ไม่สนปลุกเสื้อแดง ‘บิ๊กตู่’ชี้มีฝ่ายมั่นคงดูแล/พท.โอ่‘อุ๊งอิ๊ง’กระแสตอบรับดีมาก

“ประยุทธ์” โวยลั่นใครจะทำรัฐประหาร เตือนสติให้ไปดูพฤติกรรมในอดีต บอกเรื่องดึงเสื้อแดงกลับบ้าน หากเกิดความวุ่นวายฝ่ายความมั่นคง-กฎหมายมีอยู่ “ชัยวุฒิ” เชื่อคนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยวนลูปกลับไปเผาบ้านเผาเมือง  “ชลน่าน” พลิ้วบอกไม่ใช้คำว่าคนเสื้อแดง  แค่ให้เข้ามาร่วมครอบครัวเพื่อไทยร่วมงานการเมือง ยังกั๊กชื่อ “แพทองธาร” นั่งแคนดิเดตนายกฯ ส่วน สอท.ไม่กั๊กคาด 1 เดือนทาบ “สมคิด”

เมื่อวันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่มีการนำเรื่องการรัฐประหารมาพูดปลุกกระแสว่า เป็นเรื่องของเขา ไม่อยากจะเข้าไปเกี่ยวข้อง อีกทั้งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แค่มีเพียงสิทธิหนึ่งเสียงที่จะไปเลือกเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นสิ่งใดที่พูดมา ถ้าใครพูดย้อนเรื่องเก่าก็กลับไปดูเรื่องเก่าๆ มาด้วยก็แล้วกัน ว่าได้ทำอะไรกันไปแล้วบ้างของแต่ละคน

เมื่อถามว่า ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดจึงหยิบยกเรื่องการรัฐประหารมาพูดในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็อย่าไปสนใจสิ พร้อมย้อนว่า "แล้วใครจะไปรัฐประหาร ใครจะทำล่ะ ที่ผ่านมาเขาทำกันเมื่อไหร่ ทำเพราะอะไรย้อนกลับไปดูพฤติกรรมสมัยก่อนก็แล้วกัน ถ้าใครจะว่าแล้วบ้านเมืองอยู่มาถึงวันนี้ได้ สงบแบบนี้มันเพราะอะไร แล้วใครอยากจะให้มันเกิดขึ้นอีกหรือ ไม่มีหรอก ผมก็ไม่อยากทำ"  

ในช่วงท้ายก่อนกลับขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะสยบข่าวลือการโยกย้ายผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในช่วงปลายปีอย่างไร  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่มี ยังไม่ถึงเวลา”

ส่วนนายชัยวุฒิ​ ธนาคมานุสรณ์​ รัฐมนตรีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม​ (ดีอีเอส)​ กล่าวถึงการหารือเสียงของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ว่า เรื่องแบ่งฝั่งหรือไม่แบ่งฝั่งอยู่ที่ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งตัดสินใจ​ แต่พรรคการเมืองควรทำหน้าที่ตรงไปตรงมาตามระบอบประชาธิปไตย จะแบ่งฝ่าย​กัน​ สร้างวาทกรรม เพื่อสร้างความเกลียดชังและหาคะแนนเสียง ไม่ใช่เรื่อง​

“อยากให้เลือกคนที่ดีคนที่มีความรู้ความสามารถมาบริหาร กทม. อย่าไปเลือกการเมือง เพราะ กทม.ไม่ใช่เวทีของนักการเมืองที่จะดูแลทุกคนด้วยการเมือง แต่มันเป็นเรื่องของการบริหารท้องถิ่น" นายชัยวุฒิ​กล่าว

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนแทน พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะไปปาฐกถา หัวข้อ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม ในวันที่ 19 พ.ค. เกี่ยวกับการส่งสัญญาณเลือกผู้ว่าฯ กทม.ด้วยหรือไม่ ว่านายกฯ ระบุว่าเกี่ยวกันตรงไหน เป็นการทำความเข้าใจ เปิดเวทีเสวนาให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาล รับฟังความคิดเห็น และตอบคำถาม

                    นายธนกรยังตอบคำถามกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) ชูแคมเปญชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน จะเป็นการปลุกความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่ากฎหมายมีอยู่แล้ว หากเกิดความรุนแรงวุ่นวายขึ้นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคง

นายชัยวุฒิ​กล่าวประเด็นนี้ว่า มีความรู้สึกว่าคนเสื้อแดงอยู่กับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว เป็นเนื้อเดียวกันมาตลอด เพียงอาจจะงอนกันบ้างบางคน และไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย คนกลุ่มนี้เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย เขาสร้างมาโดยการเมืองฝั่งนี้อยู่แล้ว แต่เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางคนเสื้อแดง คนส่วนใหญ่อยากจะทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่ได้มีความรุนแรง ไม่ได้มาประท้วง ไม่มีการโจมตีกัน อยากให้บ้านเมืองสงบสุข เดินหน้าไปด้วยความสงบเรียบร้อย

พปชร.เมินคนเสื้อแดง

เมื่อถามว่า จะกระทบกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ในเรื่องกลยุทธ์ของการเลือกตั้ง นายชัยวุฒิกล่าวว่า คนเสื้อแดงไม่ได้เลือกเราอยู่แล้ว ไม่มีผลหรอก เราต้องเอาคนกลุ่มอื่นสิ เยอะแยะ ประชาชนส่วนใหญ่เขาไม่ได้เป็นคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงเป็นคนส่วนน้อย

เมื่อถามว่า ถือว่าแบ่งแยกกลุ่มกันชัดเจน แฟนคลับพรรคใครพรรคมันใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า แฟนคลับใครแฟนคลับมัน ของเราก็มีเยอะแยะ ดูทั้งประเทศสิ อย่าไปดูบางจุดบางกลุ่ม ทั้งประเทศคนส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางของคนเสื้อแดงหรอก เชื่อเถอะ แต่เขาก็มีแฟนคลับของเขา แต่ถ้าเอาคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศนั้นไม่ใช่ เราดูภาพรวมของทั้งประเทศ ดูว่าคนไทยส่วนใหญ่อยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร ให้บ้านเมืองสงบ เดินหน้า แก้ไขปัญหาประชาชน และไม่ต้องการการเมืองที่มาสร้างความแตกแยกขัดแย้ง มันหมดเวลาแล้ว เดินไปข้างหน้าเถอะ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาทุกพรรคการเมืองต้องหาเสียง ถึงอย่างไรปีหน้าก็จะมีการเลือกตั้งทั่วไป แต่ละพรรคก็ต้องมีแนวทางหาเสียงของตัวเองว่าฐานเสียงอยู่ตรงไหน แต่คิดว่าประชาชนจะพิจารณาอย่างไรอยู่ที่บทเรียนในประวัติศาสตร์ ประชาชนติดตามสถานการณ์ในประวัติศาสตร์ทั้งอดีตปัจจุบันและคาดการณ์ในอนาคตเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจ

เมื่อถามว่า บทเรียนที่ระบุหมายถึงอะไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ทุกพรรคเคยปฏิบัติหน้าที่มาแล้วยกเว้นพรรคเกิดใหม่ ฉะนั้นจะเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาของประชาชน ส่วนประชาชนจะพิจารณาอย่างไรก็ต้องเคารพ เพราะพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยขึ้นอยู่กับประชาชน

ถามย้ำว่า พรรค พท.ชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน ปชป.จะชูอะไร นายจุรินทร์กล่าวว่า พรรคจะชูผลงานและอุดมการณ์ ซึ่งประกาศที่ จ.สงขลาแล้วว่า ปชป.ในภาคใต้เราจะคัมแบ็ก เช่นเดียวกับทั้งประเทศ เพราะผลงานที่เราร่วมรัฐบาลมีมากมาย

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขกล่าวว่า เป็นความคิดเห็นทางการเมือง แต่ขออย่าไปเพิ่มความขัดแย้งให้กับบ้านเมือง และให้ประชาชนตัดสินในวันเลือกตั้ง

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธารชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน โดยยอมรับว่าการที่เราจะชนะแบบแลนด์สไลด์มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป ทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนที่สนับสนุนพรรคต้องร่วมมือร่วมใจกัน ซึ่งฐานผู้ที่ให้การสนับสนุนตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และเกิดกระบวนการคนเสื้อแดงขึ้นในช่วงปี 2551-2553 เมื่อเราถูกกระทำและมีรัฐบาล คสช.ขึ้นมา เราถูกตั้งเงื่อนไขให้แยกสลาย แต่ละคนก็กระจัดกระจายกันไป แต่สิ่งสำคัญคือกลไกที่จะมารวมตัวกันต้องห้ามปิดกั้น ฉะนั้น ครอบครัวเพื่อไทยจึงเป็นนวัตกรรมที่จะเชิญคนที่มีแนวคิดและอุดมการณ์ที่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงมาร่วมแรงร่วมใจ ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่เราตั้งใจทำ ส่วนใครจะมีส่วนร่วมหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ

เมื่อถามว่า มีการมองว่าการที่เสื้อแดงกลับมาจะสร้างความขัดแย้งใหม่อีกครั้งในสังคมหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราไม่ได้ใช้คำว่าเสื้อแดง ความเป็นเสื้อแดงและ นปช.ยังติดตัวเขา แต่เมื่อคุณมาร่วมงานการเมืองกับเรา เราเชิญชวนให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งความเป็นครอบครัวเพื่อไทยมีโอกาสในการแสดงออกในเรื่องสิทธิเสรีภาพ โดยเฉพาะสิทธิเรื่องการเมืองมากกว่าความเป็นเสื้อแดงและ นปช.ที่ถูกจำกัดเรื่องข้อกฎหมายหลายเรื่อง

ยังกั๊กดัน 'แพทองธาร'

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ เมื่อไหร่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง เช่น มีการยุบสภา เราจะประกาศทันที ส่วนจะเป็น น.ส.แพทองธารหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะอยู่ในกลไกของการพิจารณาของพรรค แต่ชัดเจนว่าเราจะส่ง 3 รายชื่อ ส่วน น.ส.แพทองธารจะเป็น 1 ใน 3 รายชื่อหรือไม่นั้น ต้องอยู่ในกระบวนการพิจารณาและการตอบรับของประชาชน คณะทำงานยังดูอยู่เรื่อยๆ โดยมีมุมมองที่หลากหลายในเรื่องนี้ว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ถ้าเสนอไปประชาชนต้องร้องว้าว และมีความมั่นใจว่าจะเลือกพรรค เพราะเห็นผู้นำเช่นนี้

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธารลงพื้นที่หลายครั้ง และได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ถือว่าการันตีได้หรือไม่ว่าเหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกฯ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เท่าที่ลงพื้นที่มา น.ส.แพทองธารได้รับการตอบรับจากประชาชน แต่จะด่วนสรุปว่าได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเลยก็ยังไม่ได้ ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เท่าที่ผ่านมากระแสตอบรับดีมาก ซึ่งก็เป็นช่องทางหนึ่งที่เราสามารถบอกได้ว่าคนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชน ประชาชนสัมผัสได้ เข้าถึงและมีความมั่นใจว่าจะสามารถนำพาประเทศให้พ้นจากวิกฤตได้ และสร้างอนาคตให้กับประเทศได้

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธารลงพื้นที่หลายครั้ง เป็นการหยั่งเชิงหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่ใช่การหยั่งเชิง เป็นการประกาศตัวและมาทำงานช่วยพรรค เข้ามาเป็นประธานยุทธศาสตร์อย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ เป็นสมาชิกพรรคและมาทำงานในส่วนของการดูนโยบายด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของพรรค และการที่ น.ส.แพทองธารมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพราะเป็นจุดเชื่อมโยงในเรื่องของอุดมการณ์ที่มีตั้งแต่สมัยไทยรักไทยจนถึงปัจจุบัน โดย น.ส.แพทองธารมีความเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นจุดเชื่อมให้ทุกฝ่ายมารวมกันได้

รายงานจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุม ครม.ได้มติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 และให้ความเห็นชอบการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบฯ จำนวน 64 คน โดย พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าจะเข้าสภาระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ก็ขอให้ทุกคนช่วยกัน และเตรียมการให้พร้อม ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเฉพาะการตั้ง กมธ.งบประมาณฯ ที่เคยได้ยินข่าวว่า กมธ.บางคนไปเรียกรับผลประโยชน์ ถ้ามีใครทำเช่นนั้น ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ใครมีข้อมูลอะไรให้รายงานมาด้วย

ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเสริมว่า พ.ร.บ.งบฯ ปีนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของรัฐบาล อาจมีการใส่ความแบบรุนแรงสุดโต่ง จึงอยากให้รัฐมนตรีนำเสนอเพื่อความเข้าใจในภาพรวมก่อนที่จะเข้าสู่สภา รวมถึงให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ให้ความรู้ต่อ ส.ส. ก่อนกฎหมายเข้าสภา

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะมีประชุมสภาระหว่างวันที่ 25-27 พ.ค. จากนั้นจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.ถึง 2 มิ.ย. ส่วนการประชุมรัฐสภา โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ตำรวจที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว อาจต้องใช้เวลาประชุมถึง 2 วัน ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับนั้น กำลังรออยู่ และเตรียมเวลาประชุมไว้พอสมควร ทั้งนี้ 120 วันต่อจากนี้จะมีเรื่องค้างอยู่มาก เรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้วก็มีหลายเรื่องค้างอยู่

                    นายชวนยังกล่าวถึงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แวว เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านจะพิจารณาในการยื่นญัตติ เพราะสามารถทำได้ทั้งสมัยประชุมที่จะถึงนี้ในอีกไม่กี่วัน และสมัยประชุมหน้า แต่ตามข่าวเห็นว่าจะยื่นในเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้ ฉะนั้นต้องรอดูว่าฝ่ายค้านจะยื่นเมื่อใด

นายสาธิต ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ..… ระบุว่า ในวันที่ 18 พ.ค. จะทบทวนและให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจง และในวันที่ 19 พ.ค. จะทบทวนเนื้อหาทั้งหมดอีกครั้ง จากนั้นจะนำร่างที่แก้ไขและตรวจคำผิดแล้วเสนอต่อนายชวนในวันที่ 24 พ.ค. ส่วนจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภาเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับนายชวน แต่คิดว่าจะบรรจุญัตติโดยเร็ว เพราะเป็นกฎหมายสำคัญ ส่วนความเห็นของสมาชิกรัฐสภาจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับแต่ละคน โดยร่างตั้งตนเป็นของฝ่ายรัฐบาล จึงคิดว่าสมาชิกรัฐสภาจะให้ความเห็นชอบเพื่อดำเนินการให้มีกฎหมายใช้ให้ได้

ฟุ้งพรรคเล็กพรรคแยกหนุน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ครั้งนี้เป็นการอภิปรายปีสุดท้าย และครั้งสุดท้าย ดังนั้นประเด็นเนื้อหาสาระ ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่เราใช้ ฝ่ายค้านเตรียมพร้อมเต็มเปี่ยม และมั่นใจมากว่าจะทำให้ประชาชน ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลยอมรับในเหตุและผลในข้อหาข้อเท็จจริง ทำให้การตัดสินใจในการลงคะแนนมีเหตุผลรองรับ และเชื่อว่าหลายพรรคอยากทำเพื่อชาติบ้านเมือง อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประเทศชาติ ก็อาจตัดสินใจลงคะแนนไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีหรือนายกฯ ที่เราอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ โดยเราคาดหมายทุกพรรค รวมถึงพรรคเล็ก และกลุ่มพรรคที่แตกออกมาตั้งใหม่ เชื่อว่าเราน่าจะได้รับความร่วมมือจาก ส.ส.ที่เห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง เพราะค่อนข้างมีอิสระในการตัดสินใจพอสมควร

นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ กล่าวถึงกรณี กมธ.เตรียมส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ ให้ยกเลิกโครงการบริหารและดำเนินกิจการท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่า กมธ.ยื่นหนังสือดังกล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับนายกฯ จะทำตามหรือไม่ หากผลสุดท้ายไม่มีการทบทวน ปล่อยให้เป็นไปตามการประมูลเหมือนเดิม ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นมา รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะ กมธ.ได้เตือนแล้ว

วันเดียวกัน ยังมีความเคลื่อนไหวทางการเมือง เมื่อนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ทำหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เพื่อคัดค้านมติคณะกรรมการข้อกฎหมายและข้อบังคับพรรค ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นประธาน

ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ก็เคลื่อนไหวอีกครั้งหลังไปกล่าวปาฐกถาพิเศษปิดหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง (LFC) รุ่นที่ 12 เมื่อวันที่ 15 พ.ค. โดยได้มีการโพสต์ภาพนายสมคิดพร้อมข้อความ Behind the Scene of the Future ซึ่งแปลว่า เบื้องหลังอนาคต และข้อความว่า “เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกสร้างอนาคตไทยได้” รวมทั้งมีการติดแฮชแท็กด้วยว่า #สมคิดสร้างอนาคตไทย

ส่วนที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมแกนนำพรรค ได้จัดทำพิธีทำบุญพรรค ก่อนการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) โดยที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อกำหนดแนวนโยบายของพรรคให้ทันแข่งขันเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึงนี้ จำนวน 10 คน และแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ จำนวน 7 คน

นายอุตตมยังกล่าวถึงการเชิญนายสมคิดมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเมื่อใดว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพูดคุยกัน แต่เราจะเรียนเชิญแน่นอน เพียงแต่จะเลือกเวลาที่สอดคล้องเหมาะสมกับแผนงานของพรรค และนายสมคิด รวมถึงจะหารือกันถึงรูปแบบว่าจะเทียบเชิญอย่างไร คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานเกินไป

 รายงานข่าวแจ้งว่า ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ สอท.เตรียมจะเทียบเชิญนายสมคิดมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง