‘ผบ.ทบ.’ นำ 211 นายพล ที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น ถวายสัตย์ปฏิญาณตน กล่าวคาถาในดวงตรามหาจักรี รักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ธำรงเกียรติยศศักดิ์ศรีทหาร
2 ต.ค. 2566 – พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีแก่นายทหารชั้นนายพล สังกัดกองทัพบก ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้น ประจำปี 2566 โดย ผบ.ทบ. ได้กล่าวแสดงความยินดีพร้อมทั้งให้โอวาท เพื่อเป็นสิริมงคลและขวัญกำลังใจแก่นายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพล ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนยศสูงขึ้นทุกนาย
พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมว่า การที่ภารกิจของกองทัพบกสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันที่เป็นรากฐานด้านความมั่นคงของชาตินั้น มีกำลังพลทุกนายเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนให้สัมฤทธิ์ผลเป็นรูปธรรม ด้วยความเสียสละ อุทิศตน ปฏิบัติหน้าที่อย่างประสานสอดคล้องกัน โดยยึดถือเอกราชและอธิปไตยของชาติ รวมถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นเป้าหมาย ส่งผลให้กำลังพลทุกนายได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา จนทำให้ได้เลื่อนยศสูงขึ้นในครั้งนี้ และขอให้กำลังพลทุกนายพัฒนาตนเองให้ทันสมัย ก้าวทันเทคโนโลยี เพื่อนำไปพัฒนาระบบงานให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
จากนั้น พล.อ.เจริญชัย ได้นำคณะนายทหารชั้นนายพล ที่ได้รับพระราชทานชั้นยศสูงขึ้น กระทำพิธีกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตน เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5
โดยในปีนี้ นายทหารสัญญาบัตรสังกัดกองทัพบกที่ได้รับพระราชทานชั้นยศสูงขึ้น เป็นพลเอก 15 นาย พลโท 55 นาย พลโทหญิง 1 นาย พลตรี 122 นาย และพลตรีหญิง 18 นาย รวมเป็นจำนวน 211 นาย ซึ่งนายทหารทุกนาย ได้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ราชการ ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ และมีประสิทธิภาพ จนได้รับการเชื่อถือและไว้วางใจ ส่งผลให้ได้ดำรงยศสูงขึ้นในชั้นนี้
พล.อ.เจริญชัย กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณตนว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศให้กับนายทหารชั้นนายพลของกองทัพบกนั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นเกียรติยศอันสูงยิ่งของการรับราชการ ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา ปวงข้าพระพุทธเจ้า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยแห่งนี้ขึ้น ทั้งยังทรงมีพระเมตตาเปิดโอกาสให้ลูกหลานของประชาชนชาวไทยทั่วไป ได้เข้าศึกษาเล่าเรียน โดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ เพื่อให้ได้เข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณ ช่วยกันปกปักรักษาเอกราช อธิปไตย ของประเทศชาติราชอาณาจักรไทยให้อยู่มาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ปวงข้าพระพุทธเจ้ายังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงพระราชทานกระบี่ และพระราชทานยศนายทหารสัญญาบัตรมาโดยตลอด
“ห้วงเวลาการรับราชการที่ผ่านมาพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่องค์พระมหากษัตริย์องค์จอมทัพไทย แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์มีต่อปวงข้าพระพุทธเจ้า ปวงข้าพระพุทธเจ้า จักสำนึกและเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พร้อมทั้งขอถวายสัตย์ปฏิญาณจักจงรักภักดี จักยอมอุทิศตน พร้อมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องและรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของประเทศชาติราชอาณาจักรแห่งนี้ และจักเทิดทูนรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดซานุภาพแห่งองค์ พระมหากษัตริย์เจ้าพระบรมราชจักรีวงศ์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่” ผบ.ทบ. ระบุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้สั่งทำความเคารพ และขอให้ทุกคนนั่งคุกเข่าพนมมือ โดย พล.อ.เจริญชัย ได้ให้นายพลกล่าวถวายคำสัตย์ปฏิญาณตน กล่าวคาถาในดวงตรามหาจักรี “ติระตะเน สะกะรัฏเฐ จะ…สัมพังเส จะ มะมายะนัง สะกะราโชชุจิตตัญฺจะ.. สะกะรัฏฐาภิวัฑฒะนังฯ ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า และจักธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของทหาร”
หลังจากนั้นทั้งหมดเปล่งเสียงกล่าวปฏิญาณพร้อมกัน 3 ครั้ง ความว่า “ข้าพระพุทธเจ้าจะรักษามรดกของท่านไว้ด้วยชีวิต”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'รังสิมันต์' สบช่องโหนแดนกิมจิบอกไทยถ้าประกาศกฎอัยการศึกควรขอสภาก่อน!
'โรม' บอกเรื่องเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก เป็นเรื่องภายในประเทศ มองเทียบไทยถ้าประกาศควรขอความเห็นสภา ชี้หลักการสำคัญทั่วโลก ทหารต้องอยู่ใต้พลเรือน
ปลื้มปีติ 'ในหลวง' เสด็จฯ ไปในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ครั้งแรกในรัชกาลที่ 10
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ราชวัลลภ เทิดไท้จอมราชา 72 พรรษามหามงคล ณ พระลานพระราชวังดุสิต
'ธนกร' ขอเร่งช่วย 'ผู้ป่วยติดเตียง-เด็ก-คนแก่' ในเหตุน้ำท่วมชายแดนใต้
'ธนกร' ขอรัฐบาล-กองทัพ เร่งเข้าช่วยผู้ป่วยติดเตียง เด็ก-คนแก่เหตุน้ำท่วมชายแดนใต้ ฝาก นายกฯ-มท.1 วางแผนรับมือหลังอุตุฯ เตือน 13 จังหวัดใต้รับผลกระทบแน่ ชี้ ต้องแก้ปัญหาระยะยาว ป้องกันท่วมซ้ำซาก
ผบ.ทบ. ร่วมพิธีปิดทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธี กลุ่มประเทศอาเซียน ทหารหญิงไทยคว้ารางวัล
พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทาง ร่วมในพิธีปิดการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธีกองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 32 (The 32nd ASEAN Armies Rifle Meet - AARM) หรือ AARM 2024
ผบ.ทบ. เซ็น แต่งตั้ง-โยกย้าย ผู้บังคับกองพันทั่วประเทศ 461 นาย
การแจกจ่ายคำสั่งกองทัพบกที่ 442/ 2567 โดยมี พ.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนาม เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับผู้บังคับกองพันทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 461 นาย
'เหล่าทัพ' พร้อมจัดพิธีสวนสนาม ถวายสัตย์ฯทหารรักษาพระองค์ ครั้งแรกในรัชกาลที่ 10
พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงภายหลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เน้นย้ำให้กองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ