สหภาพแรงงานฯ จี้ ‘ผอ.ขสมก.’เร่งแก้ปัญหาเหมาซ่อม กระทบหยุดวิ่งเสียหาย-ขาดรายได้

สหภาพแรงงานฯ ส่งหนังสือถึง ‘ผอ.ขสมก.’เร่งแก้ปัญหา การเหมาซ่อม บ. ช ทวีฯ หลังหยุดวิ่งรถเมล์เอ็นจีวี 486 คันกระทบภาพลักษณ์เสียหาย-ขาดรายได้ แนะทบทวนยกเลิกสัญญา เร่งหาบริษัท ใหม่ซ่อมบำรุงรถเมล์แทน

2 ม.ค.2567-นายประมิต เมฆฉาย ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) เปิดเผยว่า วันนี้ 2 ม.ค.2567 ได้ส่งหนังสือถึง นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เรื่อง ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการเหมาซ่อม บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน)ตามที่ ขสมก. ได้หยุดการนำหยุดเดินรถถโดยสารปรับอากาศสีฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) ยี่ห้อ BONLUCK หรือ BLK ออกวิ่งให้บริการประชาชน จำนวน 486 คัน

ทั้งนี้โดยแจ้งว่าช่างหยุดซ่อมรถ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2566 เป็นต้นไป หาก ขสมก. นำรถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าวออกวิ่งให้บริการ รถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาในเส้นทาง เนื่องด้วยไม่มีช่างออกไปดูแล และซ่อมแซมรถที่เสียในเส้นทาง จึงไม่นำรถออกวิ่งให้บริการตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น

นายประมิต กล่าวต่อว่า สร.ขสมก. จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 เป็นองค์กรที่ชอบด้วยกฎหมายโดยมีวัตถุประสงค์รักษาผลประโยชน์ของรัฐวิสาหกิจให้ ผอ.ขสมก. แก้ไขปัญหาการซ่อมบำรุงรถเมล์เอ็นจีวีของบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ข้อ ดังนี้

1.ปัญหาการซ่อมบำรุงรถเมล์เอ็นจีวี ของบริษัท ช ทวีฯ เกิดขึ้นมาโดยตลอดไม่สามารถที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาในการซ่อมบำรุง ขสมก. ต้องทำการปรับ กรณีที่ไม่สามารถซ่อมรถเมล์ให้สามารถนำรถออกวิ่งให้บริการได้ อัตราวันละ 10,000 บาทต่อคัน ซึ่ง สร.ขสมก. มองว่าการปรับเป็นไปตามสัญญา แต่ปัญหารถออกวิ่งบริการประชาชนไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบด้านบริการ ซึ่งบริษัทเหมาซ่อมถูกปรับมาโดยตลอด

2.ปัญหาที่ไม่สามารถซ่อมรถที่เสีย โดยอ้างว่าไม่มีช่างหรือบริษัท มิได้จ่ายค่าจ้างช่างตรงเวลาที่ตกลงกันไว้ หรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่เป็นหน้าที่ของบริษัทเหมาซ่อมจักต้องดำเนินการจัดหาช่างมาซ่อมบำรุงรักษารถเมล์ให้สามารถนำรถออกวิ่งให้ครบตามแผนการเดินรถที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน แต่บริษัทมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญา และปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข บริษัทเหมาซ่อมจะไปว่าจ้างบริษัท หรือกลุ่มบุคคลมารับเหมาช่วงในการซ่อมบำรุงรถโดยสาร หากไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขสัญญาบริษัท ช ทวีฯ จะปัดความรับผิดชอบมิได้ ในฐานะเป็นบริษัทแม่ ต้องจัดหาช่างมาซ่อมบำรุงให้สามารถนำรถเมล์ออกวิ่งให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการ

นายประมิต กล่าวอีกว่า 3.เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 ช่างซ่อมบำรุงรถเมล์ มีการแจ้งทางสื่อมวลชน และให้ ขสมก. ทราบว่า จะหยุดงานไม่มาดูแลแก้ไข หรือซ่อมแซมรถเมล์ที่ชำรุดไม่สามารถนำรถออกวิ่งให้บริการได้ อ้างว่า บริษัท ช ทวีฯ ไม่จ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้าง หรือบริษัทที่มารับเหมาช่วงในการซ่อมบำรุง ทำให้ ขสมก. ไม่สามารถที่จะนำรถเมล์ 486 คัน ออกวิ่งให้บริการประชาชนได้ หากมีรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุในเส้นทางจะไม่มีช่างมาดูแล และแก้ไขในการซ่อมบำรุงรถเมล์ที่เสียในเส้นทาง ทำให้ ขสมก. เกิดความเสียหายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

4.การทำสัญญา บริษัท ช ทวีฯ มีอำนาจจัดหาบริษัทเหมาช่วง หรือบุคคลใดมาทำการซ่อมบำรุง สามารถทำได้หากความเสียหายเกิดขึ้นนั้น บริษัท ช ทวีฯ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ การดำเนินการบริษัทดังกล่าว ทำให้ ขสมก. เกิดความเสียหายภาพลักษณ์ ขาดรายได้ รถออกวิ่งให้บริการขาดระยะไม่เป็นไปตามข้อกำหนด หรือแผนการเดินรถออกวิ่งแต่ละวันนายประมิต กล่าวด้วยว่า

และ 5.การดำเนินการดังกล่าวของบริษัท ช ทวีฯ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา เกิดความเสียหายด้านบริการประชาชนขาดความเชื่อมั่น เห็นสมควรให้ ขสมก. โดย ผอ.ขสมก. ทบทวนยกเลิกสัญญา ระหว่าง ขสมก. กับบริษัท ช ทวีฯ ตามสัญญาเลขที่ 51/2560 ลงวันที่ 27 ธ.ค.2560 เพื่อรักษาผลประโยชน์ ขสมก.

อย่างไรก็ตามขอให้ ขสมก. พิจารณาดำเนินการกรณีที่บริษัท ช ทวีฯ ทำให้ ขสมก. เกิดความเสียหาย ทั้งภาพลักษณ์ในเส้นทางเดินรถให้บริการ ขาดรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ช่างเหมาช่วงไม่ปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 29-30 ธ.ค.2566 ขสมก. ต้องจัดหารถเมล์ตามกองเดินรถต่างๆ มาวิ่งให้บริการประชาชนในสายที่มีรถเมล์เอ็นจีวีวิ่งในเส้นทางต่างๆ
ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนผู้ใช้บริการ ส่งผลกระทบด้านบริการที่นำรถเมล์ในสายต่างๆ มาช่วยวิ่งทดแทนในเส้นทางดังกล่าว ทำให้ขาดรายได้มากขึ้น ซึ่งประเมินความเสียหายมิได้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ดังนั้นขอให้เร่งแก้ไขปัญหา ทบทวนยกเลิกเหมาซ่อม บริษัท ช ทวีฯ และเร่งรัดจัดหาบริษัท ใหม่เพื่อซ่อมบำรุงรถเมล์เอ็นจีวี ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ ขสมก. และประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันรถเมล์เอ็นจีวีทั้ง 486 คัน สามารถนำมาให้บริการประชาชนปกติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันจากปัญหาการเหมาซ่อมดังกล่าว ทำให้ ขสมก. หยุดวิ่งจำนวน 2 วัน คือ วันที่ 29-30 ธ.ค.2566

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลวางแผนดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ LGBTQ+ โกยเงิน 4.5 พันล้าน

นายกฯ ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชนฉลอง Pride Month ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ LGBTQ+ สร้างเม็ดเงินในประเทศ 4,500 ล้าน พร้อมผลักดันไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยว Pride Friendly ระดับโลก เป็นเจ้าภาพ World Pride ในปี 2030