'ปอยส่างลอง' ต้องไปเห็นสักครั้ง เป็นบุญตา

ประเพณีปอยส่างลอง  มีเอกลักษณ์ที่แสนโดดเด่น งดงาม ยิ่งใหญ่อลังการ  เป็นประเพณีหนึ่งเดียว ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน  และเป็นงานบุญที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด  อันเกิดจากความเชื่อและศรัทธาของชาวไทใหญ่ต่อพุทธศาสนาสืบทอดกันมายาวนาน งานบุญนี้จัดขึ้นเพียงปีละครั้งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน  แต่กระจายอยู่ในทุกอำเภอของจังหวัด  คนต่างถิ่น ที่อยากเห็นความตื่นตาตื่นใจกับเครื่องแต่งกายของส่างลอง เครื่องดนตรี  และริ้วขบวนงดงาม ประซึ่งถ้าไม่มาที่แม่ฮ่องสอน  ก็จะไม่มีโอกาสได้เห็น

ขบวนแห่โคหลู่

ก่อนพาไปชมความอลังการของประเพณีปอยส่างลอง คงต้องทำความรู้จักในความหมายประเพณีนี้ก่อนว่าคืออะไร คำว่า “ปอย “หมายถึง งานหรือเหตุการณ์ ส่วนคำว่า”ส่างลอง” หมายถึง เด็กชายหรือชายหนุ่มก่อนเป็นสามเณร ซึ่งก็มีหลายตำนานคำบอกกล่าวแตกต่างกันไปตามพื้นที่ ในบันทึกจากหนังสือไทใหญ่ และการให้ข้อมูลจากแม่เฒ่าเจงหยิ่ง ทิพกนก ที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว  บอกเล่าว่า   ในสมัยพุทธกาล มีพระเจ้าแผ่นดินปกครองเมืองหย่าจะโก่ยว ด้วยความตั้งใจของพระองค์  ขณะที่ พระโอรสที่อยากบวชเรียนในพระพุทธศาสนา จึงได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อศึกษาพระธรรมกับพระพุทธเจ้า  โดยในการจัดเตรียมพิธีสำหรับบรรพชาพระโอรส ได้ทรงประดับประดาพระโอรสด้วยเครื่องทรงของกษัตริย์  ซึ่งเป็นเครื่องทรงคล้ายกับกษัตริย์พม่าโบราณ  มีการแห่ และจัดเลี้ยงข้าราชบริวารนานถึง 7 วัน จากนั้นก็นำเข้าสู่พิธีบรรพชา จึงอาจกล่าวได้ว่า ปอยส่างลองเกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยพุทธกาลเป็นต้นมาแล้ว

วีนโกน ส่างลอง

  ส่วน”ส่างลอง”ที่เด็กชายที่บรรพชา ถือได้ว่าเป็นบุคคลศักดิ์ หรือหน่อพุทธางกูร จึงได้รับการดูแลเป็นพิเศษอย่างใกล้ชิด ยามจะไปไหนต้องขี่คอตะแป(พี่เลี้ยงส่วนตัว) เพื่อไม่ให้เท้าแตะถูกพื้นดิน ดูแลไม่ให้คลาดสายตา การที่ลูกชายได้บวชในพิธีปอยส่างลอง ถือว่าป็นบุญอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ พ่อแม่ขาม(พ่อแม่อุปถัมภ์) และคนในครอบครัวที่ได้จัดงาน

จีเจ่ หรือกังสดาล ระฆังที่ก้องกังวาลบอกบุญ

งานปอยส่างลองปีนี้ ทางกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม  ร่วมกับจังหวัดเเม่ฮ่องสอน  สืบสานประเพณีปอยส่างลอง จัดงานบรรพสามเณรปอยส่างลอง เฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2566 โดยมีส่างลองและจางลองเข้าบรรพชา 50 องค์ ณ วัดในสอย ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน

ผู้อาวุโสผู้หาม อุปเจ้าพารา

บ้านในสอย เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมา  ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่จึงจะเป็นชาวไทใหญ่ และมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆอาศัยอยู่ร่วมกัน อาทิ กระเหรี่ยงแดง ปะโอ กระเหรี่ยงคอยาว ซึ่งประเพณีปอยส่างลอง ก็จะมีจางลอง ผู้ที่บรรพชาเป็นพระภิกษุด้วย การจัดงานจะมีราวๆ 3 วัน โดยวันแรกจะเป็นวันโกนผม ส่วนในวันที่สองที่เราเดินทางมาร่วมงาน คือวันแห่โคหลู่หรือเครื่องไทยธรรมของประเพณีปอยส่างลอง เราจะได้เห็นบรรยากาศอันสนุกครึกครื้นของการตั้งขบวนแห่ที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งในปีนี้มีพ่อแม่ของส่างลองร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดงานปอยส่างลอง ขบวนที่ทอดยาวอยู่บนถนนเส้นหลักในต.ปางหมู หน้าบ้านพ่อหลวงบ้านในสอย

ม้าเจ้าเมือง เยื้องย่างอย่างงดงาม

ในขบวนจะประกอบด้วย ผู้นำขบวนซึ่งเป็นผู้สูงอายุจะนุ่งขาวห่มขาวด้วยชุดของไทใหญ่ซึ่งจะตี จีเจ่ หรือกังสดาล ระฆังโบราณให้ดั่งก้องทั่วพื้นที่เพื่อให้ผู้คนได้ร่วมอนุโมทนา    ตีลั่นเป็นจังหวะ เคียงคู่มากับอุปเจ้าพารา ซึ่งเป็นเครื่องไทยธรรมถวายพระพุทธ ตามมาด้วยขบวนพานดอกไม้ ถัดมาจะเป็นม้าเจ้าเมือง เป็นม้าทรงของเจ้าเมือง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะเชื่อว่าจะทำให้งานดำเนินไปอย่างเรียบร้อย โดยจะมีการคัดม้าที่สวย สง่า และเชื่อง มีการตกแต่งและดับดอกไม้ให้ม้า หลังท้าจะใส่อานปูด้วยผ้า ซึ่งชาวบ้านจะมีการอัญเชิญเจ้าเมืองนั่งประทับ

ต้นตะเป่ส่า

  ขบวนได้เคลื่อนๆไปอย่างช้าๆ ใต้แสงแดดยามเช้าๆที่ยังไม่ร้อนมากนัก ต่อไปก็จะขบวนของต้นตะเป่ส่า หรือตันกัลปพฤกษ์ มีความหมายในการเกิดในสวรรค์  ต้นตะเป่ส่าถวายวัดก็จะเป็นการตกแต่งด้วยถ้วยชาม จาน แก้วน้ำ หม้อ ต่อขบวนของกลองก้นยาว กลองมองเชิง ที่สร้างความสนุกสนานให้ขบวน และมีพี่น้องชาวปะโอ กะเหรี่ยงแดง กะเหรี่ยง และไทใหญ่ แต่งกายด้วยชุดชาติพันธุ์สวยงามร่วมเดินขบวน และทำการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ให้ได้ชมด้วย ถัดไปก็จะเป็นขบวนเทียนเงิน-เทียนทอง พุ่มเงิน-พุ่มทอง กรวยหมากพลู กรวยดอกไม้ และอีกขบวนที่สำคัญคือขบวนครัวหลู่ ที่จะนำเอาเครื่องอัฐบริขารที่ใช้ในการบรรพชา และเครื่องไทยธรรมมาร่วมแห่ ซึ่งผู้หามจะเป็นคนในครอบครัวของส่างลอง ต่อที่ขบวนปุ๊กข้าวแตก เป็นการหอข้าวตอกด้วยกระดาษสา ผูกติดกับธงสามเหลี่ยมที่เรียกว่า จ๊ากจ่า ใช้แทนดอกไม้เพื่อแจกให้ผู้มาร่วมงาน

ต้นตะเป่ส่าถวายวัด

เดินชมขบวนจนมาถึงขบวนของส่างลองและจางลอง ซึ่งอยู่เกือบขบวนสุดท้าย แต่ก็ได้ยินเสียงโห่ร้องพร้อมกลองก้นยาวที่บรรเลงเป็นจังหวะสนุกสนาน ในขบวนแห่ในวันนั้นส่างลองแต่งตัวดั่งเทวดา เหมือนกับที่ชาวไทใหญ่เขาได้บอกว่าการบรรพชาครั้งเป็นงานบุญที่พ่อแม่ หรือแม้แต่คนไม่มีลูกชาย   ก็ทุ่มเทหาเงินเพื่อมาจัดงาน ให้ยิ่งใหญ่

ขบวนกลองก้นยาว บรรเลงกันอย่างครึกครื้นตลอดการเคลื่อนขบวนโคหลู่

ความงดงามของพิธีอยู่ที่ “ส่างลอง”ที่เปรียบประหนึ่งเป็นหน่อพุทธางกูร   แต่งกายด้วยเครื่องทรงเหมือนกษัตริย์ สวมมงกุฏที่ตกแต่งด้วยดอกไม้มงคล สวมถุงเท้ายาวสีขาว ใบหน้ามีการแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีสันสดใส บางก็วาดดอกไม้ หรือลวดลายต่างๆบนใบหน้าของส่างลองให้สวยดุงดั่งเทวดา และจะขึ้นขี่คอตะแป ความสนุกคือการโยกย้าย ให้อารมณ์เหมือนการแห่นาคบ้านเรา ทั้งตะแป ส่างลอง และผู้ร่วมงาน ก็ต่างโยกย้าย ร่ายรำ ตามจังหวะของดนตรีอย่างสนุกสนาน ใบหน้าของแต่ต่าฃยิ้มแย้ม ส่งเสียงประกอบจังหวะ แม้แดดจะเริ่มร้อนแต่ใบหน้าของผู้คนในงานวันนั้นได้เปื้อนความปิติที่ได้มาร่วมงานบุญปอยส่างลอง

พุ่มเงิน-พุ่มทอง ที่ถือโดยชาวกระเหรี่ยงแดง

ขบวนเดินมาจนถึงวัดที่ส่างลองจะเข้าบรรพชาที่วัดในสอย โดยก่อนจะขึ้นไปยังศาลาการเปรียญเพื่อทำการพิธีทางพุทธศาสนา จากนั้นก็จะรับประทานอาหารกลางวันและพักผ่อน โดยงานจะมีขึ้นอีกวัน เรียกว่าวันข่ามส่าง จะเป็นการนำส่างลองบรรพชาสามเณร และจางลอง บรรพชาเป็นพระภิกษุ ทำพิธีสงฆ์ตามหลักพระพุทธศนา

ใบหน้าส่างลองที่ได้รับประทินเครื่องสำอางอย่างงดงาม

 โดยในงานนี้ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม  ประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวว่า การจัดบรรพชาสามเณรตามประเพณีปอยส่างลองในครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการจัดบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณีเพื่อเป็นต้นแบบมาแล้ว ทั้งในส่วนกลางที่ วัดยานนาวา และส่วนภูมิภาคที่วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา วัดพิชโสภาราม จ.อุบลราชธานี และวัดราชบุรณะ จ.ชุมพร  โดยที่จ.แม่ฮ่องสอนจะเป็นการบรรพชาตามแบบประเพณีปอยส่างลอง 2 ครั้ง จำนวนกว่า 100 องค์ ที่เกิดจากแรงศรัทธาของบิดา มารดาของคนไทใหญ่ และนับว่าเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการีและผู้มีอุปการคุณอีกด้วย ซึ่งเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้ศึกษาและปฏิบัติธรรม อาทิ ธรรม วินัย พุทธประวัติ เทศนา ศาสนพิธี ภาวนาและฝึกสมาธิ เป็นการพัฒนาจิตให้สงบ ทั้งยังเป็นการจรรโลงศาสนาทำให้เกิดศาสนทายาทในบวรพระพุทธศาสนาสืบไป.

จางลอง ที่จะบรรพชาเป็นพระภิกษุ
แห่ส่างลอง ร่ายรำกันอย่างสนุกสนาน
ขบวนโคหลู่ มุ่งหน้าสู่วัดในสอย
ชาวชาติพันธุ์ร่วมเดินขบวนโคหลู่


เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ใจถึงธรรมะ' ท่องแดนพุทธภูมิ (1)

เป็นอีกครั้งในชีวิตที่ออกเดินทางไปยังประเทศอินเดียและเนปาล เพื่อค้นหาคำตอบบางอย่าง ซึ่งตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะพบมั้ย แต่เชื่อมั่นว่า จะทำให้ตัวเองในฐานะชาวพุทธได้พบกับความสุขสงบในจิตใจและได้เว้นวรรคจากวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ห่างไกลจากสิ่งเร้ารอบตัว ตามโปรแกรมจะไปครบทั้ง 4 สังเวชนียสถาน

20 ชุมชนชิงต้นแบบ'เที่ยวชุมชน ยลวิถี'

ชุมชนท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมนั้นกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย แต่ละชุมชนมีความโดดเด่นด้วยอัตลักษณ์ วิถีชีวิต เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวตามบริบทของชุมชน เพื่อคัดเลือกชุมชนต้นแบบ”เที่ยวชุมชน ยลวิถี”ที่มีเรื่องราวน่าสนใจ

วธ.เปิดงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง ชวนสัมผัสวัฒนธรรมล้านนาฉลองมรดกโลก

15 เม.ย.2567 - สงกรานต์เชียงใหม่คึกคัก กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่

วธ.เปิดสงกรานต์ปีใหม่ไทยวัดสุทัศน์ฯ นทท.คึกคัก ทั่วไทยร่วมสืบสานความงามประเพณี

13 เม.ย.2567 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีสงกรานต์ปีใหม่ไทย (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม

นิทรรศการประเพณีสงกรานต์ปีใหม่ไทยที่หอศิลป์กรุงเทพฯ จัดใหญ่โชว์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย

11 เม.ย.2567 - กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จัดงาน “นิทรรศการประเพณีสงกรานต์ปีใหม่ไทย” เนื่องในโอกาสที่ ประเพณี