
กสศ.ตั้งเป้าหยุดวงจรความยากจนข้ามรุ่น ด้วยการพัฒนาระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษา สร้างโอกาสการศึกษาเสมอภาค ปฐมวัย-อุดมศึกษา 20 ปีไร้รอยต่อ
16 ต.ค.2565 – เมื่อปีการศึกษา 2561 กสศ. และ สพฐ. ได้ร่วมกันคัดกรองและสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนชั้น ม.3 ที่มีสถานะความยากจนในระดับยากจนและยากจนพิเศษจำนวน 106,137 และ 41,884 คนตามลำดับ เพื่อป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาของนักเรียนจากครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน โดย 4 ปีต่อมานักเรียนในกลุ่มนี้จำนวน 20,018 คนสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยผ่านระบบ TCAS65 ได้สำเร็จ คิดเป็นราวร้อยละ 12-14 ตัวเลขนี้อาจเป็นจำนวนไม่มาก แต่นับว่ามีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ TCAS64
โดยล่าสุด ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า นักเรียนทุนเสมอภาค จำนวน 41,884 คน ซึ่งเป็นนักเรียนรุ่นแรกของ กสศ. ที่ได้รับการคัดกรองมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 โดยกสศ. ได้วิจัยพัฒนากระบวนการคัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษด้วยวิธีวัดรายได้โดยอ้อม ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย และคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อชี้เป้าหมาย เด็กและเยาวชนที่มีชีวิตยากลำบากมากที่สุด ร้อยละ 15-20 ของประเทศ ให้ได้รับเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไข หรือทุนเสมอภาค จากกสศ. ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าครองชีพทางการศึกษา โดยมีเงื่อนไขให้ต้องมีอัตราการมาเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80-85 และมีพัฒนาการที่สมวัย
ดร.ไกรยส กล่าวว่า เพราะกสศ.เชื่อว่าเป็นนักเรียนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงหลุดนอกระบบการศึกษาเพราะความยากจนระดับรุนแรง แม้ว่ารัฐจะมีมาตรการเรียนฟรีก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อสถานะครัวเรือนของประชากรกลุ่มนี้ที่มีรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยเพียงเดือนละ 1,044 บาท หรือน้อยกว่าวันละ 35 บาทเท่านั้น โดยจากการติดตามกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ตลอด 4 ปีที่ผ่าน พบว่า เงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขช่วยให้นักเรียนมีอัตราการมาเรียนที่ดีขึ้น ลดอัตราการหลุดออกจากระบบการศึกษา และมีพัฒนาการที่สมวัยมากขึ้น ทำให้จำนวนเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาน้อยลงตามลำดับ รวมทั้งมีแนวโน้มที่จะศึกษาต่อในระดับการศึกษาที่สูงกว่าภาคบังคับมากขึ้น
ดร.ไกรยส กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในระหว่างการศึกษาและประเมินผลที่ กสศ.ทำตลอด 4 ปีที่ผ่านมาพบว่า การทำให้เรื่องโอกาสทางการศึกษาเป็นเรื่องที่ยั่งยืนได้สำหรับนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษ คือการปิดช่องว่างการส่งต่อการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานอย่างไร้รอยต่อ ผ่านการเชื่อมต่อฐานข้อมูลและการทำงานในการส่งต่อนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรและเข้าถึงการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น
“ทำอย่างไรให้การช่วยเหลือในระบบไร้รอยต่อจากอนุบาลถึงอุดมศึกษา เมื่อเราค้นพบเด็กจากการคัดกรองแล้ว ต้องหาทางคุ้มครองเขาไม่ให้หลุดออกจากระบบการศึกษา และส่งต่อให้เขาให้มีโอกาสเรียนให้ได้สูงสุดตามศักยภาพและความมุ่งมั่นของเขาและครอบครัว เด็กทุกคนไม่ว่าเกิดมายากดีมีจนควรมีสิทธิ์บรรลุเป้าหมายการศึกษาสูงสุดที่เขาใฝ่ฝัน สิ่งนี้คือเป้าหมายชีวิตของเขา และเป้าหมายของประเทศ ทั้งหมดคือเรื่องเดียวกัน” ดร.ไกรยส ระบุ
ดร.ไกรยส กล่าวต่อว่า การสนับสนุนเด็กช้างเผือกได้รับการศึกษาสูงสุดอย่างเต็มศักยภาพ เป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจของ “ระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษา” ที่กสศ. ร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รวมทั้งที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่ประชุมคณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และที่ประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎ ในการเชื่อมโยงข้อมูลนักเรียนยากจน/ยากจนพิเศษ ที่ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ผ่านระบบ TCAS และส่งต่อข้อมูลไปยังมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนทั่วประเทศ เพื่อให้จัดหาทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือการสนับสนุนอื่น ๆที่จำเป็นอย่างรอบด้าน เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้มีโอกาสที่เสมอภาคทางการศึกษาของตน และโอกาสที่เสมอภาคในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นประเทศรายได้สูงภายในช่วงชีวิตของเขา
“การพัฒนาระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษา จะช่วยให้ประเทศไทยมีระบบสารสนเทศและฐานข้อมูลรายบุคคลและรายสถานศึกษาระยะยาว ครอบคลุมเด็กเยาวชนที่มาจากครัวเรือนซึ่งมีรายได้น้อยที่สุดของประเทศจำนวนมากกว่า 1.9 ล้านคนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยเหลือสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กเยาวชนเหล่านี้ไม่หลุดออกจากระบบการศึกษาและสามารถศึกษาต่อไปจนถึงระดับสูงสุดตามศักยภาพตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับอุดมศึกษา” ดร.ไกรยส กล่าว
ดร.ไกรยส กล่าวว่า ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการพัฒนาระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษาที่กสศ.และหน่วยงานภาคีเริ่มภารกิจนี้เมื่อปลายปี 2564 ปัจจุบันเยาวชนทั้ง 20,018 คน กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันอุดมศึกษา 75 แห่ง ประกอบด้วย กลุ่มมหาวิทยาลัยกำกับของรัฐมากที่สุด คือ 7,599 คน (ร้อยละ 38) รองลงมาคือสังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏ 5,891 คน (ร้อยละ 29) กลุ่มมหาวิทยาลัยของรัฐ 5,132 คน (ร้อยละ26) กลุ่มมหาวิทยาลัยราชมงคล 1,235 คน (ร้อยละ 6) กลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชนและสถาบันการศึกษาอื่น ๆ 161 คน (ร้อยละ 1) ในจำนวนนี้มีนักเรียน 6 คน สอบผ่านการคัดเลือกเข้ากลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย และเป็นนักศึกษาในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่นของ กสศ. 25 คน
ดร.ไกรยส ชี้ว่า ในอนาคตระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษา จะเป็นเครื่องมือให้หน่วยงานด้านนโยบาย สามารถกำหนดเป้าหมาย และติดตามความก้าวหน้าในการส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับอุดมศึกษา ของประชาชนคนไทยจากครัวเรือนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน เช่น หากกระทรวง อว. ต้องการกำหนดเป้าหมายด้านความเสมอภาคทางการศึกษา ให้นักเรียนยากจน/ยากจนพิเศษมีโอกาสในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าใกล้เคียงกับนักเรียนจากครัวเรือนที่มีฐานะดีในระดับเดียวกับกลุ่มประเทศรายได้สูงภายใน 10 ปี ระบบหลักประกันฯ นี้ก็จะสามารถช่วยเป็นเครื่องมือในการจัดทำนโยบาย และ เป็นเครื่องมือติดตามนโยบาย ในการลดความเหลื่อมล้ำจาก 6 เท่าเหลือ 1.4 เท่าซึ่งเทียบเท่ากับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วได้
“ฐานข้อมูลจากระบบหลักประกันฯ ยังสามารถใช้สนับสนุนการวิจัยพัฒนานโยบายสาธารณะ เพื่อสนับสนุนมาตรการระยะยาวในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับอุดมศึกษา รวมทั้งสนับสนุนการเชื่อมโยงมาตรการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับอุดมศึกษาในอนาคต เพื่อให้เด็กเยาวชนและครอบครัวทุกระดับรายได้ และทุกพื้นที่ในประเทศไทยมีความมั่นใจว่าระบบการศึกษาไทยมี “หลักประกันโอกาสทางการศึกษา” ให้แก่นักเรียนทุกคนบรรลุเป้าหมายทางการศึกษาได้ตามขีดความสามารถและความมุ่งมั่นของพวกเขาอย่างแท้จริง มิใช่เพราะฐานะทางเศรษฐกิจ มิใช่เพราะความห่างไกล หรือปัจจัยอื่นๆ” ดร.ไกรยส ระบุ
ดร.ไกรยส กล่าวด้วยว่า โอกาสทางการศึกษา คือการลงทุนที่สร้างผลกระทบและให้มูลค่าตอบแทนที่สูงที่สุดต่อประเทศ โดยเฉพาะการสร้างระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษา ให้เด็กเยาวชนสามารถก้าวข้ามรอยต่อในระบบการศึกษา อันเกิดจากปัญหาความยากจนด้อยโอกาสต่างๆ และพัฒนาตนเองไปสู่ระดับการศึกษาสูงที่สุดเท่าที่ศักยภาพจะพาไปถึง ซึ่งจะส่งผลถึงรายได้จากการประกอบอาชีพหลังจบการศึกษา โดยประชากรกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นแรกของครอบครัวที่จบการศึกษาสูงกว่าพ่อแม่ ที่เดิมมีค่าเฉลี่ยระดับการศึกษาสูงสุดเพียงชั้นประถมศึกษาหรือเทียบเท่า มากกว่า 10 ปี แล้วเมื่อวันที่คนรุ่นนี้มีรายได้สูงขึ้นกว่าคนรุ่นก่อน ย่อมหมายถึงการเปิดประตูสู่โอกาสในชีวิตที่มากกว่า และแน่นอนว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสถานะทางสังคม เศรษฐกิจ และหยุดวงจรความยากจนที่ส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น ให้สิ้นสุดลงในรุ่นของพวกเขา
ดร.ไกรยส ระบุว่า จากการประมาณการรายได้ตลอดช่วงชีวิตการทำงาน(อายุ 22-60 ปี) และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ในกรณีที่นักศึกษา 20,018 คนจากครัวเรือนรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนจะได้รับ เมื่อพวกเขาสำเร็จการศึกษา ซึ่งคำนวณจากมูลค่าทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากข้อมูลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร ปี 2562 โดยใช้สมมติฐานอัตราคิดลด ที่ 3% จะเท่ากับว่าคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัย จะมีรายได้สูงกว่าคนที่เรียนจบแค่ชั้น ม.3 แล้วหลุดไปจากระบบการศึกษา เพิ่มขึ้นถึงคนละ 3.6 ล้านบาท จำนวนนี้ถ้าคูณ 20,018 คนเข้าไป เท่ากับว่าถ้าเราคุ้มครองดูแลให้ทุกคนจบการศึกษาและเข้าไปประกอบอาชีพได้ ประเทศไทยจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 72,000 ล้านบาท ในระยะเวลาราว 20-30 ปีข้างหน้านี้ ยังไม่รวมผลตอบแทนทางสังคมด้านอื่นๆ อีกมากมาย
“จะเห็นว่ามูลค่าที่กล่าวถึงนี้ไม่ได้เป็นเพียงผลตอบแทนส่วนบุคคลของเด็กกลุ่มนี้ แต่เป็นการลงทุนต่อประเทศที่สำคัญ ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยต้องการจะก้าวออกจากกับดักรายได้ปานกลางภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ตั้งไว้ เพราะเมื่อตัวเลขของเยาวชนกลุ่มนี้ขยับขึ้นไปจาก 14% ในอนาคต เราอาจจะหลุดออกจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้ไม่ช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ในภูมิภาคนี้” ดร.ไกรยส ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถึงงานหนักแต่ไม่ทิ้งเรียน 'แอ้ม ชลธิชา' กับชุด ม.ปลาย สดใสรับเปิดเทอม
ครบ 1 ล้านวิวเป็นที่เรียบร้อย กับซิงเกิลล่าสุด “ห่อข้าวสาวบ้านนอก” ของศิลปินดาวรุ่งจากแกรมมี่โกลด์ "แอ้ม ชลธิชา" โดยเพลงนี้ก็บอกเล่าความเป็นตัวตนของแอ้ม รวมถึงชีวิตของหลายๆคนที่เข้ามาสู้ชีวิตโดยมีต้นทุนแรงใจของครอบครัวเป็นห่อข้าวที่ช่วยเติมพลังให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า
สลด! เด็กเรียนเก่งเพิ่งจบ ม.6 ผูกคอตายคาห้องนอน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอำนาจเจริญรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ รับแจ้งเหตุ หญิงสาวอายุ 19 ปี ผูกคอตายที่บ้านพัก ในหมู่บ้านโคกช้างฮ้าย
ผู้ปกครองเฮ! 'จุรินทร์' คิกออฟพาณิชย์ลดราคา 6 พันรายการ รับเปิดเทอม
'จุรินทร์' คิกออฟ พาณิชย์ลดราคา! 'Back to School' รับเปิดเทอม กระหน่ำลดราคา ชุด นร. - อุปกรณ์การเรียน -เน็ต รวมกว่า 6 พันรายการ หั่นสูงสุด 85% ถึง 31 พ.ค.
ลมหนาวระลอกใหม่ทำครูบุรีรัมย์พาลูกศิษย์มาเรียนกลางแดด
อากาศหนาวเย็นฉับพลันอีกระลอก ครูโรงเรียนบ้านหนองสะแก จ.บุรีรัมย์พานักเรียนออกมานั่งเรียนกลางแดดเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายสลับกับเรียนในห้อง
ยุ่งแล้ว 'ครู' ฮึ่ม! ต้าน ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ
นายประทุม เรืองฤทธิ์ ประธานสมาพันธ์ครูภาคใต้ เปิดเผยว่าแกนนำเครือข่ายครูภาคใต้จำนวน 10 คน ได้เดินทางไปสมทบกับองค์กรครู