สภาพัฒน์จ่อถกคลัง-แบงก์ชาติหามาตรการแก้ปม ‘หนี้ครัวเรือน’

“สภาพัฒน์” จ่อถกคลัง-แบงก์ชาติ งัดมาตรการดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือน ระบุไม่ใช่พักหนี้ หวั่นลูกหนี้เสียวินัยทางการเงิน ด้าน “คลัง” ระบุยังไม่น่าเป็นห่วง เหตุส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อประกอบอาชีพ สร้างความมั่งคั่ง พร้อมโวเศรษฐกิจ 64 โตแกร่งกว่าคาดการณ์ อานิสงส์บริโภค-ลงทุนฟื้นตัว ชมเปาะรัฐบาใช้เงินกู้อย่างเป็นประโยชน์ หนุนทุกส่วนฟื้นตัว

21 ก.พ. 2565 – นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ฯ เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง เพราะมีผลต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งสภาพัฒน์เตรียมจะหารือกับกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่ออกมาตรการดูแลให้เหมาะสมที่สุด แต่คงไม่ใช่มาตรการพักหนี้ เพราะกังวลว่าจะทำให้ลูกหนี้เสียวินัยทางการเงิน

ทั้งนี้ มาตรการแก้หนี้ครัวเรือนจะต้องพุ่งเป้าหมายไปให้ตรงกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ โดยต้องดูข้อมูลให้ชัดเจนเสียก่อน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนไทยในปัจจุบันยังไม่อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง เพราะส่วนใหญ่เป็นการกู้มาเพื่อประกอบอาชีพ เป็นหนี้ที่สะสมความมั่งคั่ง ซื้อสินทรัพย์ ประกอบอาชีพให้รายได้เพิ่ม ขณะที่หนี้เพื่อการบริโภคนั้นยังมีจำนวนไม่มากนัก

“สภาพัฒน์คงเป็นห่วงว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ จะทำอย่างไรให้คนที่มีหนี้ มีรายได้เพียงพอเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและชำระหนี้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นดินพอกหางหมู โดยคาดว่าสภาพัฒน์คงจะเข้ามาหารือกับกระทรวงการคลังในประเด็นนี้” นายพรชัย กล่าว

อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 3/2564 สัดส่วนหนี้จีดีพีของประเทศไทย อยู่ที่ 14.34 ล้านล้านบาท ขยายตัว 4.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ไม่มีนัยยะสำคัญอะไร เนื่องจากเป็นการเติบโตจากฐานต่ำ โดยในจำนวนนี้คิดเป็นหนี้ครัวเรือนเพื่อสะสมทรัพย์สิน และประกอบอาชีพมากว่า 65% ขณะที่หนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.8-2.9% ต่อจีดีพี โดยแบ่งเป็นหนี้ครัวเรือนที่เกิดจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ อยู่ที่ 34.5%, หนี้ที่เกิดจากการซื้อรถยนต์-รถจักรยานยนต์ 12.4%, หนี้ที่ก่อเพื่อการประกอบอาชีพโดยตรง เกือบ 20%

โดยในจำนวนนี้คิดเป็นหนี้ครัวเรือนเพื่อสะสมทรัพย์สิน และประกอบอาชีพมากกว่า 65% ขณะที่หนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.8-2.9% ต่อจีดีพี

สำหรับภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2564 ที่ขยายตัวได้ 1.9% นั้น และทั้งปี 2564 จีดีพีขยายตัว 1.6% สูงกว่าคาดการณ์ที่ 1.2% นั้น สะท้อนความสามารถในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรับบาลได้อย่างชัดเจน มีทั้งแผนการดำเนินงานด้านการป้องกัน และรักษา รวมถึงการใช้เงินกู้ให้เกิดประโยชน์ในการดูแลทุกส่วน ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/2564 การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่การลงทุนภาครัฐก็ขยายตัวได้มากกว่าคาดการณ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มท.เผยยอดไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ 50,830 ราย สำเร็จแล้ว 28,253 ราย

กระทรวงมหาดไทยจึงได้แจ้งให้ทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่องด้วยการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้

'ตั๊ก ศิริพร' โพสต์ฟาดตลกหนุ่ม ด้าน 'จั๊กกะบุ๋ม' วอนชาวเน็ตอย่าด่าถึงครอบครัว

หลังจากที่เป็นประเด็นดราม่าจนถึงขั้นต้องไปเคลียร์กลางรายการ โหนกระแส เมื่อวันก่อน สำหรับเรื่องราวการติดหนี้ของนักแสดงตลก จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม กับ แม่ปูนา รวมถึงเจ้าหนี้รายอื่นๆที่เรียกได้ว่ารายชื่อยาวเป็นหางว่าว

ปชป. ซัดรัฐบาล 'เศรษฐา' หมดสภาพ ขาดความเชื่อมั่น

“ชนินทร์” ปชป. ซัดรัฐบาล “เศรษฐา” หมดสภาพ ขาดความเชื่อมั่น ประจานไร้น้ำยา และจริยธรรม เหตุประมาณการ GDP ถูกปรับลด เตือนรากหญ้าตาย รายใหญ่ไปไม่รอด ประเทศหายนะ

นายกฯ ฝากบอกแบงก์ชาติเป็นองค์กรอิสระ แต่ควรคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ปชช.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขอให้มีการปรับลดดอกเบี้ย ได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ หรือยัง ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายดนุชา แต่ตนทราบมาก่อนแล้ว