'แมคโคร'ผุด'หลักสูตรธุรกิจค้าส่ง'ครั้งแรก สร้างฐานไทยเป็น'มหาอำนาจด้านอาหาร'

เป็นเวลา 33 ปี ที่แมคโคร ห้างธุรกิจค้าส่งรายใหญ่ ที่อยู่คู่กับคนไทย และนับเป็นครั้งแรก ที่แมคโคร ขยับตัวผลิตบุคคลากรด้านค้าส่ง เพื่อป้อนองค์กร  ล่าสุด ได้ร่วมมือกับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) พัฒนาหลักสูตรปริญญาตรี ด้านการจัดการธุรกิจค้าส่งสมัยใหม่ เรียนทฤษฎีสลับฝึกงานพร้อมมีรายได้ ตลอด 4 ปี แถมให้ทุนเรียนฟรี การันตีจบแล้วมีงานทำ ตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรเฉพาะทางค้าปลีกค้าส่งป้อนตลาด

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร เปิดเผยว่า แม็คโครมุ่งมั่นนโยบาย “สร้างงาน สร้างอาชีพ” วางเป้าหมายสร้างบุคลากรเชิงรุก ให้มีทักษะฝีมือ พร้อมรับการเติบโตของตลาดค้าส่งค้าปลีกที่มีความต้องการทักษะเฉพาะทาง จึงได้ร่วมกับ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือทางการศึกษา พัฒนาหลักสูตรด้านการจัดการธุรกิจค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Wholesale Food Business Management ) ให้ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงในสายงานธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง โดยใช้ความเชี่ยวชาญของแม็คโคร ผสานกับองค์ความรู้ในด้านวิชาการและหลักสูตรการบริหารจัดการของ PIM เปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจได้เข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ผ่านเครือข่ายโรงเรียนพันธมิตรกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ เป็นทางเลือกเพื่อทำงานในสายอาชีพที่มั่นคง ได้เป็นบุคลากรที่มีเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพชัดเจน

ประธานคณะผู้บริหารกล่าวว่า หลักสูตรนี้  เป็นการให้ทุนเรียนฟรี 100 คนต่อปี คิดเป็นเงินทุนประมาณคนละ 5แสนบาทจนจบหลักสูตร  โดยแมคโครต้องการกำลังคนด้านค้าส่งทั้งหมดประมาณ 4แสนคน ภายในปี2573 เพื่อรองรับ สาขาในประเทศ 154 สาขา และยังมีสาขาในต่างประเทศที่จะเปิดเพิ่มขึ้นอีก และเรามีจุดประสงค์ให้คนไทย เป็นคนเก่งในเอเชียด้านการค้าปลีก ค้าส่ง ดังนั้น หากมีการต่อยอดโดยสร้างคนด้วยตัวเองจะไปได้เร็วกว่า   นอกจากนี้ การเปิดหลักสูตรดังกล่าว ยังเป็นการพยายามสืบทอดองค์ความรู้การทำงานด้านส่งจากพนักงานแมคโครรุ่นแรก ที่ทำงานเมื่อ 33 ปีก่อน ซึ่งเกษียณไปหมดแล้ว มาให้คนรุ่นหลัง  โดยความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ของพนักงานรุ่นแรก ถือว่าเป็นศาสตร์ ที่ไม่มีสอนในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ความรู้ดังกล่าวนี้ เช่น การบริการลูกค้า การจัดวางของ การจัดซัพพลายเชนส์ ซึ่้งสินค้าของแมคโครส่วนใหญ่เป็นอาหาร  หรือการจัดเลี้ยง ล้วนมาจากประสบการณ์จากการทำงานทั้งสิ้น   ซึ่งพนักงานแมคโครที่เเริ่มทำงานตั้งแต่สมัยแมคโคร ยังเป็นของเนเธอร์แลนด์ และเข้ามาเปิดกิจการในไทย จะมาสอนในหลักสูตรนี้ เพื่อถ่ายทอดความรู้ของเขาให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อไม่ให้องค์ความรู้นี้สูญหายไป

“เราหวังว่า อีก 10 ปีข้างหน้า เราจะสร้างคนรุ่นใหม่ด้านค้าส่งที่มีคุณภาพ จำนวน 4แสนคน ตามที่กล่าวไปแล้ว ซึ่งการเรียนหลักสูตรนี้  จึงมุ่งเน้นเรียนควบคู่กับการฝึกปฏิบัติงาน ที่มีรายได้ตอบแทน ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง เมื่อจบหลักสูตรก็พร้อมทำงานระดับ ’หัวหน้างาน’ ได้ทันที ถือเป็นโปรแกรม Fast-Track ที่นักศึกษาได้ประโยชน์สูงสุด  ซึ่งแม็คโคร มีโครงการมอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่องด้วย  เรามุ่งหวังสร้างบุคลากร นักจัดการที่มีคุณภาพในสายงานค้าปลีกค้าส่งของไทยต่อไป โดยจะมีการเปิดรับนักศึกษาในหลักสูตรใหม่นี้ช่วงปลายปี 2566” นาง เสาวลักษณ์ กล่าว

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือทางวิชาการกับบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนทั่วประเทศ เราเชื่อมั่นในแม็คโคร ซึ่งมีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง การผนึกกำลังในครั้งนี้นับเป็นการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ และเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน การสร้างบัณฑิตที่พร้อมทำงาน ผ่านรูปแบบการเรียนการสอนที่เรียกว่า Work-based Education เป็นการเรียนรู้ควบคู่กับการฝึกปฏิบัติงาน  PIM ในฐานะของภาคการศึกษาพร้อมผลักดันความร่วมมือนี้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

“เวลาพูดถึงศักยภาพคนไทย เรามักพูดถึง Soft Power  แต่ในแง่อุตสาหกรรมอาหาร เรามีศักยภาพทั้งในแง่ Soft Power  และHard Power   ซึ่งดูได้จากการที่เราเป็นผู้ส่งอาหารรายใหญ่ของโลก เรามี Smart farming smart agriculture เรามีคำว่า Food Safety  ,Food Healthy  ,  Food  Tasty, Food  ready to  eat , Food ready to heat, culinary food, Food  culture  และอีกมากมาย ซึ่งตัวแปรที่เราจะเป็น Soft Power  ด้านอุตสาหกรรมอาหารได้ เราจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพ  ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ  นอกเหนือจากด้านการผลิต ก็ต้องรวมไปด้านกำลังคน การเกิดซัพพลายเชนส์ และโลจิสติกส์ที่ดี ทั้งหมดเป็นห่วงโซ่ ที่จะทำให้เราเป็นมหาอำนาจด้านอาหาร”  รศ.ดร.สมภพกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลหนุนสร้างองค์ความรู้อาหาร ให้ไทยเป็น Soft Power ดึงดูด นทท.

นายกฯ ย้ำรัฐบาลหนุนสร้างองค์ความรู้ด้านอาหารให้ไทยเป็น Soft Power ดึงดูดนักท่องเที่ยว เปิดโอกาส Start up ด้านอาหารรายใหม่ ผลักดันให้ไทยมีความมั่นคงด้านอาหาร เป็นแหล่งผลิตอาหารฮาลาลที่หลายประเทศต้องการ 

ศักยภาพ Soft Power วัฒนธรรมท้องถิ่น ใช้สื่อสร้างสรรค์ ยกระดับสินค้า

(21 กันยายน 2566) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน)

GSVดันมวยไทย เป็น Soft power ที่แท้จริงของไทย ผ่านเวทีราชดำเนิน

นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานฝ่ายบริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส หรือ GSV ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ The Potential of Thai land’s thriving soft power ในงาน Thailand Focus 2023 ครั้งที่ 17 จากการจัดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระหว่างวันที่ 23-25 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นการให้ข้อมูลแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยสู่บริบทใหม่แห่งการลงทุนแก่ผู้ลงทุนสถาบันกว่า 200 ราย จาก 96 สถาบันทั่วโลก

sacit ดัน Soft Power หัตถศิลป์ไทยในแดนปลาดิบ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมกว่า 30,000 ราย ได้เข้าถึงภูมิปัญญาของไทย ในงาน LIFESTYLE Week TOKYO 2023

sacit โชว์งานหัตถศิลป์ไทยในงาน LIFESTYLE Week TOKYO 2023 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีผู้เข้าชมงานกว่า 30,000 ราย เป็นการยกระดับงานหัตถศิลป์ไทย