ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์ไตรมาส 2 อืดจับตาหนี้เสียรถยนต์

“ธปท.” กางผลงานแบงก์พาณิชย์ไตรมาส 2/2566 โกยกำไร 7.4 หมื่นล้านบาท เฮ! รายได้จากดอกเบี้ยพุ่ง โอดสินเชื่ออืด ติดลบ 0.4% หนี้เสียลดลงเหลือ 4.9 แสนล้านบาท ชี้หนี้ stage 2 ขยับ จับตาหนี้เสียสินเชื่อรถยนต์ปะทุ

23 ส.ค. 2566 – นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภาพรวมสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2/2566 หดตัวเล็กน้อยที่ ติดลบ 0.4% โดยเป็นการขยายตัวติดลบครั้งแรกหลังจากวิกฤติโควิด-19 จากการทยอยชำระคืนหนี้ของภาคธุรกิจ หลังเร่งขยายตัวต่อเนื่องในช่วงโควิด-19 โดยเฉพาะสินเชื่อเอสเอ็มอี รวมซอฟท์โลน และภาครัฐ ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ ประกอบกับมีการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ของธนาคารพาณิชย์ โดยสินเชื่อยังขยายตัวได้จากธุรกิจขนาดใหญ่กลุ่ม holding รวมถึงสินเชื่อรายย่อยพอร์ตที่อยู่อาศัยและพอร์ตส่วนบุคคลเป็นสำคัญ อีกส่วนหนึ่งเป็นการโอนพอร์ตสินเชื่อไปยังบริษัทลูกในกลุ่มตามแผนการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจของธนาคารพาณิชย์บางแห่ง หากบวกกลับส่วนที่โอนออก สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ยังขยายตัว 0.4% ขณะที่การปล่อยสินเชื่อใหม่ยังปรับเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ด้านคุณภาพสินเชื่อด้อยลงเล็กน้อย ในสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่ออุปโภคบริโภค โดยธนาคารพาณิชย์บริหารจัดการคุณภาพหนี้และให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่องด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (non-performing loan: NPL หรือ stage 3) ไตรมาส 2/2566 ลดลงมาอยู่ที่ 4.92 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.67%ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (significant increase in credit risk: SICR หรือ stage 2) อยู่ที่ 6.08%ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 6.00% จากสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อเอสเอ็มอีที่เพิ่มขึ้น และสินเชื่ออุปโภคบริโภค โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ ที่เพิ่มขึ้นเป็น 14.39% จากก่อนหน้านี้ที่ 13.85% ขณะที่สินเชื่ออื่น ๆ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลมีการปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ จะมีการทยอยปรับมาตรการ minimum payment ของบัตรเครดิตเข้าสู่ภาวะปกติ โดยตั้งแต่ต้นปี 2567 ลูกหนี้บัตรเครดิตจะต้องผ่อนชำระค่างวดเพิ่มขึ้นเป็น 8% จากปัจจุบันมีการปรับลดลงมาอยู่ที่ 5% และในปี 2568 จะปรับเพิ่มเป็น 10% ตามลำดับ แม้ลูกหนี้ต้องผ่อนชำระค่างวดมากขึ้น แต่สามารถนำค่างวดไปตัดชำระเงินต้นได้มากขึ้น จึงทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและสามารถปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น

โดย ธปท. ได้ให้สถาบันการเงินเร่งสื่อสารการปรับเกณฑ์ดังกล่าวกับลูกค้า และเตรียมการดูแลลูกหนี้ที่ไม่สามารถปรับเพิ่มอัตราการจ่ายได้ เช่น การโอนเปลี่ยนประเภทหนี้เป็นเทอมโลน และกำหนดงวดการจ่ายให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ ส่วนลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนุบคคลที่ไม่มีหลักประกันและเป็นหนี้เสียค้างชำระเกินกว่า 120 วัน ก็สามารถเข้าร่วมคลินิกแก้หนี้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ให้ภาระรายเดือนอยู่ในระดับที่สามารถชำระคืนได้

นางสาวอัจจนา ล่ำซำ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบแบบจำลองและวิเคราะห์สถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566ของธนาคารพาณิชย์ปรับดีขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่7.4 หมื่นล้านบาทเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนทางการเงินปรับเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินรับฝากและ FIDF Fee กลับสู่ระดับปกติ รวมถึงค่าใช้จ่ายดำเนินงานและค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หากเทียบไตรมาสก่อน กำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้น จากรายได้เงินปันผลตามปัจจัยฤดูกาล และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นสำคัญ

สำหรับอัตราการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจ หดตัว 1.5% ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภค ขยายตัวที่ 1.9% ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลยังขยายตัวได้ดี ที่ 4.1% สินเชื่อที่อยู่อาศัย ขยายตัว 2.8% อยู่ในระดับทรงตัว ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิต ขยายตัวชะลอลงที่ 4.4% และสินเชื่อรถยนต์ ยังมีการขยายตัวในระดับต่ำ ที่ 1.6% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

“สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อในไตรมาส 2/2566 ที่ 2.67% นั้น หลัก ๆ มาจากหนี้เสียในกลุ่มสินเชื่อเอสเอ็มอี และหนี้เสียของสินเชื่อรถยนต์ที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.89% เป็น 2.05% ขณะที่หนี้เสียในสินเชื่อบัตรเครดิตปรับลดลงมาระดับหนึ่ง จาก 3.11% เหลือ 2.98%” นางสาวอัจจนา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของเอสเอ็มอีและครัวเรือนบางกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเปราะบางจากภาระหนี้ที่สูงขึ้นและรายได้ที่ฟื้นตัวช้า โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในไตรมาส 1/2566 ลดลงเล็กน้อย อยู่ที่ 90.6% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีปรับลดลงต่อเนื่อง และความสามารถในการทำกำไรปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากภาคการผลิต โดยต้องติดตามความเสี่ยงจากภาคการส่งออกที่ชะลอลงตามเศรษฐกิจโลก ภาคการท่องเที่ยวที่ต้องมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และภาคก่อสร้างที่ต้องติดตามนโยบายของภาครัฐ

อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มเปราะบาง แม้มาตรการแก้หนี้ระยะยาวในช่วงโควิด-19จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2566 ลูกหนี้ที่มีปัญหายังสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนที่สิ้นสุดเป็นเรื่องการผ่อนปรนหลักเกณฑ์กำกับดูแลเพื่อลดต้นทุนให้กับสถาบันการเงินเท่านั้น

โดย ธปท. จะเร่งออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะทำอย่างครบวงจรและถูกหลักการไม่เพิ่มภาระลูกหนี้ในระยะยาวโดยมาตรการที่จะบังคับใช้ในปี 2567 คือ การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม(responsible lending) ซึ่งภายในสิ้นเดือนหนี้ หรือต้นเดือนหน้าจะมีการออกหลักเกณฑ์เต็มรูปแบบเพื่อขอรับฟังความคิดเห็นที่รวมถึงการดูแลหนี้เรื้อรัง (persistent debt) ตลอดจนมาตรการอื่น ๆ ที่ ธปท. จะดำเนินการในระยะต่อไปทั้งการกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของลูกหนี้ (risk-based pricing: RBP) และการกำหนดภาระหนี้ต่อรายได้ (debt service ratio: DSR) ซึ่งจะทยอยรับฟังความคิดเห็นในไตรมาส 3/2566

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธปท.' แจงสินเชื่อแบงก์ Q3 แผ่ว NPL แตะ2.7%

“ธปท.” กางผลงานแบงก์พาณิชย์ไตรมาส 3/2566 รับภาพรวมสินเชื่อโตแผ่ว หลังภาคธุรกิจเร่งชำระคืนหนี้-เข้มปล่อยกู้เอสเอ็มอี กำไร 6.5 หมื่นล้านบาท ด้านหนี้เสียพุ่งแตะ 2.7% ประเมินทยอยผุดเพิ่ม แต่มั่นใจแบงก์บริหารจัดการได้

ดัชนีที่พักแรมเดือนก.ย.แผ่วลุ้นQ4ฟื้นตัว

“แบงก์ชาติ” เผยดัชนีที่พักแรมเดือน ก.ย. แผ่ว เหตุปิดเทอมบางประเทศสิ้นสุดลง ทำนักท่องเที่ยวต่างชาติหด คาดฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4/2677 ด้านโรงแรม 4 ดาวในภาคเหนือ-ใต้ลุ้นลูกค้าจีนพุ่ง

'แบงก์ชาติ' ชี้เศรษฐกิจปีหน้าฟื้นต่อเนื่อง แต่จับตาดิจิทัลวอลเล็ตเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยง

“แบงก์ชาติ” ชี้เศรษฐกิจไทยปี 2567 ฟื้นต่อเนื่อง เคาะจีดีพีโต 4.4% ระบุมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต หนุนบริโภคโต ห่วงสงครามฮามาส-อิสราเอล กระทบราคาน้ำมัน แนะทบทวนมาตรการดูแลราคาน้ำมัน หวั่นเป็นภาระกองทุนน้ำมัน-ภาคการคลัง

'อนุสรณ์' คาด กนง. คงมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังแรงกดดันเงินเฟ้อลดลง

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

'อดีตรมว.คลัง' ร่อนจม.เปิดผนึกถึง 'เศรษฐา' มีอำนาจสั่งการ ธปท.-กลต.-ตลท.เสี่ยงขัดรธน.

'ธีระชัย-อดีตรมว.คลัง' เขียนจม.เปิดผนึกถึง 'เศรษฐา' อาจมีการขัดกันซึ่งผลประโยชน์ จากกรณีถูก 'ชูวิทย์'แฉเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อย อาจฝ่าฝืนพรบ.หลักทรัพย์ การนั่งรมว.คลัง มีอำนาจสั่งการ ธปท.-กลต.-ตลท. เสี่ยงขัดรธน.

‘แบงก์ชาติ’ ประเมินเศรษฐกิจไตรมาส 2 แผ่ว

“แบงก์ชาติ” ประเมินเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2566 แผ่ว ชี้ส่งออกแผ่วกว่าคาด มองภาพรวมยังฟื้นตัวได้ จากอานิสงส์บริโภคในประเทศ-ท่องเที่ยว ลุ้นต่างชาติเข้าไทยแตะ 29 ล้านคนตามเป้า พร้อมแจงถอนคันเร่งนโยบายการเงิน เตรียมหาจุดสมดุลของดอกเบี้ย