'บิ๊กตู่' ปราศรัยอุดรธานี ลั่นนโยบาย รทสช.ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เปรียบเป็นนักบินแก่พาผู้โดยสารปลอดภัย

"บิ๊กตู่" เว้าอีสาน "สบายดีบ่ คิดฮอดหลายๆเด้อ" ย้ำเหตุผลที่ต้องอยู่ต่ออีก 2 ปีเพื่อสานต่องานที่ค้างอยู่ เปรียบตัวเองเป็นกัปตันแก่ขับเครื่องบินประเทศไทย ถึงอายุมากแต่มากประสบการณ์ พาผู้โดยสารให้ปลอดภัยในยามวิกฤต

24 เม.ย.2566 - เวลา 10.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการ กำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และคณะ เดินทางถึงวัดอัมพวันวิทยาราม ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี เพื่อกราบสักการะหลวงปู่แก้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนกราบนมัสการ เจ้าเอาวาสวัดอัมพวันฯ โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ช่วงนี้อากาศร้อนฝนอาจจะตกล่าช้าและคลาดเคลื่อนไปบ้าง ก็ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้น้ำทั้งน้ำอุปโภคและน้ำทางการเกษตรถ้าโชคดีบ้านเมืองสงบเรียบร้อยฝนฟ้าก็จะตกต้องตามปกติ แต่ถ้าวุ่นวายกันมากๆฟ้าฝนก็อาจจะไม่ตกตามฤดูกาลหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหามาตลอด และถ้าได้ทำต่อก็จะทำและแก้ปัญหาต่อไปเพราะมีบางเรื่องที่ยังทำไม่ครบจึงต้องทำแล้วทำอยู่และทำต่อ

ช่วงหนึ่งมีประชาชนสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่าทำไมถึงดูไม่แก่ พล.อ.ประยุทธ์ ร้องอ้าว ก่อนจะตอบว่า ก็เป็นเพราะมีกำลังใจจากพวกเราทุกคนซึ่งก็จะดูแลและแก้ปัญหาไปเรื่อยๆทั้งเรื่องการเพิ่มรายได้ก็ขอให้ช่วยลุงหน่อยนะ ดีใจที่ได้มาจังหวัดอุดรและมีประชาชนมาต้อนรับรู้สึกมีกำลังใจ บ้านเมืองของเราจะต้องค่อยๆแก้และดีขึ้นเรื่อยๆเพราะปัญหามีมาก ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ที่พวกเราว่าจะเลือกใครเข้ามาทำงานให้

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมายังหอประชุม อ.กุดจับ เพื่อปราศรัยหาเสียงช่วย นายผดุงศักดิ์ หันจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 เบอร์ นายนิธิศ ประกอบใส ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 เบอร์ 10 และนายทรงกิตติ สุวรรณทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 10 เบอร์ 2 โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สบายดีบ่ คิดฮอดหลายๆเด้อ ขอถือโอกาสเล่าความในใจ ตนอยากเดินทางกลับมาบ้านเกิดเพราะบ้านตนเกิดที่โคราช แม่เป็นคนชัยภูมิเพราะฉะนั้นตนถือว่าตนเป็นคนอีสาน แล้วทำไมจะไม่คิดถึงชาวอีสาน ทุกวันนี้ได้แต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ชาวอีสานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ตนซาบซึ้งและเห็นถึงน้ำใจไมตรีของทุกคนและต้องขอขอบคุณ ที่ผ่านมาได้ทำงานมาแล้วหลายอย่างทำแล้วทำอยู่และก็จะทำต่อหากมีโอกาสสิ่งสำคัญในการบริหารประเทศจะต้องมองทุกคนและมองในภาพกว้างว่าเราจะพัฒนาประเทศและพัฒนาคนให้มีรายได้อย่างไร รวมทั้งการหารายได้เข้าประเทศมือซ้ายเราจะต้องหาเงินเข้าประเทศ ขณะที่มือขวาเราก็ต้องหาเงินสร้างรายได้ให้กับคนในประเทศ แต่ถ้ารู้จักใช้แต่เงินแต่ไม่รู้จักการหาเงินมันก็ลำบากที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดูแลทุกคนให้เกิดความเท่าเทียม

“ที่ผ่านมาเราไม่เคยเสียชื่อในเรื่องการรักชาติบ้านเมือง ดังนั้นการรักชาติรักบ้านเมืองจะต้องทำให้ถูกวิธี เราจะต้องนำเอาความรักความสามัคคีมาพัฒนาบ้านเมืองของเราไปให้ได้ หลายอย่างผมยอมรับว่ายังทำไม่สำเร็จแต่หลายอย่างก็ได้ทำไปแล้ว และยังมีหลายอย่างที่เราต้องทำต่อ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ผมจะต้องทำงานต่ออีก 2 ปี ถ้าอยู่ได้ตามนั้นเพราะจะได้สืบสานสิ่งที่ทำไว้แล้วและส่งต่อไปให้กับคนใหม่ทำให้ดีต่อไปในอนาคต

การเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใครแต่ถ้าใครทำอะไรที่ไม่ดีไม่ถูกต้องผมก็ยอมรับไม่ได้ คนเราต้องเคารพนับถือกันในสิ่งเหล่านี้ การทำงานที่ผ่านมายืนยันว่าผมทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและไม่เคยพูดความเท็จ ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินเพื่อประชาชนเพื่อประเทศชาติ ซึ่งทำมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่สมัยเป็นทหารเป็นผบ.ทบ. ผมเองได้สาบานไว้แล้วว่าจะซื่อสัตย์สุจริต ไม่พูดความเท็จ ในอดีตขณะรับราชการทหาร พื้นที่ภาคอีสานก็เคยปกป้องเอาไว้ จากสถานการณ์สู้รบกับประเทศเพื่อนบ้าน และในสถานการณ์โควิด-19 ก็ขอให้ทุกคนระมัดระวัง ผมให้เกียรติทุกคน จะไปดัดจริต ไม่ให้คนเข้าใกล้ก็ไม่ได้ ยอมรับว่าเสี่ยงเหมือนกัน ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เราต้องทำทุกอย่างให้เจริญเติบโต ไปเรื่อยๆ เพื่อลูกหลานของพวกเรา ประเทศไทยจะดีขึ้นได้เพราะคนไทยรักและสามัคคีกันนั่นคือพื้นฐานสำคัญ ตนโกรธใครไม่ได้ เราต้องอยู่อย่างเท่าเทียมกันเพื่อคนไทยทุกคน จะทำให้ทุกคนได้รับถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม นี่คือสิ่งที่ตนต้องทำให้กับคนไทยทุกคน เหมือนกับการเลี้ยงลูกต้องเลี้ยงอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่แจกเงินอย่างเดียวแต่หาเงินไม่เป็นแล้วจะเอาเงินที่ไหนมา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ถ้าเปรียบประเทศไทยเหมือนเครื่องบินลำหนึ่ง ลักษณะกลางเก่ากลางใหม่ ที่ปลอดภัย สำคัญที่นักบิน มี 2 คน คนหนึ่งเป็นกัปตัน อีกคนเป็นผู้ช่วยนักบิน ดังนั้นคนเป็นกัปตันต้องเก่งกว่า และ กัปตันก็มีแต่คนแก่ๆ เหมือนตนเอง จึงขอถามชาวกุดจับว่า อยากจะขึ้นเครื่องบินที่มีกัปตันมากประสบการณ์ หรือ จะเอาวัยรุ่นมาขับเครื่องบิน ขอให้มั่นใจว่าอย่างไรก็ถึงที่หมาย เพราะกัปตันอย่างตนมีประสบการณ์ รู้ปัญหาทุกอย่าง ถ้าแก้ได้แก้ไขไปหมดแล้ว สิ่งที่อยากเตือนพวกเราสิ่งที่เสนอว่าจะให้ อยากดูว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะแก้ได้หรือไม่ เด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาไม่ทันการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ แต่อยากจะเห็นอะไรใหม่ๆทันทีทันใดคงไม่ได้ ต้องดูการเปลี่ยนแปลงในอดีตด้วย ความเจริญต้องอาศัยเวลา สิ่งสำคัญอย่าทิ้งสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนทุกคน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีหลายอย่างอยากทำมาก ตนไม่อยากให้ทุกคนมีความทุกข์อยากให้ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ตนไม่ได้ดีกว่าใคร แต่คิดเสมอว่าตราบใดถ้ายังแก้ปัญหาให้พวกท่านไม่ได้ก็จะทำต่อเลยมาอยู่ตรงนี้มาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนั้นถ้าให้ลุงตู่อยู่ต่อต้องเลือก ส.ส.เขตพรรครวมไทยสร้างชาติทุกเขตเลือกตั้งเพื่อให้เข้าไปทำงานในสภา และเลือกเบอร์ 22 เบอร์ของพรรค

“พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายที่จะทำเพื่อประชาชนจำนวนมากเราเลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้ เพราะทุกพื้นที่คือคนไทยตนต้องช่วยทั้งหมด ตนต้องไม่โกหก พูดอะไรไว้ก็ต้องทำ วันนี้อายุ 70 ปีแล้ว ถ้าเป็นนักบินก็แก่แล้วแต่ยังมีสมรรถภาพ เป็นนักบินมีประสบการณ์ เวลาเกิดอากาศวิกฤตนักบินที่มีประสบการณ์จะช่วยนำพาเครื่องบินให้ปลอดภัยได้ ถ้าเป็นเด็กอาจจะตกใจ แต่ตนมีประสบการณ์ขับเครื่องบินลำนี้ได้ วันนี้จึงต้องมาขอร้องด้วยความจริงใจต่อกัน พร้อมเตือนประชาชน ในช่วงหาเสียงมีการเสนอว่าจะให้มากมาย ขอให้พิจารณาด้วยว่าหากเป็นรัฐบาลแล้วจะให้ได้อย่างนั้นหรือไม่ หากทำไม่ได้ประชาชนจะว่าอย่างไร เพราะเขาไม่พูดถึงวิธีการหาเงิน พูดแต่เรื่องการให้เงินเพียงอย่างเดียว”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงนโยบายต่างๆในช่วงที่เป็นรัฐบาล และทำมาอย่างอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องโควิด การก่อสร้างถนนหนทาง การแก้ปัญหายาเสพติด โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งการติดต่อกับต่างประเทศเพื่อหารายได้รวมทั้งการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย พร้อมกล่าวว่าที่เล่าให้ฟังเช่นนี้ไม่ใช่การทวงบุญคุณ และขอย้ำว่า ถ้ามีคนมาบอกว่าเลือก ส.ส.พรรคอื่นเข้าสภาแล้วจะไปสนับสนุนลุงตู่อย่าไปเชื่อเด็ดขาดเพราะตนอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติพรรคเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันชาวบ้านตะโกนถาม ขอให้รับปากสัญญาว่า จะสร้างถนน อุดรฯ-สุวรรณคูหา ให้เป็นถนน 4 เลนให้ หากได้เป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะรับไปดูให้ว่าอยู่ในแผนดำเนินการหรือไม่ ส่วนเรื่องค่าไฟฟ้าแพง ที่ชาวกุดจับได้สอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า ต้องกลับดูที่ต้นทุน โดยเฉพาะราคาก๊าซ และ น้ำมันที่แพง ต่อไปต้องหาพลังงานทดแทน และยกเลิกการใช้น้ำมันในอนาคต สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 300 หน่วย รัฐบาลดูแลอยู่ใช้เงินดูแลกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งรับไว้จะไปแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด เพราะไม่ใช่หน่วยงานที่เข้าไปสั่งการได้ทั้งหมด เนื่องจากมีบางส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจ และ บริษัทเอกชน มีกฎหมายรองรับอยู่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) เพราะต้องใช้งบกลางเข้ามาดูแล ในส่วนเรื่อง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะเพิ่มให้ แต่คนที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ จะมีการพิจารณาทบทวน

“รอบนี้มีผู้ได้สิทธิ์ 14 ล้านคน โครงการคนละครึ่งอีก 25 ล้านคน แต่รัฐบาลไม่ได้ดูแลเฉพาะคนแค่อำเภอกุดจับ แต่ต้องดูแลคนทั้ง ประเทศ หากดูเฉพาะเพียงอำเภอเดียว จะพาขึ้นยานอวกาศไปเที่ยวให้หมดเลย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในโลกออนไลน์ปัจจุบัน มีทั้งติชม แต่ด่าจะมากหน่อย ซึ่งไปโกรธใครไม่ได้ บางที ก็รอดูในโทรทัศน์ว่าจะมีคนถามอะไรหรือไม่ก็ไม่เห็นมีใครถามแต่ในโลกดิจิทัล มีทั้งชมมีทั้งว่าแต่คนด่ามีจำนวนมาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เสี่ยเฮ้ง' เข้าทำเนียบฯ ดอดขึ้นหลังตึกไทยคู่ฟ้า พบนายกฯ หลังมีชื่อนั่ง รมต.

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทำเนียบรัฐบาล ในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่คาดว่ารายชื่อใกล้จะแล้วเสร็จ ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวบนตึกไทยคู่ฟ้าในช่วงบ่ายว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เรียกรัฐมนตรีที่มีรายชื่อติดโผเข้าพบ

'พีระพันธุ์-เอกนัฏ' ถกโผ รทสช. สะพัด 'สุชาติ' กรอกคุณสมบัติแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.45 น. นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางเข้าพบ นายพีระพันธุ์ สา

'รทสช.' ดีเอ็นเอพรรค คือ 'ลุงตู่' สู้ทุกปัญหาพึ่งพาได้ทุกเรื่อง

รวมไทยสร้างชาติจัดประชุมใหญ่ประจำปี “พีระพันธุ์”ย้ำหนักแน่นดีเอ็นเอของพรรค คือ “ลุงตู่” ขอเป็นพรรคที่สู้ให้ทุกปัญหาพึ่งพาได้ทุกเรื่อง “เอกนัฏ” ตั้งเป้าดัน “พีระพันธุ์”นั่งนายกฯ