‘อภิชัย’ทิ้งปชป.ซบลุงป้อม

"สมศักดิ์" ย้ำ สวน "บิ๊กป้อม" ค้านยุบสภา ยันต้องอยู่ครบเทอม   ปชป.เลือดไหลออกสองคนรวด "เสี่ยโต"  ไม่ร่วมสังฆกรรม "ธรรมนัส" หอบถุงเงินเข้า พปชร. "ประวิตร" นัดถก กก.บห.ด่วน จ่อเติม 4 ตำแหน่งที่ว่าง พท. "เปิดตัว "อุ๊งอิ๊ง" แคนดิเดตนายกฯ กลางเมืองหลวงเสื้อแดงอีสาน 20 มี.ค. "สาธิต" เตือน กม.ลูกโดนคว่่ำ นายกฯ ต้องออกเป็น พ.ร.ก.     

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ออกมาระบุว่าการยุบสภาในช่วงหลังการประชุมเอเปกเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมว่า เพราะการบริหารงานของรัฐบาลจะครบเทอมอยู่แล้วในเดือน มี.ค.2566 และหลังการประชุมเอเปกก็ใกล้ช่วงเวลาดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแสดงความเห็นดังกล่าวจะไม่ค้านกับสิ่งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐพูดเอาไว้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตอบเองอยู่แล้ว เราอย่าไปแย่งตอบ เดี๋ยวจะสับสน

ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าการประกาศของพล.อ.ประวิตร อาจเป็นเทคนิคการเมือง เพื่อส่งสัญญาณให้เตรียมตัวย้ายพรรคและสังกัดพรรคใหม่ได้ตามกำหนดเวลานั้น อย่าพูดไป ไม่ดีหรอก ไม่มีอะไร

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายสมศักดิ์แสดงความไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาหลังจัดประชุมเอเปกว่า ต้องดูสถานการณ์ตอนนั้น แต่เป้าหมายเราคืออยู่ทำงานให้เต็มที่ ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลทำงานได้ดี ทั้งการแก้ปัญหาโควิด-19 ที่กำลังคลี่คลายและประเทศกำลังฟื้นตัว ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโชคไม่ดีเพราะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนส่งผลกระทบทำให้ราคาสินค้า ราคาน้ำมันและราคาปุ๋ยที่แพงขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทั้งโลก ฉะนั้นก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย ซึ่งรัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหาอยู่

เมื่อถามว่า นายกฯ ระบุว่าการยุบสภาจะมีสถานการณ์เป็นตัวกำหนด แล้วมองว่าอะไรคือตัวกำหนด นายชัยวุฒิกล่าวว่า ในอดีตอาจจะเกิดจากความพร้อมของฝ่ายรัฐบาลที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเลือกตอนนั้น หรือความไม่พร้อม ไปไม่ไหวก็ยุบ เช่น เสียงในสภาที่สนับสนุนรัฐบาลไม่พอ โหวตกฎหมายไม่ผ่านก็ต้องยุบสภา

ส่วนรัฐบาลจะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้หรือไม่นั้น นายชัยวุฒิบอกว่า ตอบไม่ได้ อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน แต่เท่าที่ได้คุยกันพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีใครมาบอกว่าจะไม่เอารัฐบาล ทุกคนยังยืนยันว่าจะสนับสนุนรัฐบาล อย่าไปคิดมาก ส่วนคนที่เขาอยากให้ยุบสภาก็มี บอกให้ใจเย็นๆ รอหน่อย รอมาตั้งหลายปีแล้ว รออีกปีหนึ่งไม่ได้หรือไง ส่วนพรรคเล็กถือว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่ง พล.อ.ประวิตรก็ดูแลอยู่แล้ว ดูแลมาตั้งแต่ก่อตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เป็นผู้รวบรวมทุกคนมาอยู่ด้วยกัน และดูแลพรรคเล็กทั้งหมด มีการพูดคุยกันเป็นประจำ กินข้าวกันประจำ เพียงแต่ว่าไม่ได้เสนอเป็นข่าว

เสี่ยโตหอบถุงเงินซบ พปชร.

วันเดียวกันนี้ นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หรือเสี่ยโต นายทุนใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า ยอมรับว่าเป็นความจริง โดยวันที่ 17 มี.ค. ในเวลา 09.00 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นจะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับเปิดตัวในเวลา 16.00 น. ที่ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งว่า สำหรับการย้ายเข้ามาเป็นสมาชิก พปชร.ของนายอภิชัย นอกจากเปิดตัวในวันที่ 17 มี.ค.แล้ว จะมีการแนะนำนายอภิชัยต่อที่ประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้ที่ประชุมรับทราบว่านายอภิชัยจะเข้ามาเป็นผู้ดูแลพื้นที่ กทม. ขณะเดียวกัน เบื้องต้นได้มีการวางสัดส่วนของ ส.ส.กทม. โดยให้ ส.ส. 1 คน ดูแลว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. 12 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอภิชัยเดิมทีจะลาออกจากประชาธิปัตย์เพื่อเตรียมเปิดตัวไปเป็นเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นแกนนำ แต่ต่อมามีกระแสข่าวว่าดีลไม่ลงตัวเพราะตัว ร.อ.ธรรมนัสต้องการเป็นเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทยเอง เลยทำให้นายอภิชัยที่มีความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตรตัดสินใจมาอยู่ที่พลังประชารัฐในที่สุด

ต่อมาเวลา​ 15.00 น.​ ที่ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ​พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค​ (กก.บห.) เป็นการด่วน เพื่อหารือเตรียมความพร้อมถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปี​ 65 ของพรรค ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ โดยมี กก.บห.เข้าร่วมพร้อมเพรียง ขาดเพียงกรรมการบริหารบางคนที่ไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากติดภารกิจ และมีอาการป่วย 2​ คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค และนายรงค์ บุญสวยขวัญ​ ส.ส.นครศรีธรรมราช

หลังใช้เวลาประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง พล.อ.ประวิตร​ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกรณีนายอภิชัย​จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันที่ 17 มี.ค. โดยส่ายหัวก่อนที่จะขึ้นรถออกจากพรรคไปในทันที

จากนั้น นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงนายอภิชัยมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคว่า ไม่เห็นมี

ผู้สื่อข่าวถามว่า​ ที่ประชุมได้ข้อสรุปในตำแหน่ง กก.บห.ที่ว่างอยู่แล้วหรือไม่ นายสันติกล่าวว่า หัวหน้าพรรคกำลังดูอยู่ วันนี้เป็นการประชุมว่ายังมีตำแหน่งกก.บห.ที่ว่างอยู่ และเราจะไปเลือกกันในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 65 ที่​ จ.นครราชสีมา วันที่ 3 เม.ย. ซึ่ง พล.อ.ประวิตรคงวางตัวบุคคลไว้แล้ว โดยจะเป็นคนในที่เป็นสมาชิกพรรค

รายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า ​ สำหรับวาระในการประชุมใหญ่ที่​ จ.นครราชสีมานั้น​ จะมีการรายงานผลการเงินของพรรคในปี 2564 รวมถึงผลการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2564 ตลอดจนการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร.แทนตำแหน่งที่ว่างลง 4 คน คือ เลขาธิการพรรคการเมือง  นายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง​ กรรมการบริหารอื่นๆ ของพรรคการเมือง รวมถึงการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ชุดใหม่ ทั้งนี้​ กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน มีจำนวน 22 คน จากทั้งหมด 26 คน โดยมี  4 คน ที่ถูกขับพ้นจากสมาชิกพรรค และลาออก ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส,  นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ที่ไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย และนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ลาออกไปอยู่พรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งการประชุมใหญ่พรรคจะแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคได้ไม่เกิน 29 คน

อย่างไรก็ตาม​ ก่อนที่จะเริ่มการประชุม กก.บห. พล.อ.ประวิตรได้กล่าวถึงกรณีที่ระบุว่าจะยุบสภาหลังการประชุมเอเปก โดยอธิบายกับสมาชิกว่า “ไม่มี ไม่ได้บอกว่าจะให้ยุบ แค่บอกว่าถ้าจะยุบหลังเอเปก ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม” นอกจากนั้น พล.อ.ประวิตร ยังกำชับ กก.บห.ว่าให้สามัคคีและดูแลกัน

โดยเรื่องคนของพรรคประชาธิปัตย์ลาออก พบว่าไม่ได้มีแค่นายอภิชัยคนเดียว เพราะวันเดียวกันนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตโฆษก กปปส.  โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอบคุณและขอกราบลาพรรคประชาธิปัตย์ ขอกราบขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสได้แจ้งเกิดทางการเมืองกับการเป็น ส.ส.ระบบเขต ในกรุงเทพมหานคร กว่าสิบปีที่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ และได้มีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางการเมือง ได้รู้จักกับผู้ใหญ่และพี่ๆ นักการเมืองมากมายหลายท่าน ที่คอยให้การสนับสนุน แนะนำจนได้มีโอกาสเป็นผู้บริหารพรรคการเมือง ได้ทำงานการเมืองที่รักอย่างสุดเต็มความสามารถ ทั้งหมดคงเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่ดีที่จะจดจำไว้ตลอดไป

"ขอบคุณท่านชวน หลีกภัย ที่คอยให้คำแนะนำดีๆ คอยสั่งสอน ส.ส.ทุกคนให้เป็นนักการเมืองที่ดี ขอบคุณท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นทั้งรุ่นพี่ที่ออกซ์ฟอร์ด เป็นหัวหน้าที่ชักชวนผมเข้าพรรค เป็นนักการเมืองไอดอลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผมจนตัดสินใจเดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง ขอบคุณลุงกำนันที่คอยสนับสนุนผมมาโดยตลอด แม้วันนี้ทางการเมืองจะเดินกันไปคนละเส้นทาง แต่ต่างก็มั่นใจในอุดมการณ์ของกันและกัน วันนี้ได้ยื่นขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตกราบลาจากพรรค แม้จะเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่ขอคงไว้ซึ่งความเคารพ ความรักและผูกพัน เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ตลอดไป" นายเอกนัฏระบุ

เปิดตัว"อุ๊งอิ๊ง"ลุยอีสาน

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” โดยพรรคเพื่อไทยจะจัดงานเปิดตัว “ครอบครัวเพื่อไทย” ที่ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ มณฑาทิพย์ ฮอลล์ จ.อุดรธานี ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ ภายใต้แนวคิด “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความอบอุ่น ความใกล้ชิด ความผูกพัน ของประชาชนที่มีต่อพรรคเพื่อไทย ภายใต้แนวคิด ประชาชนเป็นศูนย์กลางซึ่งพรรค ยึดถืออย่างต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ครอบครัวเพื่อไทย จึงเสมือนกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชนและทลายกำแพงที่เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนกับพรรคการเมืองเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งในเรื่องของการจัดเตรียมเอกสารยืนยันตัวตน การผูกมัดการเป็นสมาชิกพรรคได้เพียงพรรคเดียวในคราวเดียว ทั้งยังมีค่าใช้จ่าย กว่าจะได้เข้ามามีส่วนร่วมกับสถาบันการเมือง ทั้งที่พรรคการเมืองคือหัวใจหลักในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ดังนั้นการเข้าร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทย จึงเสมือนหมุดหมายสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตยผ่านประชาชนและพรรคการเมืองให้ใกล้ชิดแน่นแฟ้นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบอกว่า ในงานครอบครัวเพื่อไทย จังหวัดอุดรธานีจะมีปาฐกถาพิเศษ โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ในหัวข้อ ‘ก้าวต่อไปของครอบครัวเพื่อไทย’ ด้วย

ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการวิสามัญของรัฐสภา วันเดียวกันนี้ ที่รัฐสภา นายสาธิต ปิตุเตชะ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะ กมธ. โดยบอกว่าขณะนี้ไม่มีเหตุใดจะล้มหรือคว่ำกฎหมายลูก ในวาระ 3 หากการพิจารณาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ

ถามต่อว่า หากในวาระ 3 กฎหมายลูกถูกตีตกไป จะมีแผนรองรับอย่างไร นายสาธิตกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งหากกฎหมายฉบับนี้ที่เป็นเครื่องมือของการยุบสภา เป็นเครื่องมือของการเตรียมพร้อมเลือกตั้งตกไป ก็จะเกิดเดดล็อก ฉะนั้น หากอุบัติเหตุเกิดขึ้นในฝ่ายนิติบัญญัติ การนำเสนอเข้ามาหรือการออกประกาศพระราชกำหนดก็เป็นอำนาจโดยตรงของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตรงนี้อยู่นอกเหนือของคณะ กมธ.ไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่มีนายสาธิต เป็นประธานที่ประชุม

ก่อนเริ่มประชุม นายสาธิตได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าจะคว่ำกฎหมายลูกในวาระ 3 นั้น ใครจะคิดตามก็ว่ากันไป แต่ขอเรียกร้องทุกฝ่ายว่าเราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ต้องปกป้องกฎหมายที่ดำเนินการโดยสภานิติบัญญัติ และฝ่ายนิติบัญญัติเรามีความศักดิ์สิทธิ์ และต้องได้รับความเคารพศรัทธาให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้นถึงกลไกใน กมธ.วิสามัญฯ

 “ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันให้สัมภาษณ์ ว่าเราจะต้องทำให้ดีที่สุด ส่วนในวาระ 3 เป็นเรื่องที่ทางที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะได้ใช้ดุลยพินิจและเหตุผลว่าจะลงมติอย่างไร ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันให้ข้อมูลด้วย” นายสาธิตกล่าว

ดันปลดล็อกผู้จัดตั้งพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 17 มี.ค. นี้ คณะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรฯ จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้จัดตั้งพรรคการเมืองและสมาชิกพรรค โดยกฎหมายลูกพรรคการเมืองฉบับปัจจุบัน ได้นำรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 คุณลักษณะต้องห้าม ส.ส. มาบังคับใช้เป็นคุณสมบัติต้องห้ามของการเป็นผู้จัดตั้งพรรคและสมาชิกพรรค แต่ในชั้นคณะ กมธ. กำลังจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ ตามร่างฉบับนายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะ ซึ่งที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้ลงมติรับหลักการมา

ทั้งนี้ ไฮไลต์อยู่ที่การเสนอแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 9 คุณสมบัติของผู้จัดตั้งพรรค ซึ่งได้เสนอตัดมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญออก เท่ากับเป็นการปลดล็อกให้บุคคลต่างๆสามารถเป็นผู้จัดตั้งพรรคการเมืองได้ จากเดิมที่ไม่สามารถเป็นได้ อาทิ (8) ถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ ประพฤติมิชอบในวงราชการ (11) เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตเลือกตั้ง (14) เป็น ส.ว. หรือเคยเป็น ส.ว.และสมาชิกภาพสิ้นสุดลงยังไม่เกิน 2 ปี (16) เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ตศร.) หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ (17) อยู่ระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นต้น ขณะเดียวกัน ได้กำหนดให้คุณสมบัติของผู้จัดตั้งพรรค มีดังนี้ สัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามมาตรา 96 ของรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นสมาชิกพรรคอื่น ไม่เป็นผู้ยื่นคำขอจดทะเทียนจัดตั้งพรรคอื่น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเสนอแก้ไขมาตรา 24 คุณสมบัติสมาชิกพรรคให้นำมาตรา 9 มาบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะ กมธ. เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ได้มีการตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย นายสมชาย แสวงการ ส.ว., นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ ส.ว., นายอนันต์ และตน เห็นโดยสรุปว่าได้ปรับแก้ไขจากเนื้อหาที่เสนอ แต่ยังคงความสำคัญคือ การรวมตัวเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง ให้คงอายุที่ 20 ปี จากที่เสนอแก้เป็น 18 ปี เพราะมองว่าการเป็นผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองจะมีประเด็นเกี่ยวกับการเงิน ทุนประเดิม ซึ่งต้องใช้เกณฑ์อายุ 20 ปี ที่ถือว่าบรรลุนิติภาวะ

นายนิกรกล่าวด้วยว่า ส่วนคุณสมบัติที่ร่างเสนอให้ตัดมาตรา 98 นั้น คณะทำงานเห็นว่าควรปรับ ให้การกำหนดคุณสมบัติตามมาตรา 98 บางประการ คงไว้ อาทิ (2) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย (5) อยู่ระหว่างถูกระงับใช้สทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (10) เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าทำผิดต่อตำแหน่งราชการ ทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์ ยาเสพติด ค้ามนุษย์

 “คณะทำงานมองว่าการแก้ไขลักษณะของผู้จะจดจัดตั้งพรรคการเมืองนั้น ควรลดคุณสมบัติที่ใช้เกณฑ์บุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีและ ส.ส. ลง เช่นเดียวกับการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ทั้งนี้ คณะทำงานจะเสนอผลการพิจารณาดังกล่าวให้ที่ประชุม กมธ. พิจารณาอีกครั้ง ในวันที่ 17 มีนาคมนี้” นายนิกรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมศักดิ์' บอกให้เกียรตินายกฯ ตัดสินใจเรื่องเก้าอี้!

'สมศักดิ์' ไม่หลุดปากมีชื่อนั่ง รมว.สาธารณสุข วอนให้เกียรตินายกฯเป็นคนตัดสินใจ ระบุ รมต.เก่าไม่ต้องกรอกประวัติใหม่ ไม่ขอตอบพร้อมไป สธ.หรือไม่ แต่นั่งมาแล้ว 2 ครั้ง เผย 'อนุชา' สบายดี แม้มีข่าวถูกปรับออก