‘สุดาวรรณ’ ชูฟรีวีซ่านำร่อง ‘จีน-คาซัคสถาน’ ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน 

‘สุดาวรรณ’ รมว.ท่องเที่ยวป้ายแดงเด้งรับนโยบายฟรีวีซ่านำร่อง ‘จีน-คาซัคสถาน’ ลุ้นจีนเข้าไทย 7 แสนคน ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน ลุ้นรายได้3 ล้านล้าน ผุดไอเดียจัดอีเว้นท์เทศกาลลอยกระทงให้ยิ่งใหญ่ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา

15 ก.ย.2566-นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดการทำงาน โดยเฉพาะในเรื่องของนโยบายฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน โดยมีกำหนดจะเริ่มในวันที่ 25 ก.ย. 2566 เพื่อให้ทันกับวันหยุดยาวของประเทศจีน และจะไปสิ้นสุดนโยบายในวันที่ 29 ก.พ. 2567 ซึ่งถือเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของประเทศไทย

“ก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นอันดับหนึ่งที่เข้ามาเมืองไทย แต่ปีนี้พบว่าลดลง เนื่องจากอาจจะมาจากกระบวนการขั้นตอนในการขอวีซ่า เศรษฐกิจภายในประเทศ และกรณีที่มีสื่อทางการจีนนำเสนอการสื่อสาร แล้วทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่สบายใจในความไม่ปลอดภัยหากมาเที่ยวในประเทศไทย ดังนั้น กระทรวงฯ จึงต้องมีการกระตุ้นการสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวจีน โดยในขณะนี้ได้มีการหารือกับทีมงานของกระทรวงฯ เพื่อสื่อสารให้นักท่องเที่ยวจีนเกิดความมั่นใจ เพื่อมาเที่ยวเมื่อไทยอีกครั้ง” นางสาวสุดารรณ กล่าว

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 นั้น ก่อนหน้านี้ ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 26-27 ล้านคน แต่ภายหลังจากที่มีนโยบายฟรีวีซ่านั้น คาดการณ์ว่า เดือน ต.ค.-ธ.ค.2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 7 แสนคน ทั้งนี้ จึงตั้งเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 40 ล้านคน ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีนักท่องเที่ยวกว่า 39 ล้านคน ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยว ตั้งเป้าไว้ที่ 3 ล้านล้านบาท โดยเร็วที่สุด หรือภายในปี 2567 อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะติดตามข้อมูลเป็นรายเดือนจากการดำเนินการนโยบายฟรีวีซ่าว่า การเติบโตของนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่เท่าไร ขณะเดียวกันจะมีการจัดกิจกรรม (อีเวนต์) อาทิ เทศกาลลอยกระทงให้ยิ่งใหญ่และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา

สำหรับนโยบายในด้านกีฬาที่มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี คือ เรื่องของ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 กีฬา ที่จะปัดฝุ่นกลับขึ้นมาทำอีกครั้ง แต่จะขอหารือในรายละเอียดก่อน แล้วจะนำแจ้งให้ทราบต่อไป ขณะที่ปัญหาเรื่องของงบประมาณในการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ได้รับทางเรื่องแล้ว หลังจากนี้จะมีการพูดคุยกับปลัดกระทรวงฯ ทันที เพราะทราบว่ามีปัญหาอยู่จะเร่งแก้ไขโดยด่วน

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่อว่ามีแผนที่จะเดินทางไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยที่จะเข้าแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 24-29 ก.ย.นี้ จะพยายามเดินทางไปเชียร์นักกีฬาให้ได้มากชนิดที่สุด ตนเชื่อว่านักกีฬาไทยทุกคนมีระเบียบวินัยดีอยู่แล้ว อยากให้กำลังใจทุกคนและอยากให้ชาวไทยทุกคนร่วมให้กำลังใจนักกีฬาไทยทุกคนด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุดาวรรณ' เร่งเครื่องดึงมาเลเซียเที่ยวไทยอุดช่วงโหว่โลว์ซีซั่น

“สุดาวรรณ” ระดมสมองขับเคลื่อนท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซั่น เพื่อไม่ให้มีโลว์ซีซั่นในปีนี้ ลุยจีบนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้าไทย พร้อมดันบิ๊กอีเว้นต์ชูจุดขาย 5 สิ่งที่ต้องทำในประเทศไทย จัดเทศกาลอาหารทะเล กิจกรรมถนนคนเดิน จำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน พ่วงคอนเสิร์ตศิลปินที่เป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และกิจกรรม Amazing Beach Life Festival ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมกีฬาทางน้ำ ศิลปะ ดนตรี การแสดงทางวัฒนธรรมร่วมสมัย

บอร์ดซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติกำชับใช้งบฯให้คุ้มค่า

รมว.สุดาวรรณ ร่วมการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 รับมอบนโยบาย 3 ข้อ ให้คณะกรรมการฯ เน้นย้ำการใช้งบประมาณให้คุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด

สุดาวรรณ ร่วมฉลองครบรอบ 30 ปี สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1

รมว.สุดาวรรณ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมมหกรรมดนตรีริมฝั่งโขง เฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย - เวียงจันทน์)

จำได้ไหม? 'จางเจ๋ออวี่' เด็กน้อยกตัญญูจาก Master Class สู่ศิลปินคุณภาพ

เด็กน้อยกตัญญู จางเจ๋ออวี่ (张泽禹) จากรายการ Master Class ที่วัย 10 ขวบในตอนนั้น จนถึงวันนี้เขาได้เติบโตเป็นศิลปินฝึกหัดที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ความสามารถล้นเหลือ และกำลังเดินทางตามความฝันของตัวเองอย่างแข็งขันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

'สุดาวรรณ' สงวนท่าทีจัดงานสงกรานต์เข้าตา รั้งเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยว

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี พิจารณาว่าใครเหมาะสม ซึ่งส่วนตัวไม่ได้รับสัญญาณใดๆจากนายกฯ เมื่อถามว่า การจัดกิจกรรมสงกรานต์เป็นไปตามเป้าที่วางไว้