“จตุพร” เผยอดีตนายกฯ ทักษิณโทรสั่งตรงให้ไปพบ “สมเด็จฮุนเซน” หลังเหตุการณ์ปี 53 พูดคุยกันด้วยไมตรีหลายครั้งแต่ยืนยันไม่เคยลี้ภัย แม้มีเฮลิคอปเตอร์เตรียมรับที่ชายแดน ชี้ความสัมพันธ์ส่วนตัวต้องไม่แทรกแซงผลประโยชน์ชาติ โดยเฉพาะเรื่องบูรณภาพดินแดน
17 มิถุนายน 2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวระหว่างการไลฟ์รายการ “ประเทศไทยต้องมาก่อน” เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ถึงกระแสข่าวการลี้ภัยทางการเมืองว่า ตน ไม่เคยหนีจากประเทศไทยไปลี้ภัยที่กัมพูชา แม้เคยมีคำแนะนำให้หลบหนีหลังเหตุการณ์ล้อมปราบปี 2553
“ผมไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แม้จะมีข่าวว่ามีเฮลิคอปเตอร์จากฝั่งกัมพูชาเตรียมไว้รับทุกครั้งที่มีการยื่นถอนประกัน แต่ผมไม่เคยไปแม้แต่ครั้งเดียว” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพร เปิดเผยว่า หลังเหตุการณ์ปี 53 อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เคยโทรสั่งให้ไปพบท่านสมเด็จฮุนเซน ซึ่งต้องการพูดคุยด้วย โดยมีการนัดพบกันที่บ้านพักของสมเด็จฮุนเซน พร้อมทั้งมีการสนทนากับสมาชิกในครอบครัว รวมถึงพล.อ.ฮุน มาเนต และคนไทยอีก 2 คนที่อยู่ในวงพูดคุยด้วย
“เราคุยกันด้วยมิตรภาพที่ดี แต่ผมไม่เคยคาดคิดว่า หากตระกูลชินวัตรได้กลับมาเป็นนายกฯ จะมีปัญหาเรื่องดินแดน”
นายจตุพรย้ำว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวต้องแยกออกจากผลประโยชน์ของชาติอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะในเรื่อง “บูรณภาพแห่งดินแดน” ซึ่งไม่ควรนำความสัมพันธ์ใดมาแลก หรือแทรกแซง
“ถ้าแยกกันไม่ได้ ผมก็คือคนขายชาติ ฉะนั้นต้องชัดเจนในจุดยืน”
นายจตุพรยังกล่าวถึงท่าทีของสมเด็จฮุนเซนและนายกฯ ฮุน มาเนต ว่าเป็นเรื่องของการรักษาผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชา และขอให้แยกเรื่องส่วนตัวออกจากประเด็นระหว่างประเทศ เพราะ “ชาติต้องมาก่อน”
เขายังเล่าถึงความทรงจำกับสมเด็จฮุนเซนว่า มีหลายครั้งที่ได้พบกัน พร้อมทักษิณและคนไทยกลุ่มหนึ่ง โดยสมเด็จฮุนเซนได้เล่าชีวิตการต่อสู้กับขบวนการเขมรแดง การพลัดพรากจากลูกชาย และการสูญเสียดวงตา จตุพรกล่าวว่า ฮุนเซนเรียกตนว่า “ไอ้น้องชาย” เสมอ และตนก็ตอบกลับด้วยความเคารพเรียกว่า “สมเด็จ” ทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายจตุพรย้ำชัดว่า การพูดถึงฮุนเซนในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะบนเวทีอภิปราย สื่อ หรือรายการของตน ล้วนเป็นการ ให้เกียรติอย่างเต็มที่ และแสดงความขอบคุณในน้ำใจที่สมเด็จฮุนเซนเคยดูแลเพื่อนร่วมอุดมการณ์คนไทยที่ต้องไปพำนักที่กัมพูชา
“แม้เคยมีหลายประเทศติดต่อให้ผมไปอยู่หลังปี 53 เพราะมีข่าวว่าจะถูกตามฆ่า แต่ผมเลือกเสี่ยงตายอยู่ในประเทศไทย เพราะนี่คือบ้านของผม” นายจตุพรกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นัสเซอร์-พิชิต สองแกนนำ คปท. จากม็อบถูกปรามาส สู่ผู้เขย่าระบอบชินวัตร
สถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ ในแวดวงมองตรงกันว่า อยู่ในช่วงรอผลการพิจารณาคดีสำคัญทางการเมือง 2 คดี นั่นก็คือ คดีสมาชิกวุฒิสภายื่นคำร้องขอถอดถอนแพทองธาร ชินวัตร
'ทักษิณ' ต้นเหตุประเทศตีบตัน ดิ้นขอ 'ดีลใหม่' หวังหาทางรอด
บนความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือ ใจกลางปัญหา และมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงหรือเกิดวิกฤตจนถึงทางตัน
‘เอี่ยม’ โยนปมงูเห่า 8 หลัก เป็นเรื่องในภูมิใจไทย แขวะเคลียร์กันเอง
สส.เพื่อไทย “อนุสรณ์” สวนกลับปม “งูเห่าค่าตัว 8 หลัก” หลัง “ภราดร” ปูดกลางสื่อ บอกเป็นเรื่องในพรรคภูมิใจไทย แนะเคลียร์กันในพรรคก่อนให้สัมภาษณ์คนละม้วน พร้อมย้ำเพื่อไทยไม่มีเหตุผลต้องง้อเสียงใครเพิ่ม เตือนฝ่ายค้านอย่าประมาทเกมนับองค์ประชุม
‘เด็จพี่’ โผล่ซัด! พวกมือไม่พาย ตั้งแง่ทักษิณ
อดีตโฆษกเพื่อไทย โต้เสียงวิจารณ์กรณี “ทักษิณ” ร่วมถกทีมเศรษฐกิจ รับมือภาษีสหรัฐ ชี้ผลดีตกกับประชาชน แนะฝ่ายต่อต้านแยกอคติส่วนตัวออกจากประโยชน์ชาติ ย้ำ “แพทองธาร” กำลังใจดี ลุยทำงานแม้ถูกต้าน พร้อมเชื่อมือฝ่ายกฎหมายชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกประเด็น
แสบ! 'เจิมศักดิ์' ร่างหนังสือลาออกให้ 'แพทองธาร' ก่อนศาลรธน.ฟัน
"เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง" ระบุ “แพทองธาร” ควรลาออกก่อนถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้นตำแหน่งด้วยเหตุขาดจริยธรรมร้ายแรง
'ธรรมนัส' ปัดคุยการเมือง 'แม้ว' ที่บ้านพิษฯ บอกร่วมถกภาษีสหรัฐ เพราะเชี่ยวชาญ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แจงไปบ้านพิษณุโลกในนามกระทรวงเกษตรฯ ไม่ใช่เรื่องการเมือง