รัฐบาลเกาะติดบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว

นายกฯ ติดตามการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว วางแนวทางแก้ปัญหาให้แรงงานอยู่ต่อ และทำงานเป็นการชั่วคราวได้ถึงวันที่ 31 ก.ค. 66 หากยื่นเอกสารไม่ทัน แก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน

21 มิ.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และรองรับการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ ภายหลังรัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความคุ้มครอง ดูแลสิทธิตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอเกี่ยวกับการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว จำนวน 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. แรงงานต่างด้าว MOU 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่วาระการจ้างงานครบกำหนด 4 ปี และ 2. แรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งไม่สามารถจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางและการตรวจลงตราได้ทันภายในวันที่ 15 พ.ค.2566 ให้สามารถอยู่ต่อและทำงานเป็นการชั่วคราวได้ถึงวันที่ 31 ก.ค. 2566 โดยแนวทางการจัดการดังกล่าวจะช่วยให้แรงงานสามารถจัดเตรียมเอกสารได้อย่างถูกต้องครบถ้วนตามขั้นตอน และเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ยังต้องการแรงงานเพื่อดำเนินกิจการในช่วงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นายอนุชากล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางการจัดการดังกล่าวของรัฐบาลได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งผู้ประกอบการธุรกิจและแรงงาน ซึ่งเป็นกระแสขอบคุณการทำงานของรัฐบาลที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที มีมาตรการเชิงรุกในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวของประเทศ ช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวกว่า 3 - 4 แสนคน ที่ประสบปัญหาไม่สามารถจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางและการตรวจลงตราได้ทัน รวมถึงเป็นการทำงานที่ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น

“นายกฯ ให้ความสำคัญกับภาคแรงงาน รวมถึงแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลให้การดูแล วางแนวทางเชิงรุกแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่อง และเร่งด่วน เพื่อรองรับการฟื้นตัวโดยรวมของประเทศ ทั้งนี้ นายกฯ เชื่อมั่นว่า มาตรการที่สอดคล้องของรัฐบาลจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการและแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ภาคธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในระบบ ซึ่งการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบแบบแผนของรัฐบาลจะช่วยแก้ไขปัญหา ดูแลแรงงานได้อย่างทั่วถึง เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นายอนุชากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'DE GIFT' (เดอ กิฟท์) เตรียมปล่อยของ โชว์ Performance ที่เวียดนาม

เพิ่งเดบิวท์เปิดตัวซิงเกิล “จะแคร์เพื่อ "Who Cares?" มาบุกตลาด T-Pop ได้ไม่ทันไร ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ไฟแรงวง 'De GIFT’ (เดอ กิฟท์) ภายใต้สังกัด Just Dance Entertainment ที่มาพร้อมกับแนวเพลง Pop Dance & Performance อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตัวแทนของหญิงสาวยุคใหม่ที่พร้อมจะนำเสนอตัวตนและความมั่นใจในแบบของตัวเอง

'สมช.' แจงไทยมี 3 จุดยืนในสถานการณ์เมียนมา

'สมช.' เข้าแจง 'กมธ.มั่นคงฯ' เพื่อรายงานการรับมือผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในเมียนมา ย้ำ 3 จุดยืน รักษาอธิปไตยไทย-ไม่ยินยอมให้ใช้ดินแดน-ดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรมสากล

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ