อย่าฟังพวกไม่มีชาติ บิ๊กตู่บอกคนไทยในสหรัฐ ชี้ศาลตีความวาระ4-5ด.!

“บิ๊กตู่” เมินพวกไล่ ลั่นไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เหน็บอย่าไปฟังไอ้พวกไม่มีชาติ “ไพบูลย์” เชื่อศาล รธน.ใช้เวลาตีความปมวาระนายกฯ 8 ปี นาน 4-5 เดือน “หมอระวี” น้อมรับมติ กมธ. เคาะสูตรคำนวณหาร 100 แต่ขออย่าเพิ่งนับศพทหาร “พิเชษฐ” ดิ้นอุทธรณ์โทษ “บิ๊กป้อม”

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ที่ห้อง George Washington โรงแรม St. Regis พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐ (สมัยพิเศษ)

โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ท่านเป็นตัวแทนของคนไทยในต่างประเทศ เพราะฉะนั้นต้องทำหน้าที่เพื่อแผ่นดินเกิดของท่าน จะทำอย่างไรให้ไม่ลืมบ้านเกิดของเรา ไม่ลืมบ้านเกิดของต้นตระกูล วันนี้จะเห็นว่าหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะ โลกปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด การทำงานไม่ได้ง่ายนัก จะต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการที่จะเสพหรืออ่าน เชื่อหรืออะไรก็แล้วแต่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ตนเข้ามาทำงานอยู่หลายปี ผ่านวันเวลาเหล่านั้นมาอย่างอดทน อดทนเพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่สุดแล้วแต่ประชาชนจะว่าอย่างไร แต่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยจะต้องไม่ทุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่ทำอะไรที่ผิด นี่คือเป้าหมาย ทำเพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง เพื่อตระกูลตน หรือเพื่อใครสักคนเลย ตนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรจะดูแลประชาชนคนไทยให้ดีที่สุดทั้งในและต่างประเทศ ถ้าในประเทศพอได้ แต่ถ้าเป็นต่างประเทศต้องเจรจากันมากหน่อย บางทีในประเทศยังเจรจากันไม่รู้เรื่องเลย เพราะว่ามีปัญหากับคน ทำไมเขาถึงเรียกคำว่ามนุษย์คือคน คำว่าคนคือคนใส่ไปในหม้อ คนมั่วไปหมด คือเละไปหมด ความคิดแตกต่างตนห้ามใครไม่ได้ แต่เรามีหลักการ เราต้องมีภูมิต้านทานภูมิคุ้มกันในการที่จะเสพ จะฟัง จะเชื่อ จะอ่าน ยอมรับว่าตนอ่านทั้งหมด

“เช้าขึ้นมาเปิดขึ้นมาด่าผมครึ่งหนึ่ง ผมก็สบายใจของผม ไม่มีอะไรด่าก็ด่า เพราะผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่า ไอ้สิ่งที่ผมทำไม่เห็นชมผมเลย ก็ช่างเขา ผมไม่ได้ต้องการรับคำชมเชย แต่ต้องการให้เห็นว่าประเทศไทยเจริญขึ้นมาอย่างไรแล้วในวันนี้" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

 นายกฯ ยังระบุว่า ส่วนการเตรียมการจัดประชุมเอเปก อยากให้คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี เรื่องความรักความสามัคคี ตนห่วงแค่นั้น อย่างไรก็ตาม ช่องทางสื่อสารใหม่ที่ใครก็เป็นนักข่าวได้ เป็นตำรวจได้ เป็นอะไรได้หมดเลย แสดงความคิดเห็นได้ทั้งหมด แล้วคนก็เชื่อตาม คนทำงานแทบตายผิดหมด เราต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี ส่วนคนไม่ดีก็มี นายกฯ ปลดทิ้งไล่ออกไปเยอะแล้ว

“มันต้องมีทุกคน คนดี คนชั่ว ไม่ดีก็ไม่เอาไว้ ถ้าตราบใดถ้าผู้นำเราไม่ทุจริต ทำได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้น นายกฯ ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ใครจะว่า ใครจะไล่ ไล่ได้ก็ไล่ไป แต่ที่อยู่วันนี้ต้องการทำให้ดีที่สุด”นายกฯ กล่าว

นายกฯ พูดกับคนไทยที่สหรัฐด้วยว่า อย่าลืมแผ่นดินที่โน่น คือแผ่นดินเกิด แผ่นดินที่นี่คือแผ่นดินหากิน แล้ววันหน้าจะอยู่ไหนเป็นเรื่องของท่าน ลูกหลานตนเคยเจอเด็กๆ ที่กลับไป ไปเยี่ยมเมืองไทย พูดไทยได้ รำไทยได้ อย่างน้อยเขาไม่ลืมชาติกำเนิด ทุกประเทศเขาปลูกฝังอย่างนี้ อย่าไปฟังไอ้พวกที่ไม่มีชาติเลย หลายคนบอกไม่ต้องมี มันไม่ได้ ก็รู้อยู่ ตนไม่ทะเลาะกับเขา 

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ยังได้กล่าวถึงผลงานรัฐบาล พร้อมเปิดวีดิทัศน์ให้คนไทยในสหรัฐได้รับชม เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเสริมทาง สร้างถนน ขนส่งทางราง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยการพบปะคนไทยในสหรัฐครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลานานถึง 1 ชั่วโมง 

เมื่อวันศุกร์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ.… รัฐสภา กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุการพิจารณากฎหมายลูกจะเสร็จหลัง ก.ค. โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะกระทบกับกฎหมายลูก เพราะเป็นช่วงที่อาจมีผู้ยื่นตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีว่า ตนคาดว่าการพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะเสร็จประมาณ ก.ย.หรือ ต.ค.65 และตนเชื่อว่าปมนายกฯ 8 ปี จะไม่กระทบกับกฎหมายลูก

รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า หากจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จะต้องยื่นหลังวันที่ 24 ส.ค. และคิดว่าผู้ที่จะยื่นคือ ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยเมื่อยื่นแล้วคาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้กระบวนการพิจารณาไม่น้อยกว่า 4-5 เดือน หรือหลังเดือน ม.ค.66 จึงจะมีคำวินิจฉัยออกมา อย่างไรก็ตาม ได้ดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากบทบัญญัตินี้อยู่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ ซึ่งใช้บังคับที่มาของนายกฯ ในมาตราเดียวกัน ส่วนจะมีโอกาสที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในช่วงเกือบครบวาระของรัฐบาลในช่วงเดือน มี.ค.66 หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะต้องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็เป็นไปได้

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ.… กล่าวถึงกรณี กมธ.เสียงส่วนใหญ่ลงมติใช้สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์หารด้วย 100 ว่า เราอยู่ใน กมธ. ต้องยอมรับว่ามติเสียงข้างมากเขาเลือกสูตรหารด้วย 100 แต่เราก็ดำเนินตามระเบียบคือสงวนคำแปรญัตติ ส่วนแนวทางหลังจากนี้ พูดได้คำเดียวว่าสงครามยังไม่จบยังไม่นับศพทหาร ยังต้องสู้กันด้วยเหตุและผลในวาระ 2 และ 3 กันอีกครั้ง

นพ.ระวีกล่าวอีกว่า เมื่อจบในวาระ 3 ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะก็ตาม ตามระเบียบรัฐสภาจะต้องยื่นไปให้องค์กรอิสระ ไม่ว่าจะศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือศาลฎีกาดูทั้ง 2 ฉบับ และต้องจบที่ว่าองค์กรอิสระตีความกลับมาอย่างไร หากตีความกลับมาว่าต้องแก้ รัฐสภาก็อาจจะต้องแก้ไข แต่หากตีกลับมาว่าไม่มีอะไรที่ต้องแก้ไขก็ถือว่าจบ และสามารถนำขึ้นโปรดเกล้าฯ ได้ ฉะนั้นสิทธินี้ยังไม่จบ จะจบในวาระ 3

เมื่อถามว่า ได้คิดเรื่องแนวทางการยุบพรรคหรือควบรวมพรรคไว้หรือไม่ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ตอบว่า สมมุติว่าหากหาร 500 เกิดพลิกชนะ พรรคเล็กทั้งในและนอกสภามีโอกาสควบรวมพรรคน้อย เพราะทุกพรรคอาจจะสู้ได้ แต่หากหาร 100 ชนะ พรรคเล็กอาจจะดำเนินการไป 2-3 รูปแบบ คือ 1.บางพรรคอาจจะถอยเลย 2.บางพรรคอาจจะมีการควบรวมกันหรือไปรวมกับพรรคใหญ่ และ 3.บางพรรคอาจจะยืนหยัดสู้ต่อไป ซึ่งย้ำว่าพรรคพลังธรรมใหม่จะสู้ต่ออย่างเต็มรูปแบบ

นายกิตติ วะสีนนท์ ส.ว. ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ…. กล่าวว่า ส.ว.ไม่ได้เป็นในแนวทางเดียวกันหมด มีความเห็นแตกต่างกัน ส่วนตัวตนได้อภิปรายตั้งแต่วาระ 1 แล้วว่ามาตรา 91 สามารถตีความเรื่องการคำนวณได้หลายทาง ในความเห็นของตน การคำนวณเพื่อให้ได้ MMP เป็นการคำนวณที่สะท้อนความนิยมของพรรค มันมีความก้าวหน้าในเชิงการเมือง หลายประเทศพยายามทำ คิดว่ายังมีวิธีที่ยังไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะในการโหวตเขาโหวตว่าจะเอาตามร่างหลักคือหารด้วย 100 หรือจะให้มีการแก้ไข ส่วนตนโหวตให้ควรแก้ไข

นายกิตติระบุว่า ค่อนข้างพอใจในสปิริตของ กมธ. ที่ใช้เหตุและผลคุยกัน ไม่ได้โต้เถียงกันเอาเป็นเอาตาย เป็นการประชุม กมธ.ที่ราบรื่นและเคารพกัน แม้จะมีความเห็นต่างกันก็ยอมรับ ใครที่คิดว่ายังติดใจก็สงวนความเห็นไว้และไปอภิปรายกันอีกครั้งในวาระ 2

ซักว่า จะมีผลต่ออะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวาระ 2-3 หรือไม่ นายกิตติตอบว่า มีที่ นพ.ระวีท้วงว่าที่แก้มาตรา 83, 86, 91 ที่ไม่ได้แก้มาตรา 93, 94 ที่มีเรื่อง ส.ส.พึงมีอยู่ ซึ่งมีการตีความกันไป บางคนที่สนับสนุนให้หาร 100 ตรงๆ ก็บอกว่า ส.ส.พึงมีจะเป็นแบบไหนก็ได้ ซึ่งทุกคนเข้าใจว่าต้องไปศึกษารัฐธรรมนูญ เมื่อจบวาระ 3 ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องคือ กกต. ว่าจะมีความเห็นสอดคล้องหรือแย้งกันอย่างไร

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 ว่า อยากให้เพื่อน ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นแก่ประเทศชาติที่จะเดินหน้าไปได้ ส่วน ชพน.ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ นอกจากนี้คิดว่าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนายกฯ เราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลต้องสนับสนุนอยู่แล้ว ชพน.เราไม่มีปัญหา โนพรอมแพลม  

วันเดียวกัน นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ลงโทษกรณีการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพรรคว่า ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เพราะไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา ซึ่งข้อกล่าวหาไม่ใช่เรื่องจริง และบทลงโทษส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงตัวเอง

นายพิเชษฐยังปฏิเสธ 3 ข้อกล่าวหาของคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคด้วยว่า 1.การประชุมกับฝ่ายค้าน ในการตรวจสอบการทุจริตเป็นการร่วมกันกระทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองนั้น ตรงนี้เป็นเรื่องที่นักการเมืองคุยกัน ไม่ได้เป็นการร่วมกันวางแผนใดตามข้อกล่าวหา 2.ส่วนข้อกล่าวหาที่ระบุว่ามีการพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหลบหนีคดีในต่างประเทศนั้น ขอชี้แจงว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนต่อสายพูดคุย แต่เป็นนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคราม รองหัวหน้าเพื่อไทย เป็นผู้ต่อสายซึ่งตัวเองเพียงอยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น รับประทานอาหารอยู่ ส่วนภาพที่ปรากฏตัวเองใช้โทรศัพท์นั้น เป็นการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ขอให้เคลื่อนไหวการเมืองเบาๆ หน่อย

หัวหน้ากลุ่ม 16 ระบุอีกว่า และ 3.จุดยืนการตั้งกลุ่ม 16 ที่ยืนยันจะเดินหน้าตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม 16 เป็นที่คาดหวังของประชาชนในการตรวจสอบการทุจริต พร้อมกับยืนยันการนัดดินเนอร์ร่วมกับนายยุทธพงศ์ ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ตนขอย้ำไม่มีการพูดเรื่องเงินทองใดๆ ในการเคลื่อนไหว โดยดำเนินการชี้แจงนั้น เพื่อปกป้องชื่อเสียงตัวเอง พร้อมตั้งถามกลับมีการวางแผนจะปิดปากตัวเอง เพื่อให้ออกจากวงการการเมืองหรือไม่.