บังคับใช้แล้ว! ประมวลจริยธรรมผู้บริหาร-ผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานEEC

บิ๊กป้อมลงนามแทนนายกฯ ออกประมวลจริยธรรมผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานอีอีซีและมีผลบังคับใช้แล้ว มีทั้งสิ้น 7 ข้อ เน้นหลักเรื่องพฤติกรรมและการปฏิบัติงาน รวมถึงการวางตัว

08 ธ.ค.2565 – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้ลงนามในประมวลจริยธรรมคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 139 ตอนพิเศษ 286 ง ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2565 และมีผลบังคับใช้แล้ว

สำหรับเนื้อหาระบุว่า โดยที่มาตรา 76 วรรคสาม แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นหลักในการกำหนดประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานจริยธรรมดังกล่าว และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.2562 ได้กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมซึ่งเป็นหลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อใช้เป็นหลักสำคัญในการจัดทำประมวลจริยธรรมของหน่วยงานของรัฐเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 และระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทำประมวลจริยธรรม ข้อกำหนดจริยธรรมและกระบวนการรักษาจริยธรรมของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐพ.ศ. 2563 ประกอบกับมาตรา 11 วรรคหนึ่ง (11) และ (13) แห่งพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกจึงจัดทำประมวลจริยธรรมคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานของสำนักงาน เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตนและรักษาคุณงามความดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องยึดถือในการปฏิบัติงาน ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประมวลจริยธรรมคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 2 ในประมวลจริยธรรมนี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการเฉพาะกิจ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก คณะกรรมการอื่น และคณะอนุกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

“ผู้บริหาร” หมายความว่า เลขาธิการ รองเลขาธิการ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ที่ปรึกษาพิเศษผู้ตรวจสอบภายใน ผู้ช่วยเลขาธิการ และผู้บริหารกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกตามกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

“ผู้ปฏิบัติงาน” หมายความว่า พนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน

“ประมวลจริยธรรม” หมายความว่า ประมวลจริยธรรมคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ข้อ 3 คณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานพึงปฏิบัติตนเพื่อรักษาจริยธรรม ดังต่อไปนี้
(1) ยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยการแสดงออกถึงความภูมิใจในชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ปฏิบัติตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ เคารพในความแตกต่างของการนับถือศาสนา
ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และเทิดทูนรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์

(2) ซื่อสัตย์สุจริตปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมาย และตามทำนองคลองธรรมโปร่งใส และตรวจสอบได้ ไม่แสดงออกถึงพฤติกรรมที่มีนัยเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความพร้อมรับการตรวจสอบและรับผิด มีจิตสานึกที่ดีโดยคำนึงถึงสังคมสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชนและเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

(3) กล้าตัดสินใจและยืนหยัดทาในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม กล้าคัดค้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้องกล้าเปิดเผยหรือรายงานการทุจริตประพฤติมิชอบต่อผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ใช้ดุลพินิจในการปฏิบัติหน้าที่โดยปราศจากอคติ และไม่ยอมกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมเพียงเพื่อรักษาประโยชน์หรือสถานภาพของตนเอง

(4) คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เสียสละมีจิตสาธารณะ สามารถแยกเรื่องส่วนตัวออกจากหน้าที่การงาน ไม่กระทำการอันมีลักษณะเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม และไม่ประกอบกิจการหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์อันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของตน

(5) มุ่งผลสัมฤทธิ์ ประสิทธิภาพ และคุณภาพของงาน ปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็ว ทันต่อเวลาและสถานการณ์ คำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากรของรัฐ รักษามาตรฐานการทางานที่ดีพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เชื่อมั่นในระบบการทางานเป็นทีม ให้บริการแก่ประชาชนด้วยความเต็มใจ และเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง

(6) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติ และไม่เลือกปฏิบัติโดยการใช้ความรู้สึกหรือความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือเหตุผลของความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ สภาพร่างกายสถานะทางเศรษฐกิจสังคม และต้องรักษาความเป็นกลางทางการเมืองโดยไม่อาศัยตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นการให้คุณให้โทษแก่นักการเมืองและพรรคการเมือง

(7) ดำรงตนเป็นแบบอย่างด้วยการเป็นคณะกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้ปฏิบัติงานที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ของสำนักงาน พึงปฏิบัติตนให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชน ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่อ้างหรือใช้อำนาจโดยปราศจากเหตุผล และปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีด้วยการเคารพกฎหมายและมีวินัย

ข้อ 4 หากคณะกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้ปฏิบัติงานผู้ใดจะต้องยึดถือหรือปฏิบัติตามจรรยาวิชาชีพ และจริยธรรมตามกฎหมายหรือข้อบังคับอื่นใดที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ นอกจากจะต้องรักษาจริยธรรมตามที่กำหนดไว้ในประมวลจริยธรรมนี้แล้ว จะต้องยึดมั่นในจรรยาวิชาชีพนั้นด้วย

ข้อ 5 คณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานต้องรักษาจริยธรรมโดยปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้โดยเคร่งครัดอยู่เสมอ

ข้อ 6 ในกรณีจำเป็นหรือเห็นสมควร คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกจะจัดให้มีแนวทางการปฏิบัติตนของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกตามประมวลจริยธรรมนี้ ก็ได้

ข้อ 7 การดำเนินการแก่คณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงานที่กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนี้ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับว่าด้วยการนั้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนันต์' การันตี 'ลุงป้อม' ส่งชื่อนั่ง รมต. โควตากำแพงเพชร

'อนันต์' การันตี 'ลุงป้อม' ส่งชื่อนั่ง รมต. มั่นใจคุณสมบัติไร้มลทิน ลั่นเก้าอี้ตัวนี้โควตากำแพงเพชร ไม่ท้อหากชวดตำแหน่ง เชื่อพรรคไม่แตกแม้ผลออกมาเป็นอย่างไร

'สมศักดิ์' บอกให้เกียรตินายกฯ ตัดสินใจเรื่องเก้าอี้!

'สมศักดิ์' ไม่หลุดปากมีชื่อนั่ง รมว.สาธารณสุข วอนให้เกียรตินายกฯเป็นคนตัดสินใจ ระบุ รมต.เก่าไม่ต้องกรอกประวัติใหม่ ไม่ขอตอบพร้อมไป สธ.หรือไม่ แต่นั่งมาแล้ว 2 ครั้ง เผย 'อนุชา' สบายดี แม้มีข่าวถูกปรับออก

โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร 3 ราย

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศพระราชทานยศข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร มีใจความว่า