาดว่าหากฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาชนลุยเต็มที่ ไม่ออมมือ และมีข้อมูล ประเด็นในการอภิปรายแน่นจริง เปิดมา นายกฯ ต้องหงายหลัง ไปไม่เป็นกลางสภา ถ้าแบบนี้การอภิปรายก็เร้าใจ เข้มข้น พรรคประชาชนก็จะได้คะแนนนิยมการเมืองเพิ่มขึ้น แต่หากการอภิปรายภาพรวมจืดชืด ไม่สมราคาคุย คือฉายหนังตัวอย่างก่อนหน้าศึกซักฟอกเสียดุดัน แต่ครั้นขึ้นชกจริง ป้อแป้ ม้าเลียบค่าย ไม่มีหมัดเด็ด ไร้หมัดน็อก ถ้าออกมาแบบนี้ ผลก็คือทำให้พรรคประชาชนเสียเครดิตการเมือง คนจะปรามาสว่ามือตก อ่อนซ้อม อีกทั้งจะทำให้สังคมคลางแคลงใจได้ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ที่ทำให้ชกไม่เต็มหมัด หรือเป็นเพราะมีผู้มีบารมีในพรรคที่เป็นผู้ก่อตั้งพรรค สั่งเบรกใช่หรือไม่
หากไม่ต้องการให้เกิดข้อครหาดังกล่าว สส.พรรคประชาชนก็ต้องใส่เต็มที่
ขณะเดียวกัน เจ้าของพรรคตัวจริง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกมองว่าเล่นการเมืองแบบแทงกั๊ก ยังหวังผูกสัมพันธ์กับทักษิณ เพื่อหวังจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันหลังการเลือกตั้งรอบหน้า
ตัวธนาธรก็ต้องถอยฉากออกมา อย่าเข้าไปยุ่มย่าม แทรกแซงการทำหน้าที่ของ สส.พรรคประชาชน ต้องให้ลูกพรรคอภิปรายให้เต็มที่ เพื่อแสดงฝีมือการเป็นฝ่ายค้าน โดยเฉพาะการอภิปรายเรื่องทักษิณเข้าครอบงำ-ชักใยนายกฯ และเรื่องเงื่อนงำชั้น 14 รพ.ตำรวจ
เพราะก็ยังมีข่าวลือการเมืองเล็ดลอดออกมาจากตึกที่ทำการพรรคประชาชนตลอดว่า ธนาธรยังมีอิทธิพลการเมืองในพรรคสูง และลือถึงขั้นที่ว่าพยายามติดเบรก สส.พรรคประชาชนไม่ให้อภิปรายทักษิณรุนแรง เพื่อหวังผลการเมืองหลังการเลือกตั้งรอบหน้า
ยิ่งการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของทักษิณเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังพูดแปลกๆ
เพราะเมื่อสื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่านายทักษิณเป็นนั่งร้านคอยอยู่ด้านหลังนายกฯ แรงเกินไปหรือไม่ ทักษิณ ตอบว่า “ต้องถามว่าประเด็นนี้ได้ปรึกษาผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้วหรือไม่ เขาได้ปรึกษากันยังว่าจะเล่นประเด็นนี้” ต่อข้อถามว่า หมายความว่าอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า “เอ้า ต้องถามว่านายก อบจ.ลำพูนนั้น มีใครไปช่วยดูแลบ้าง ใจเย็นๆ”
เพราะที่ทักษิณระบุถึง ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ก็เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “ธนาธร”
ท่าทีของทักษิณข้างต้นจึงไม่เป็นผลดีต่อพรรคประชาชน-ธนาธร และ ส.ส.ของพรรคประชาชนแน่นอน เพราะเป็นการพูดที่ทำให้เกิดการตีความการเมืองตามมามากมาย
ซึ่งก็ดูเหมือนทักษิณคงอาจรู้ว่าเริ่มหลุด เลยทำให้พยายามตัดบทในเรื่องนี้ เห็นได้จากเมื่อสื่อซักต่อไปว่า หมายความว่ามีการพูดคุยกันอยู่แล้วใช่หรือไม่?
คำตอบของ “ทักษิณ” ก็เลยเลี่ยงไปพูดเรื่องอื่น “เปล่าๆ ไม่มีใคร แต่คือแบบนี้ สรุปแล้วต้องว่าไปตามกติกา จะอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีหรืออะไรก็ว่ากันไป ไม่เป็นอะไร ผมไม่เกี่ยว”
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะมีอะไรในกอไผ่หรือไม่ คงต้องรอให้ผลการเจรจาระหว่างฝ่ายค้านกับวิปรัฐบาลในวันที่ 19 มี.ค. ออกมาก่อน เพื่อดูว่าฝ่ายค้านจะตรึงเรื่องกรอบเวลาอภิปราย 30 ชั่วโมงไว้ได้หรือไม่ รวมถึงต้องดูว่าสุดท้ายแล้วการอภิปรายที่จะเกิดขึ้น สส.พรรคประชาชน หัวหอกหลักฝ่ายค้าน อภิปรายซักฟอกแพทองธาร นายกฯ และรัฐบาล ได้เข้าเป้ามากน้อยแค่ไหน
เพราะหากฝ่ายค้านถอยร่น ยอมวิปรัฐบาล เหลือเวลาอภิปรายแค่ 20 ชม. และยังอภิปรายจืดชืด ข้อมูลไม่แน่น ไม่มีหมัดเด็ด ไร้หมัดน็อก สุดท้ายจะกลายเป็นพรรคประชาชนเสียเองที่จะย่อยยับทางการเมือง ไม่ใช่แพทองธาร-ทักษิณ-รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
3ชนักติดหลัง'ทักษิณ' ชั้น14แพทยสภา-ป.ป.ช.ไต่สวน ขึ้นศาลคดี112ตัดสินปี69
ถึงตอนนี้ การแสดงบทบาททางการเมืองของ ทักษิณ ชินวัตร เห็นได้ชัดว่าต้องการสยายปีกไปถึงการสร้างพื้นที่การเมืองให้กับตัวเองในเวที
'เทพไท' ซัดรัฐบาล-ทักษิณ ใช้ไทยฟอกขาว 'มิน อ่อง หล่าย' ปมประชุมลับกลางกรุง
อดีต สส.นครศรีธรรมราช ตั้งคำถามรัฐบาลไทย หลังมีรายงาน “อันวาร์-มิน อ่อง หล่าย-ทักษิณ” หารือลับกลางกรุงเทพฯ ชี้เป็นพฤติกรรมคลุมเครือ ทั้งในมิติการทูตและบทบาทของอดีตนายกฯ ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
'อันวาร์' โพสต์ภาพ ประชุมร่วม 'ทักษิณ' แลกเปลี่ยนสร้างสันติภาพในเมียนมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟสบุ๊กว่า เมื่อ
'อาต่าย' ปรี๊ด! ขยะสังคม สั่งตร.พบผู้เสียหาย เร่งฟันอาญา 'บีเอ็มกร่าง'
'ผบ.ตร.' ไม่ปลื้ม 'บีเอ็มกร่าง' เรียก 'อาต่าย' ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารญาณเลือกตั้ง
จับตา! 'นายกฯอิ๊งค์' ส่อประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊ง : ระวังประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
ผ่ายุทธศาสตร์‘กล้าธรรมนัส’ รักษาที่มั่น-ไม่ทับที่เพื่อไทย
‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้แบรนด์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรค ซึ่งมี ‘อ.แหม่ม’ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่หัวหน้าพรรค เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่เริ่มขยับเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง แม้จะยังเหลือระยะเวลาอีกนานกว่าจะถึงปี 70 ในกรณีที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อยู่เต็มเทอม