'ท่องเที่ยวฟื้น' ธุรกิจบริการอาหารโตต่อเนื่อง 

13 พ.ย. 2566 – ธุรกิจบริการอาหารมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 จากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ แต่ยังต้องระวังปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เช่น แนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

ธุรกิจบริการอาหารมีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่อง คาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตราว 11% ในปี 2567 เนื่องจากการขยายตัวต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชน การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ในระยะกลางคาดว่ายังเติบโตต่อเนื่องที่อัตราการเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ในช่วงปี 2568-2570 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวและกำลังซื้อที่ดีขึ้น ประกอบกับธุรกิจบริการอาหารส่วนใหญ่มีการปรับตัวตามความต้องการของผู้บริโภคมาตั้งแต่ช่วงการระบาดของ COVID-19 โดยการเพิ่มช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ส่งผลให้มีช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้เติบโตจากลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยที่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจที่ต้องติดตาม เช่น นโยบายปรับขึ้นค่าแรงจะส่งผลให้ต้นทุนปรับสูงขึ้นตาม เนื่องจากธุรกิจบริการอาหารเป็นธุรกิจที่พึ่งพาแรงงานที่รับค่าแรงขั้นต่ำจำนวนค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ธุรกิจบริการอาหารยังเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาในตลาด

ธุรกิจบริการอาหารแบบ Full-service[1] คาดว่าจะเติบโต 11% ในปี 2567  แม้ว่าจะได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงในช่วงการระบาดของ COVID-19 แต่จะกลับมาฟื้นตัวจาก Pent up demand และการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยว รวมถึงกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ อย่างไรก็ดี การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยร้านอาหาร Chain มีโอกาสปรับตัวได้มากกว่าในการควบคุมต้นทุนเมื่อต้นทุนด้านแรงงานสูงขึ้น อีกทั้ง ยังสามารถนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อลดการจ้างพนักงาน เนื่องจากมีเงินทุนและสภาพคล่องที่มากกว่า

ธุรกิจร้านอาหาร Limited-service[2] คาดว่าจะเติบโต 8% ในปี 2567 โดยร้านอาหารประเภทนี้ได้รับผลกระทบในช่วงโรคระบาดไม่รุนแรงเท่าประเภทอื่น เพราะร้านส่วนใหญ่เป็น Chain และมีบริการ Delivery ทำให้ปรับตัวได้ง่าย ทั้งนี้ในระยะข้างหน้า การขยายสาขาจะทำให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะสนับสนุนการเติบโตในระยะกลาง และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่ส่งผลกระทบมาก เนื่องจากร้านส่วนใหญ่ใช้พนักงานน้อยและมีเงินทุนในการนำเทคโนโลยีมาใช้แทนแรงงาน

ร้านอาหารแบบคาเฟ่/บาร์[3] ค่อย ๆ ทยอยฟื้นตัว คาดว่าจะเติบโต 13% ในปี 2567 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดค่อนข้างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา แต่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อีกทั้ง ผู้ประกอบการยังมีการปรับตัวโดยปรับปรุงร้านให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ รวมถึงการปรับเปลี่ยนเมนูตามกระแสนิยมของผู้บริโภค เช่น เมนูเพื่อสุขภาพ, ความนิยมชาไทย  หรือการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น เช่น เมล็ดกาแฟที่สร้างรายได้ให้กับชาวเขา รวมไปถึงการนำเอกลักษณ์และวัตถุดิบเฉพาะมาเป็นจุดขาย อย่างไรก็ดี ร้านอาหารประเภทนี้มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะระหว่างร้านเล็ก ๆ กับร้าน Chain ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวให้มีความแข็งแกร่งและมีความสามารถในการแข่งขัน เช่น การสร้างความแตกต่าง หรือการให้บริการเสริมที่ไม่เหมือนคู่แข่ง 

ประเด็นด้าน ESG เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ผู้ประกอบการธุรกิจบริการอาหารเริ่มให้ความสำคัญและตั้งเป้าหมายลด Carbon footprint  โดยการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้วัตถุดิบท้องถิ่น การใช้พลังงานทดแทน การบริหารจัดการขยะอาหารให้มีประสิทธิภาพ ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคมโดยการสนับสนุนชุมชนและให้ค่าแรงที่ยุติธรรมและส่งเสริมจริยธรรม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“SCB แม่มณี” ร่วมกับ “การตลาดการเตลิด” เผยโฉมผู้ชนะสุดยอด “ร้านไลฟ์เด็ด แม่มณีคอนเฟิร์ม” จากเวทีประชันไลฟ์สดสำหรับร้านค้าออนไลน์

ธนาคารไทยพาณิชย์ จับมือ การตลาดการเตลิด ประกาศผลผู้ชนะสุดยอดจากเวทีประกวด Live on stage “ร้านไลฟ์เด็ด แม่มณีคอนเฟิร์ม” กิจกรรมแข่งขันสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ไลฟ์ขายของ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดร้านไลฟ์เด็ด จนแม่มณีต้องการันตี

AWC จับมือ SCB ลงนามสินเชื่อความยั่งยืน 20,000 ล้านบาท

- บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

SCB เคาะจีดีพี 66 โต 3.9% ห่วงจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า กระทบเบิกจ่าย

SCB EIC คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 ที่ 3.9% ตามการบริโภคภาคเอกชนและท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดี ท่ามกลางการส่งออกที่ไม่ค่อยสดใส และการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความไม่แน่นอนสูง

SCB คาด กนง. จะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 2 ครั้ง มาสู่ระดับ 2% ในปีนี้

SCB EIC คาด กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องอีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 2% ในปีนี้ กนง. มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในการประชุมเดือนมีนาคมและเดือนพฤษภาคม 2023