คนข้างตัวชูป้อมล้มตู่ สส.พปชร.แฉเองแต่‘ประวิตร’ไม่เอา/‘โจ้’นัดกินข้าว‘ธรรมนัส’

“ประยุทธ์” ควงพี่ป๊อกชมฟาร์มคูโบต้า โปรยยาหอมรักจริงอย่าทิ้งกัน ลั่นถ้าไม่สู้คงอยู่ไม่ถึงวันนี้ เด็กพลังประชารัฐเชื่อแผน “ล้มตู่ ชูป้อม” คนข้างกายพี่ใหญ่คิดจริง  แต่ “บิ๊กป้อม” ไม่เอา “ภูมิใจไทย” เดือดซัด “ส.ว.-พท.”  ตีกินทางการเมือง “ยุทธพงศ์” ปั่นท่อน้ำอีอีซีหนัก โว “ธรรมนัส” รับปากหม่ำข้าวล้านเปอร์เซ็นต์ “พล.อ.วิชญ์” ชี้เป็นเรื่องปกติ แต่เสียงเริ่มอ่อยหนุนรัฐบาล “ชพน.” ประกาศทวงคืนยุคทองน้าชาติ

เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม ที่สนามเฮลิคอปเตอร์  พล.ม.2 รอ. เขตพญาไท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะเดินทางไปเยี่ยมชมคูโบต้าฟาร์ม ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยทันทีที่ถึงมี ส.ส.ภาคตะวันออก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมถึงผู้นำท้องถิ่นมารอต้อนรับ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้นำท้องถิ่นที่อยู่ในทีมสังกัดพลังใหม่ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน โดยกลุ่มนักการเมืองฝั่งตระกูลคุณปลื้มไม่ได้มาด้วย

ทั้งนี้ คณะนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชน กลุ่มอาสาสมัครแรงงานและเครือข่ายด้านแรงงานจังหวัดชลบุรี ที่มารอต้อนรับและตะโกนให้กำลังใจนายกฯ สู้ๆ โดยนายกฯ ตอบว่า "สู้อยู่แล้วๆ ถ้าไม่สู้ไม่อยู่มาถึงวันนี้หรอก ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ" พร้อมทักทายชาวบ้านโดยใช้ข้อศอกชนกัน  และกล่าวว่าขอให้ระวังโควิดหน่อย อย่าประมาท วันนี้เอาความคิดถึงมาให้ทุกคน นายกฯ ทำงานทุกอย่าง ซึ่งบางอย่างค่อยๆ เดินค่อยๆ แก้ คิดถึงทุกคนมาโดยตลอด  ขอบคุณทุกกำลังใจและขอให้ทุกคนโชคดี ขณะประชาชนกล่าวว่ารักลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวย้ำว่า "รักจริงอย่าทิ้งกันนะ"

จากนั้นนายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับ ส.ส.และผู้นำท้องถิ่นที่มาต้อนรับ พร้อมกล่าวย้ำว่า ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์  และประชาชน ทั้งนี้ บรรดาผู้นำท้องถิ่นและนักการเมืองได้เข้าทักทายและถ่ายรูปร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยด้วย

ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) ระบุมีหลักฐานเรื่อง "ล้มตู่ ชูป้อม” ว่า เป็นไปไม่ได้​ เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 คนเป็นนายกฯ ต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง เรื่องนี้เป็นเพียงการเสี้ยมให้แตกแยกกันมากกว่า และไม่เชื่อว่า พล.อ.ประวิตรจะคิดด้วย แต่คนข้างตัวของ พล.อ.ประวิตรอาจมีการคิดจริง

พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ส.ว. กล่าวถึงข้อเสนอเรื่องนายกฯ นอกบัญชีรายชื่อว่า รัฐธรรมนูญระบุชัด การพูดรวบรัดหรือพูดไม่หมดอาจทำให้สังคมสับสนได้ และในความเป็นจริงคนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีปฏิเสธเลย หรือไม่สู้ เขาจะไปตอบคนที่เลือกเข้ามาได้อย่างไร เพราะเหมือนไม่ให้เกียรติประชาชน จึงต้องไปถามว่าคนที่ปลุกกระแสนายกฯ คนนอกมีวัตถุประสงค์อะไร และใครเป็นคนโยนหินถามทาง หรือต้องการให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างนายกฯ กับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า  พล.อ.ประยุทธ์ทำใจดีสู้เสือ น่าจะกังวลเสียงในสภา เพราะพรรคเศรษฐกิจไทยและพรรคการเมืองเล็กอึดอัดใจในการยกมือให้รัฐบาลว่า ยืนยันว่ารัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯ ไม่กังวลใดๆ ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงไม่จำเป็นต้องทำใจดีสู้เสือ ที่สำคัญเสือที่ว่าก็น่าจะเป็นแค่เสือกระดาษ วาดออกมาให้ดูน่ากลัว แต่พอถึงเวลาเข้าจริงก็รีบม้วนเก็บกลับบ้านแบบไม่เป็นท่า เพราะขายหน้าที่ไม่เคยทำได้อย่างที่โม้เอาไว้สักครั้ง

 “ฝ่ายค้านหลอกตัวเองว่าเสียงในสภาขณะนี้ก้ำกึ่งมาก  เพราะมีเสียงโหวตที่บางพรรคการเมืองยังไม่รู้ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนแล้วสบายใจนั้นก็ไม่ว่ากัน แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายค้านเองหรือเปล่าที่กำลังทำใจดีสู้เสือ เพราะต้องอภิปรายทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีข้อมูลอะไรในมือ ดีไม่ดีเสียงที่อยู่ในมือของฝ่ายค้านอาจทนเสียหน้าไม่ไหว หันมายกมือโหวตให้รัฐบาลแทนก็เป็นได้ หากจะฝันก็ฝันได้ แต่ควรเผื่อใจไว้ด้วย” นายธนกรกล่าว

ภูมิใจไทยสวนหมัดเดือด

ส่วนนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกมาตอบโต้นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ที่โพสต์ข้อความระบุว่า ภท.จะเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง โดยย้อนว่าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะ ส.ว.หรือหมอดูทางการเมือง เพราะหากวิจารณ์ในฐานะ ส.ว.ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากการเมืองเป็นเรื่องของพรรคการเมือง  ส.ว.อยู่ในฐานะสภาสูง ไม่สมควรวิจารณ์เพราะจะลากองค์กรมาเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง แต่หากวิจารณ์ในฐานะหมอดูก็ไม่ติดใจ เพราะถือว่าเป็นหมอดูทั่วไป เหมือนกับหมอดูใต้ต้นมะขามสนามหลวง

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ระบุว่าข้อมูลจากประชาชนที่ส่งเข้ามาในเรื่องความไม่โปร่งใสเพื่อนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ  เยอะที่สุดคือรัฐมนตรีกลุ่มภูมิใจไทย รองลงมาคือพรรค พปชร.และประชาธิปัตย์นั้น การให้ข่าวแบบนี้ไม่ต่างจากตีกิน  เพราะสื่อสารแบบไม่มีหลักฐาน แต่ทำให้พรรคเสียชื่อเสียง นี่คือการเมืองน้ำเน่า

“ถ้าพูดลอยๆ เพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้าม แบบนี้ผมก็ทำได้  พรุ่งนี้อาจพูดว่า มีหลักฐานว่าพรรคเพื่อไทยโกงนู่นโกงนี่  เป็นหลักฐานมาจากประชาชน ข้าราชการท้องถิ่นกระซิบบอก พูดได้ง่ายมาก จริงหรือไม่ ไม่มีใครทราบ แต่พรรคท่านเสียชื่อไปแล้ว ถามว่าการเมืองแบบนี้มันสร้างสรรค์หรือไม่ กับการชี้หน้าด่าคนอื่นลอยๆ“ นายศุภชัยกล่าวและว่า ถ้าท่านว่ามีการโกงก็เอาหลักฐานมาเปิดเลย ท่านมีของจะเก็บไว้ทำไม ดีกว่าหลอกด่าแบบนี้ และอยากให้การเมืองไทย เป็นการเมืองน้ำดี ไม่อยากเห็นการเมืองน้ำเน่า ไม่อยากเห็นการเมืองสาดโคลน

ส่วนความคืบหน้ากรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.ที่ปฏิเสธจะชี้แจงต่อคณะกรรมการพรรค ในการออกมาเคลื่อนไหวกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า  เรื่องของเขา ส่วนจะถึงขั้นขับออกจากพรรคหรือไม่นั้นเป็นเรื่องคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรยังปฏิเสธตอบคำถามกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) นัดกินข้าวกับพรรค พท.ด้วย

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวประเด็นนายพิเชษฐว่า อยากให้นายพิเชษฐมาให้ข้อเท็จจริง ส่วนจะผิดจะถูกอย่างไรเดี๋ยวว่ากันอีกที ยังไม่ได้คิดว่าจะลงโทษหรือขับออกจากพรรค แต่ถ้านายพิเชษฐไม่มาชี้แจง กก.บห.ก็ต้องไปคิดเอาอีกทีว่าจะเอาอย่างไรกันต่อไป

ขณะที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม  พรรค พท. กล่าวถึงการตรวจสอบท่อส่งน้ำอีอีซีว่า กระทรวงการคลังได้ตั้งนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย เป็นประธานสอบ ซึ่งเป็นละครตบตาประชาชน ปาหี่ เป็นมวยล้มต้มคนดู  เนื่องจากนายวิจักษณ์เป็นแค่ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง แต่ประธานราชพัสดุคือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง นายวิจักษณ์จะกล้าไปตรวจสอบนายสันติหรือ เรื่องนี้ต้องฟ้องประชาชนและนายกฯ ให้มาดูว่าเขากำลังเล่นละครตบตาท่านหรือไม่ ให้ เสธ.นิมิตต์ (สุวรรณรัฐ) มือขวาท่านมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น หาก เสธ.นิมิตต์ไม่มาดู จะแฉ เสธ.นิมิตต์ว่าทำอะไรบ้าง

 “ท่อส่งน้ำอีอีซีมูลค่า 25,000 ล้านบาท นายสันติเจอกาหัวไว้เลย พวกผมอภิปรายแน่นอน ไม่ได้โม้” นายยุทธพงศ์กล่าว

ธรรมนัสร่วมทานข้าวล้าน%

นายยุทธพงศ์ยังกล่าวถึงการรับประทานอาหารค่ำกับนายพิเชษฐและพรรคเล็กว่า ได้รับประทานอาหารร่วมกัน 2  ครั้งแล้ว และการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันครั้งต่อไปจะเชิญ ร.อ.ธรรมนัสมาด้วย ในวันที่ 23 พ.ค. เวลา 18.00  น. เพราะเป็นวันแรกที่มีการเปิดสมัยประชุมสภาครั้งที่ 1/2565 ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสรับว่าจะมา 1 ล้านเปอร์เซ็นต์  ส่วนสถานที่กำลังหากันอยู่ แต่ได้นัดหมายกันไว้แล้ว เที่ยวนี้จะเชิญสื่อมวลชนไปด้วย จะได้เห็นจะได้รู้ว่าใครบ้างที่ไล่  พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องปกปิด

ด้าน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรค  ศท. กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสนัดรับประทานอาหารร่วมกับพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องส่วนตัว อย่าไปคิดอะไรเลย  ธรรมดาเขาก็ไปทานข้าวกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรสับสน ไปคิดกันเอง เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นเพื่อนกันทุกคน

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมีจุดหมายชัดเจนคือล้มรัฐบาล  พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ของเขา ส่วนที่มีกระแสข่าวล้มนายกฯ ในสภานั้น​ ไม่มี และพรรคไม่ได้เกี่ยวข้องขบวนการ ไปเขียนกันเอาเอง ทั้งที่จริงไม่มีขบวนการอะไรทั้งนั้น ต้องว่าไปตามสถานการณ์ เมื่อถามย้ำว่าพรรคเศรษฐกิจไทยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่หรือไม่ พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า “ใช่”

ต่อมา พล.อ.วิชญ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีอะไร สามารถกินข้าวกันได้ ส่วนที่ระบุว่าจะมีการพูดคุยถึงเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น การที่จะพูดเรื่องอะไร เขาคงไม่มาบอก ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสเคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน มีสิทธิ์ที่จะกลับไปพูดคุยหาเพื่อนฝูงได้ ไม่มีอะไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้คนสับสนเพราะนายยุทธพงศ์คาดหวังว่า ร.อ.ธรรมนัสจะช่วยฝ่ายค้านล้ม พล.อ.ประยุทธ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า "ไม่มี เขาทำอะไรก็ต้องไม่ขัดกับมติของพรรค มติพรรคมีอยู่แล้วว่าสมาชิกพรรคต้องทำอย่างไรกันบ้าง" เมื่อถามว่า มติของพรรคคือการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อใช่หรือไม่  พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า พูดง่ายๆ คือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเป็นหลัก พรรคเอาตามนั้น 

“ไม่ถึงขนาดมีบิ๊กเซอร์ไพรส์อะไรหรอก อย่าไปคิดอะไรมากมาย การเมืองเราบอกไม่ได้หรอกว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไร ถึงเวลาแล้วมันอาจเป็นยิ่งกว่าที่เราคิดก็ได้ หรืออาจไม่เป็นก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดมาก ทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ดีที่สุด อย่าไปคิดอย่างอื่น” หัวหน้าพรรค ศท.กล่าวตอบคำถามที่ว่า จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ 

พล.อ.วิชญ์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.การคลัง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์  อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ จะเข้าร่วมพรรค  ว่า นายธีระชัยตอบรับและสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อยแล้ว จะเรียกว่าเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจก็ได้ เพราะอาวุโสและมีความสามารถสูง ขณะที่นายมิ่งขวัญยังไม่ได้ตอบรับเข้ามา แต่คงเร็วๆ นี้ รวมทั้งยังมีบุคคลอื่นเข้ามาเซอร์ไพรส์อีก โดยจะเป็นทีมงานด้านเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม นายธีระชัยกลับกล่าวว่า "ยังๆ ยังไม่ได้ตัดสินใจ" 

ชาติพัฒนาขอคัมแบ็ก

ส่วนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เผยแพร่คลิปบนเฟซบุ๊กยืนยันการทำพรรคครั้งนี้ต้องฝ่าวิกฤต ยุติความขัดแย้งให้ได้ โดยพรรคจะเป็นตัวแปรเป็นส่วนที่จะสลายความขัดแย้ง            

ที่ศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ ประธานพรรค ชพน. เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรค พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรค โดยนายสุวัจน์ระบุว่า ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ จ.นครราชสีมาจะมี ส.ส.ได้ 16 คน โดยสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ พรรคเคยได้ ส.ส. 15 คน ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งใหม่พรรคมีความพร้อม และจะเอายุคทองสมัย พล.อ.ชาติชายกลับคืนมาอีกครั้ง

สำหรับความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยเฉพาะเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมด้วยนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท แถลงข่าวเสนอสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดย นพ.ระวี กล่าวว่า วิธีคำนวณแบบ 100 หาร ที่พรรคขนาดใหญ่เสนอนั้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 จริง แต่ขัดกับมาตรา 93 และ 94 ส่วนสูตรคำนวณแบบ 500 หาร หรื อ MMP ที่พรรคขนาดเล็กและพรรคขนาดกลางเสนอ  สอดคล้องกับมาตรา 93 และ 94 แต่ขัดมาตรา 91 รวมทั้งยังทำให้คะแนนตกน้ำและไม่เป็นไปตามระบบจัดสรรปันส่วนผสมเช่นกัน ดังนั้นจึงขอสูตรใหม่ 500 หารใหม่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 93 และ 94 แต่ก็ยังขัดกับมาตรา 91 โดยในวันที่ 12 พ.ค.จะนำเสนอสูตรที่คิดค้นขึ้นต่อคณะ กมธ.

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะ กมธ.กล่าวถึงข้อเสนอของ นพ.ระวีว่า  ข้อเสนอดังกล่าวมีปัญหาสำคัญ 3 ประการ คือ 1.ขัดหรือแย้งต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2564 มาตรา 91 2.ฝ่าฝืนข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 89 วรรคท้าย ที่ห้าม กมธ.เพิ่มมาตราหรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราที่ขัดกับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ และ 3.ทำลายเจตนารมณ์ของประชาชนในการเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง

“หากมีการเสนอก็ต้องอภิปราย และผมพร้อมลงมติไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขให้ใช้จำนวน ส.ส. 500 คนหาร ตามเหตุผลที่กล่าวอ้าง มองว่าจะทำให้เกิดปัญหา โดย กมธ.จะพิจารณาเรื่องดังกล่าววันที่ 12 พ.ค.” นายไพบูลย์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.